“ก้าวไกล” จัดงาน Big Bang นำเสนอนโยบาย 6 ด้าน “พิธา” เทียบหากเป็น “รัฐบาล” จะเปลี่ยนระเบิดเวลามาจุดศักยภาพประเทศ เป็นโอกาสหาก “รัฐบาลมีวาระ” ขณะ “หมออ๋อง” โผล่ร่วมงานด้วย ลั่น “มาเยี่ยมเพื่อนๆ”

เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2567 ที่ไบเทคบางนา พรรคก้าวไกลงาน Policy Fest ก้าวไกล Big Bang เป็นงานนิทรรศการนำเสนอนโยบายของพรรค 6 ด้าน ได้แก่ เศรษฐกิจ การศึกษา คุณภาพชีวิต ปลดล็อคชนบทไทย ปฏิรูปรัฐครั้งใหญ่ และประชาธิปไตย โดยมีบูธที่นำเสนอโดย สส. และเวทีเสวนา

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และนายวีรยุทธ์ กาญจน์ชูรัตน์ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ในโอกาสจัดงาน Policy Fest ในโอกาสครบ 1 ปี เลือกตั้ง ได้ประเมินการทำงานของ สส.พรรคก้าวไกล อย่างไรบ้างนั้น นายพิธา กล่าวว่า เห็นว่าทำได้อย่างเต็มที่แต่มีเรื่องที่ยังต้องพัฒนาอีกเยอะ และพยายามมีการเทรนทั้งกรรมาธิการหรือ สก. ว่าที่ผู้สมัคร อบจ. รวมถึงท้องถิ่นที่เราชนะมาแล้ว การจะทำให้การเมืองเป็นเรื่องสนุกจึงเป็นที่มาที่ทำให้จัดงานเป็น Policy รวมกับ Festival

ด้าน นายวีรยุทธ์ กล่าวว่า งาน Policy Fest ครั้งที่ 1 จัดขึ้นเพื่อรวบรวมนโยบาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องยาก คนอาจเข้าไม่ถึงและเป็นการสื่อสารทางเดียวพรรคก้าวไกลจึงอยากจัดในรูปแบบมหกรรมที่อยากให้คนได้มีส่วนร่วมและถือโอกาสครบรอบหนึ่งปีภายหลังการเลือกตั้งเมื่อปี 2566 ซึ่งเป็นการเลือกตั้งที่มีประชาชนตื่นตัวและออกมาใช้สิทธิ์มากเป็นประวัติการณ์ และเป็นการตั้งคำถามว่าที่ผ่านมาเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างที่สังคมไทยคาดหวังแล้วหรือยัง พักก้าวไกลจะมาทำให้เห็นว่าทุกองคาพยพทำอะไรไว้บ้าง ทั้ง สก. สส. แยกรายประเด็นถึง 6 ประเด็น ให้ผู้สนใจเข้าไปเรียนรู้และให้ความเห็น เสียงตอบรับต่อนโยบายต่างๆของพรรคด้วย และทำให้พรรครู้ว่าผู้คนให้ความสนใจกับประเด็นใด

ผู้สื่อข่าวถามว่าการจัดงานวันนี้มีหลายคนมองว่าเป็นการจัดเพื่อชนกับงาน “10 เดือนที่ไม่รอ ไปต่อให้เต็ม 10” ของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายวีรยุทธ์ กล่าวว่า งานนี้มีความตั้งใจให้เป็นหมุดหมายของการทำงานครบหนึ่งปีอยู่แล้ว และมีการเตรียมงานมาค่อนข้างนาน หากไปดูขนาดงานที่จัดและรายละเอียดต่างๆ ก็จะพบว่าเป็นงานที่เตรียมมาล่วงหน้านานพอสมควร

เมื่อถามย้ำว่าไม่ได้ตั้งใจจัดมาชนให้เกิดการเปรียบเทียบว่า ถ้าวันนั้นเป็นรัฐบาลก้าวไกล วันนี้จะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างไรหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ใช่ครับ เราคิดว่ามี 6 ระเบิดเวลาของประเทศไทยที่หากรัฐบาลตั้งใจทำงานและมีวาระเป็นของตัวเองก็จะทำให้ระเบิดเวลาเหล่านั้นกลายเป็นศักยภาพที่ดีได้ ซึ่งตนได้เคยพูดเรื่องนี้ในการอภิปราย ม.152 ไปแล้ว ว่าเมื่อฟังรัฐบาลแล้วไม่พบว่ารัฐบาลมีวาระอะไร วันนี้จึงเป็นการแสดงว่าพรรคก้าวไกลมีวาระอะไร เมื่อเราเป็นฝ่ายค้านเชิงรุกเราก็มีวาระ แต่หากเราได้เป็นรัฐบาลเราก็จะมีวาระของเรา เพราะหากรัฐบาลไม่มีวาระก็จะทำงานไปเรื่อยๆไม่มีทิศทาง จึงอยากนำเสนอว่า สิ่งที่เป็นระเบิดเวลาและเป็นศักยภาพด้วยมันตรงใจกับที่ประชาชนคิดไว้ในใจหรือไม่ โดยงานนี้เป็น Policy Fest ครั้งแรก ต่อไปก็คงมีการจัดงานลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก

ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นการจัดงานเพื่อใช้งบประมาณทิ้งทวนก่อนพรรคจะโดนยุบหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า เรายังสู้คดีเต็มที่และไม่ตีตนไปก่อนไข้ เราจัดงานเพราะครบหนึ่งปีเลือกตั้งไม่ได้เกี่ยวข้องว่าพรรคจะโดนยุบหรือไม่ยุบ เช่นกันกับที่มีคนบอกว่ามีประชุมสภาฯ วันที่ 18-19 มิถุนายน จะตรงกับวันที่พรรคโดนยุบ ตนก็ยังต้องเตรียมตัวอภิปราย พรบ.ประชามติหรืองบประมาณแผ่นดินอย่างเต็มที่ที่สุดเรื่องนี้ไม่ทำให้เสียสมาธิในการทำงาน

ส่วนเหตุผลที่จัดตรงกับวันครบรอบการกระชับพื้นที่ กลุ่ม นปช. 19 พฤษภาคม 2553 แฝงนัยยะใดหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ในเดือนพฤษภาคมมีวันประวัติศาสตร์ทาง การเมืองไทยเยอะหากไปจัดในวันที่ 22 ก็จะตรงกับวันรัฐประหาร ส่วนที่จัดวันนี้ 19 พฤษภาคม หัวหน้าพรรค นายชัยธวัช ตุลาธน ยังไม่อยู่ในช่วงเช้าเพราะไปทำบุญให้กับผู้สูญเสียที่วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร ซึ่งการคืนความยุติธรรมให้กับผู้สูญเสียพี่น้องคนเสื้อแดงเป็นหนึ่งในนโยบายของพรรคก้าวไกลด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศว่า ตั้งแต่ช่วงเช้ามีประชาชนจำนวนมากตั้งใจเดินทางมาร่วมงานทั้งจากในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และต่างจังหวัด โดยพบว่านายปดิพันธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง เดินทางมาร่วมงานด้วย พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า “มาเยี่ยมเพื่อนๆ”