วันที่ 19 พ.ค.67 ที่โรงแรมไอ โฮเท็ล อ.เมือง จ.นครพนม ส.ส.เดือน มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ส.ส.เขต 2 นครพนม พรรคเพื่อไทย เป็นประธานเปิดโครงการอบรมเครือข่ายอาสาวารี รุ่นที่ 44 จังหวัดนครพนม โดยความร่วมมือของกระทรวงคมนาคม ร่วมกับ กรมเจ้าท่า และหน่วยงานเกี่ยวข้อง ตลอดจนภาครัฐ เอกชน และตัวแทนภาคประชาชน ขานรับนโยบายรัฐบาล เกี่ยวกับการพัฒนาเมืองรองเป็นเมืองหลัก แห่งการท่องเที่ยว เพื่อสร้างเครือข่ายอาสาวารี สนับสนุนการบริการ ประชาชน นักท่องเที่ยวทางน้ำ การช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ การปฐมพยาบาลเบื้องต้น การให้คำแนะนำแก่ผู้สัญจรทางน้ำ การสอดส่องดูแลสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ สิ่งแวดล้อมทางน้ำ และการกระทำผิดกฎหมายการเดินเรือ ที่จะเป็นการเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวในน้ำโขง ให้มีคนสนใจมากยิ่งขึ้น มีดำเนินการ อบรมเครือข่ายอาสาวารีมาแล้ว 43 รุ่น มีผู้ผ่านอบรมจำนวนทั้งสิ้น 6,866 คน ส่วนรุ่นที่ 44 จังหวัดนครพนม มีผู้เข้าอบรมทั้งสิ้น 180 คน ในครั้งนี้ มีนายสรพงศ์ ไพฑูรพงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม นางรณิดา เหลืองฐิติสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า รวมถึงเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมเปิดการอบรม
ส.ส.เดือน มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ส.ส.เขต 2 นครพนม พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า สำหรับโครงการอบรมเครือข่ายอาสาวารี เป็นนโยบายของกระทรวงคมนาคม ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของความปลอดภัยในการเดินทางทางน้ำ จึงมุ่งที่จะรณรงค์ป้องกัน และสร้างมาตรการด้านความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ จึงดำเนินการอบรม ให้มีความรู้ ความเข้าใจในการสัญจรทางน้ำอย่างถูกต้อง ภายใต้นโยบาย “คมนาคม..สร้างสุขทุกการเดินทาง” ของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ โครงการ “ราชรถยิ้ม” ปลูกจิตสำนึกด้านความปลอดภัยทางน้ำให้กับประชาชนและองค์กรต่าง ๆ ในพื้นที่ ได้ทราบถึงกรอบหน้าที่ในการปฏิบัติงานด้านต่าง ๆ อาทิ ภารกิจ โครงสร้าง หน้าที่ของกรมเจ้าท่า การช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ การปฐมพยาบาลเบื้องต้น การให้คำแนะนำแก่ผู้สัญจรทางน้ำ การสอดส่องดูแลสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ สิ่งแวดล้อมทางน้ำ และการกระทำผิดกฎหมายการเดินเรือ เป็นต้น
นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม กล่าวอีกว่า กล่าวว่า นอกจากนี้จะเป็นการเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาการคมนาคมขนส่งทางน้ำกับประเทศเพื่อนบ้าน ส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำมากข้น เนื่องจาก จ.นครพนม มีเรือสำราญท่องเที่ยวชมแม่น้ำโขง ประเพณีแข่งเรือยาว เทศกาลไหลเรือไฟ ที่จะสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว ด้านการบริการ และการดูลความปลอดภัย ขานรับนโยบยรัฐบาล ในการยกระดับเมืองรองเป็นเมืองหลัก ยอมรับว่า นครพนม กำลังพัฒนาการท่องเที่ยวจากเมืองรอง เป็นเมืองหลัก พบว่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีอัตราการการเติบโตการท่องเที่ยว กว่า 300 เปอร์เซ็นต์ จึงต้องมีการพัฒนาการท่องเที่ยวทุกด้าน ทั้งการคมนาคมขนส่ง ทางบก ทางน้ำ ทางอากาศในด้านการหารือเพิ่มเที่ยวบิน ที่จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว ต่อไปในอนาคต โดยเฉพาะการท่องเที่ยวล่องเรือชมน้ำโขง เชื่อว่ากำลังเป็นที่สนใจของประชาชนนักท่องเที่ยว จึงต้องมีการเพิ่มศักยภาพ ดูแลบริการทุกด้าน
