สาวสวยถูกมิจฉาชีพพฤติกรรมคล้าย”ไอ้มีน พระราม 3“ แต่คราวนี้เป็นชายมีลักษณะเหมือนอาบังขายผ้า ตัวดำ รูปร่างสูงใหญ่ หลอกเป็นโมเดลลิ่ง หาคนรวยมาร่วมใช้ชีวิตคู่ อ้างมีรายได้ 250,000 บาทต่อเดือน หลอกนัดหญิงสาวดูตัว เหยื่อหลงเชื่อ ถูกข่มขืน และขโมยเงิน ตรวจสอบพบมีหญิงสาวถูกหลอก 5 ราย
หญิงสาวผู้เสียหาย อายุ 32 ปี เดินทางมาร้องขอความช่วยเหลือกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกชายอ้างตัวเป็นโมเดลลิ่ง หลอกไปข่มขืน และขโมยเงินไป 30,000 บาท
นางสาวบี นามสมุติ เล่าให้ฟังว่า ตนเป็นคนในจังหวัดภาคเหนือ ช่วงเดือนมีนาคม 2567 ตนได้มาหางานทำที่กรุงเทพ มาอยู่กับพี่สาวที่สนิทกัน ตนเริ่มหางานจากการเข้าไปเสิร์ชหางานในเฟสบุ๊ก ไปเจองานเอนเตอร์เทนกลุ่มผู้บริหารระดับสูงในโรงแรม จึงแอดไลน์ติดต่อเข้าไปเพื่อนสมัครงาน ไลน์ที่แอดไปรูบเป็นผู้หญิง ชื่อkata ได้แจ้งตนเองกลับมาว่า “งานนี้มีคนเต็มแล้ว”จากนั้นไลน์ที่ชื่อว่าkataได้ขอให้ตนเองส่งรูปถ่ายไปให้ดูหน่อย พอตนส่งรูปไป เขาได้บอกว่ามีผู้บริหารชายหน้าตาดี สูง ผิวขาว ฐานะดี อายุ 39 ปี ชื่อแพค เพิ่งเลิกกับภรรยา สนใจจะจ้างตนดูแล มีรายได้เดือนละประมาณ 250,000 บาท ตนจึงสนใจและจึงขอนัดไปดูตัวผู้บริหารคนดังกล่าว
โดยนัดครั้งแรกในวันที่ช่วงปลายเดือนมีนาคม2567 แต่ทางนั้นได้เลื่อนนัด จากนั้นได้นัดครั้งที่ 2 ช่วงตนเดือนเมษายน2567 ฝ่ายนั้นได้มีการเลื่อนนัดอีก จนกระทั่งนัดครั้งที่ 3 ที่ ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2567 โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ในย่านเจริญกรุง โดยระบุให้ไปเปิดห้องวิวติดแม่น้ำ และโรงแรมนี้เท่านั้น และให้ตนออกเงินไปก่อนด้วย บอกว่าเดี๋ยวจะโอนคืนให้ (ตอนนั้นตนคิดว่าเขาเป็นคนรวยจึงต้องจองที่พักหรู จึงไม่คิดอะไรมาก) พอถึงเวลานัดตนเองได้ไปเปิดโรงแรมรอตามที่นัด จ่ายค่าห้องไปทั้งหมด 5400 บาท ในห้องจะมี 2 โซน เป็นโซนห้องรับแขกกับโซนห้องนอน ตนได้ไปนั่งรออยู่ที่โซนห้องรับแขก จากนั้นไม่นานมีชายแก่หน้าตาเหมือนแขกแถวพาหุรัด ตัวดำ หัวล้าน สูงประมาณ 180-190 ซ.ม. เข้ามาในห้อง แล้วบอกว่าเป็นคนนัดหมายไว้
พอตนเห็นหน้าตนได้รีบปฏิเสธไป ว่าหน้าตาคุณไม่ตรงตามที่คนที่นัดหมายไว้บอก แต่ชายคนดังกล่าวก็พยายามพูดหวานล้อมว่าตัวเองรวย ทำงานดี เรียนรุ่นเดียวกับนายพิธา เป็นลูกน้องเก่าของรองนายกรัฐมนตรี ตอนนั้นตนคิดว่าเขาจะเชื่อใจได้ ก็เลยนั่งฟังเขาพูดไปเรื่อยๆ ประมาณ 2 ชั่วโมง
จากนั้นชายคนดังกล่าวเริ่มเขยิบเข้ามาใกล้ตนเอง แล้วเอามือมาโอบตน ตนเองรู้สึกไม่ปลอดภัยจึงขอตัวกลับก่อน พร้อมบอกว่าที่คุยกันไว้ไม่ใช่แบบนี้ วันนี้แค่นัดมาดูหน้าตากันเฉยๆ แต่ชายคนดังกล่าวไม่ฟัง เริ่มเข้ามากอดตน และพยายามข่มขืนตน ตนก็สู้สุดแรง พยายามจะหนีออกจากห้อง แต่ก็ถูกจิกหัว และทำร้ายร่างกาย จนขาเป็นตะคริว ทำให้ถูกข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ จากนั้นชายคนดังกล่าวก็พยายามจะข่มขืนตนเองอีกรอบ แต่คราวนี้ตนเองวิ่งหนีเข้าไปในห้องนอน แล้วล็อคประตูทัน ทำให้ชายคนดังกล่าวรีบหนีออกจากห้องไป
จากนั้นตนเองได้โทรศัพท์ลงมาที่เคาน์เตอร์ เล่าเรื่องราวให้พนักงานโรงแรมฟัง พร้อมกับขอชื่อและบัตรประชาชนคนที่เข้ามาในห้อง ทางโรงแรมได้แจ้งว่า ได้มีรูปบัตรประชาชนชายดังกล่าวอยู่ และจะเก็บห้องไว้ให้ตำรวจมาตรวจสอบ จะไม่ให้ใครเข้าพัก
หลังจากนั้นตนได้ ทักไปที่ LINE ของหญิงที่ชื่อ kata แต่ติดต่อไม่ได้ เนื่องจากถูกบล็อกไปแล้ว ตนจึงรู้ทันทีว่า LINE คนที่ชื่อ take กับชายคนที่ข่มขืนตน เป็นคนเดียวกัน หลังจากนั้นตนเก็บของออกจากห้อง ก่อนจะออกได้เปิดกระเป๋าเงินดู พบว่าเงินหายไป 30,000 บาท เหลือเพียงเศษตังค์ไว้ 500 บาท ตนเองจึงทำอะไรไม่ถูก ตอนแรกคิดว่าจะไปแจ้งความในวันนั้นเลย แต่คิดไปคิดมาถ้าแจ้งความตอนนั้นเลย ก็จะไม่มีค่ารถกลับบ้านที่ภาคเหนือ ตนจึงตัดสินใจนำเงิน 500 บาทเป็นค่ารถตู้กลับบ้านที่ภาคเหนือ และนำเรื่องราวไปปรึกษาพี่สาว วันนี้จึงได้ลงมากรุงเทพอีกรอบ เพื่อขอความช่วยเหลือจากเพจสายไหมต้องรอด
ส่วนเงิน 30,000 ของตนเองนั้เป็นเงินที่เพื่อนฝากให้ตนเองนำมาเข้าตู้เอทีเอ็มให้ แต่ตนยังไม่ได้เอาเงินเข้า ทำให้ถูกขโมยไป และเมื่อวานนี้ตนได้นำเรื่องราวที่เจอไปโพสต์ลงในกลุ่ม Facebook ปรากฏว่า มีผู้เสียหายติดต่อมา 5 ราย ว่าถูกชายลักษณะนี้ หลอกไปข่มขื่อแบบนี้เช่นกัน
ทางด้านนายเอกภพ กล่าวว่า ตอนนี้ให้ทีมงานผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน. วัดพญาไกร แล้ว เบื้องต้นได้คุยกับท่านผู้กำกับ สน. วัดพญาไกรแล้ว ท่านพร้อมอำนวยความสะดวกให้เต็มที่ และจะส่งกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบที่ห้องพักดังกล่าวภายในวันนี้ รวมถึงส่งชุดสืบสวนเก็บภาพกล้องวงจรปิดคนร้าย
ตนเชื่อว่ายังมี กลุ่มมิจฉาชีพที่มีพฤติกรรมหลอกลวงหญิงสาวในลักษณะนี้เป็นจำนวนมาก ตนอยากให้หญิงสาวที่ถูกหลอกในลักษณะนี้ ออกมาแจ้งความดำเนินคดีกับคนผิด เอาคนผิดเข้าคุกให้เป็นเยี่ยงอย่าง มิฉะนั้นคนทำผิดก็ได้ใจ ก่อเหตุซ้ำซากอยู่แบบนี้ ทั้งนี้ต้องขอบคุณทางโรงแรมที่ช่วยเก็บหลักฐานคนที่ก่อเหตุเอาไว้