"เชาว์" ฟันธง รบ.เศรษฐา ถึงเวลานับถอยหลัง ชี้ "ทักษิณ" ทำพัง "เศรษฐา" กลายเป็น "นายกฯ เงา" มัวแต่เกรงใจนายใหญ่ ไม่เกรงใจ ปชช. ตั้ง ทนายถุงขนม เป็น รมต. ผิดจริยธรรมร้ายแรง ข้าว 10 ปี ทำเสียรังวัด คนสิ้นศรัทธา คาด ใกล้ถึงจุดจบแล้ว
วันที่ 20 พ.ค.67 นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ทนายเชาว์ มีขวด เรื่องนับถอยหลังรัฐบาลเศรษฐา โดยมีเนื้อหาระบุว่า...
ตนขอแสดงความชื่นชมต่อ 40 สว. ที่ไม่เฉย ไม่ทนต่อ ปัญหาจริยธรรมเสื่อมถอยที่เกิดขึ้นในรัฐบาลเศรษฐา จากการปรับ ครม.ครั้งใหม่ โดยการนำเอาคนมีตำหนิอย่างทนายถุงขนม พิชิต ชื่นบาน มาเป็นรัฐมนตรี ทั้งที่เคยติดคุกหกเดือน จากการละเมิดอำนาจศาล แม้คดีติดสินบนอัยการจะมีคำสั่งไม่ฟ้อง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาพ้นมลทิน เพียงแค่ว่ามีการตัดตอนจนทำให้คดีไปไม่ถึงศาลเท่านั้น และถ้าจะให้ย้ำกันอีกที ก็ต้องไม่ลืมว่า อัยการสูงสุดในขณะนั้นคือ นายชัยเกษม นิติสิริ หนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยในปัจจุบัน
ที่จั่วหัวไว้ว่า "นับถอยหลังรัฐบาลเศรษฐา" เพราะเห็นเช่นนั้นจริง ๆ บนปัจจัยหลักสองประการ คือ ความชั่วเริ่มมี ความดีไม่เป็นที่ประจักษ์ จะเห็นได้ว่าเป็นรัฐบาลมาเกือบปี ยังหาแก่นสารอะไรไม่ได้ นอกจากความพยายามดึงดนที่จะเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต ที่นักการเมืองได้หน้า คนไทยได้หนี้ แถมยังมีพฤติกรรมชวนครหาที่หนีไม่พ้นการเอื้อประโยชน์ให้ นายใหญ่ นายหญิง ทั้งเรื่องการเข้ามามีบทบาททางการเมืองของนายทักษิณ ชินวัตร จนทำให้นายเศรษฐา กำลังกลายสภาพเป็น นายกฯ เงา ไปแล้ว ขณะที่เรื่องข้าว 10 ปี ล้าง 15 น้ำ ที่ปนเปื้อนสารพิษ ก็ทำเอาเสียรังวัดแบบไปไม่เป็น แต่ยังพยายามลากสังขารเน่า ๆ ส่งกลิ่นต่อ จนคนไทยเขาเอือมระอาไปทั่วบ้าน ทั่วเมือง
“อีกปัจจัยสำคัญคือ พฤติกรรมเกรงใจนายใหญ่ แต่ไม่เกรงใจประชาชน ตั้งทนายถุงขนม เป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จนสว.เข้าชื่อถอดถอนทั้ง นายเศรษฐา และนายพิชิต ฐานขาดความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์และมีพฤติกรรมฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ซึ่งก่อนหน้านี้ผมก็เคยให้คำแนะนำไว้ว่า ทั้ง สส. และ สว.ไม่ควรนิ่งเฉยแต่ต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไว้เพื่อเป็นบรรทัดฐาน ดูเหมือนว่าวันนั้นใกล้เข้ามาทุกขณะ จนผู้คนเขาเริ่มนับถอยหลังรัฐบาลเศรษฐาแล้ว" นายเชาว์ ระบุทิ้งท้าย