จากกรณีชาวบ้านวอนหน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจสอบธุรกิจปล่อยเช่ารถสกูตเตอร์ไฟฟ้าแบบนั่งขับ ที่ถูกนำไปจอดตามริมถนน สาธารณะและพื้นที่เอกชน ตามแหล่งท่องเที่ยวทั่วเมืองพัทยา ว่าที่จริงแล้วรถดังกล่าว รถนั้นสามารถขับขี่ได้หรือไม่ เนื่องจากตัวรถไม่มีการจดทะเบียนกับขนส่ง รวมถึงหวั่นอาจจะได้รับผลกระทบด้านการท่องเที่ยว หากลูกค้าผู้ใช้บริการขับขี่ไปแล้วโดนตำรวจจับเหมือนข่าวดังเหมือนใน จ.ภูเก็ต ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันนี้ 17 พ.ค. พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สวญ.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1 พร้อมด้วย พ.ต.ท.ภาณุพงศ์ นิ่มสุวรรณ สว.จร.สภ.เมืองพัทยา ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานเกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบศูนย์บริการรถสกูตเตอร์ไฟฟ้า ตั้งอยู่บริเวณ พัทยาใต้ เพื่อสำรวจลักษณะการประกอบการธุรกิจ และการให้บริการสำหรับลูกค้า โดยพบรถสกูตเตอร์ไฟฟ้าแบบนั่งขับ จอดสแตนบายไว้บริการจำนวนหลายร้อยคัน

โดย น.ส.ณี พนักงานธุรการของบริษัทดังกล่าว เปิดเผยว่า รถที่ใช้ในการประกอบธุรกิจเป็นรถจักรยานไฟฟ้า E Bike มีความเร็ว 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยการชาร์จแบตเตอรี่ 1 ครั้ง สามารถวิ่งได้ไกลถึง 45 กิโลเมตร และมีกำลังไฟ 250 วัตต์ ซึ่งเป็นรถรักษาแวดล้อมไม่สร้างควันมลพิษ สำหรับเหตุการณ์ที่เป็นข่าวเมื่อวานนี้มีการนำรถจักรยานไฟฟ้า ไปจอดที่ห้ามจอด ซึ่งตรวจสอบแล้วเป็นการเข้าใจผิดของพนักงานขนส่ง โดยจุดหลักที่จะนำรถจักรยานไฟฟ้าไปลงนั้นเป็นพื้นที่เอกชนเช่นโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจอื่นๆ 

ส่วนอัตราค่าบริการใน 5 กิโลเมตรแรก จะตกอยู่ที่ 3 บาท หลังจากวิ่งเกิน 5 กิโลเมตรขึ้นไปจะขยับค่าบริการเป็นกิโลเมตรละ 5 บาท โดยมีการใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่น ซึ่งธุรกิจดังกล่าวได้ต่อ ยอดมาจากในพื้นที่กรุงเทพ และเชียงใหม่ ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มนักศึกษา และนักท่องเที่ยวที่ต้องขับขี่ใช้งานภายในตัวเมืองในระยะสั้น หากวิ่งนอกเส้นทางที่วางระบบไว้ตัวรถจะดับ ไม่สามารถขับขี่ได้ ซึ่งเป็นระบบการป้องกันความปลอดภัยของผู้ขับขี่ หากเกิดอุบัติเหตุในบริษัทมีการคุ้มครองดูแลคนขับสูงสุดถึง 500,000 บาท

ขณะที่ในช่วงเวลาประมาณ 13.00 น. ที่ห้อง ศปก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.ศิรชัช หนูเทศ รอง ผกก.ปป.สภ.เมืองพัทยา นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย ปลัดอำเภอบางละมุง ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เทศกิจเมืองพัทยา โดยมีนายชาญ ผู้ประกอบการธุรกิจสกูตเตอร์ไฟฟ้าให้เช่า กรรมการบริหาร บริษัท เข้าร่วมประชุมหารือ และชี้แจงในครั้งนี้ด้วย 

โดยเป็นการหารือเพื่อหาทางออกร่วมกันทั้งในเรื่องข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับการจดทะเบียนขนส่งในการประกอบการธุรกิจ ข้อกฎหมายในการปล่อยเช่าและการให้รถสกูตเตอร์ไฟฟ้าแบบนั่งขับออกวิ่งบนท้องถนน ซึ่งการดำเนินการในลักษณะนี้เองทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ได้มีการโทรศัพท์ไปถึงสถานีขนส่งอำเภอบางละมุงเช่นกัน เพื่อหารือร่วมกันถึงข้ออนุญาตในการให้สกูตเตอร์ไฟฟ้าวิ่งบนท้องถนน และพบว่าการดำเนินการในการจดทะเบียนเพื่ออนุญาตให้ขับขี่บนท้องถนนที่ยังไม่ได้มีการได้รับการอนุญาต เนื่องจากความไม่ชัดเจนในส่วนของลักษณะประเภทของรถรวมไปถึงกำลังไฟในการชาร์จและกำลังการขับเคลื่อนของรถที่ไม่ได้มาตรฐานแต่ได้มีการปล่อยให้ประกอบการธุรกิจไปแล้วในเบื้องต้น
      
ซึ่งทางด้าน นายชาญ ผู้ประกอบการธุรกิจสกูตเตอร์ไฟฟ้าให้เช่า กรรมการบริหาร บริษัท เปิดเผยว่า ตนเองพร้อมแสดงรับผิดชอบและจัดการกับเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ตนพร้อมจะดำเนินการและปรับตัวให้การประกอบการได้ถูกต้องตามข้อของกฎหมายต่อไป ซึ่งรถสกูตเตอร์ไฟฟ้าในลักษณะนี้ก่อนหน้านี้ก็ได้มีการดำเนินการประกอบการในพื้นที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ พัทยา และมหาวิทยาลัยในบางพื้นที่ โดยทางบริษัท โกโก ทรานส์เทค จำกัด เป็นบริษัทที่มีการจดทะเบียนการค้าอย่างถูกกฎหมายและมีการดำเนินการประกอบธุรกิจมาแล้วกว่าเกือบสองปี 

นอกจากนี้ทางด้าน นายชาญ ก็ได้เปิดเผยว่าการดำเนินการในลักษณะนี้ตัวเองมีประกันอุบัติเหตุให้กับผู้ที่เช่าไปขับขี่ทุกราย ทั้งนี้ก็จะมีการนำทีมที่ดูแลเรื่องกฎหมายของทางบริษัทเองมาร่วมหารือกันอีกครั้งเพื่อดำเนินการทุกอย่างให้ถูกต้องและหาความชัดเจนในครั้งต่อไปในวันจันทร์ที่ 20 พ.ค. 67