วันที่ 17 พ.ค.67 โรงแรมทีเค พาเลซแอนด์คอนเวนชัน แจ้งวัฒนะ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดกิจกรรม Kick off การเลือกสมาชิกวุฒิสภาปี 2567 " 20 กลุ่มอาชีพ ร่วมใจขับเคลื่อนประเทศไทย ไปพร้อมกัน" พร้อมจัดเสวนา การเตรียมความพร้อมสมาชิกวุฒิสภา ปี 2567 โดยนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และนางสุดฤทัย เลิศเกษม อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์
นายแสวง กล่าวบนเวทีเสวนาว่า เรื่องการเตรียมความพร้อม ว่าเราจะเดินไปพร้อมกับเครือข่าย ทั้งกรมประชาสัมพันธ์ ไปรษณีย์ไทย เรามีความพร้อมได้ซักซ้อมกับทุกหน่วยงานที่เข้ามามีส่วนร่วม รวมถึงสื่อมวลชน ที่มีส่วนที่ทำให้การเลือก สว. ประสบผลสำเร็จ เพราะช่องทางที่ประชาชนได้รับมากที่สุดก็คือสื่อ กกต. ต้องอาศัยสื่อมวลชนทุกแขนงเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการเลือก สว. เราต้องเดินไปด้วยกันจนได้ สว. 200 คน ความพร้อมก็มีเรื่องแผนที่เป็นโรดแมปตามขั้นตอนต่างๆ ส่วนที่สองก็คือคน เราถ้ามีการซักซ้อม ทั้งระดับอำเภอ จังหวัด และประเทศ รวมถึงงบประมาณด้วย
ขณะที่นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่าเราพร้อมตั้งแต่ กกต.ยังไม่ได้เริ่มแล้ว เพราะนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยบอกไว้ว่างานต้องเสร็จตั้งแต่ยังไม่สั่ง ไม่ได้พูดเล่นนะ เพราะเราเตรียมเรื่องการทำให้คนมีทะเบียนบ้านที่ถูกต้อง มีบัตรประชาชนที่ถูกต้อง ทั้งระบบฮาร์ดก๊อปปี้และระบบดิจิทัล เราเป็นคนที่อาสาทำงานร่วมกับทุกกระทรวง ทบวง กรม ความสำเร็จในพื้นที่เราทำงานร่วมกับพี่น้องทุกกระทรวง ตลอดจนถึงผู้นำท้องที่ อย่างกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นายก อบต. อบจ. เทศบาล พระสงฆ์องคเจ้า เราทำหมด ความพร้อมที่เรามี ทำหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุข
นายสุทธิพงษ์ กล่าวอีกว่า เราก็ดำเนินการทุกช่องทาง ทั้งออนไซต์และออนไลน์ เรามีหอกระจายข่าววิทยุกระจายเสียงประจำหมู่บ้านที่ดูแลโดยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต. นายกเทศมนตรี
“เปิดกรอกหูทุกเช้าเย็น เลื่อนคลื่นหนีก็ไม่ได้ เมื่อวานนี้ก็ซักซ้อมกัน ท่าน มท.1 เป็นประธานในการพูดคุยกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 77 จังหวัด ท่านย้ำเลยว่างานนี้ห้ามพลาด เพราะเป็นเรื่องใหญ่ของชาติ และที่สำคัญที่สุดตัวท่าน มท.1 ก็อยากได้ สว.ชุดใหม่เหมือนกัน ดังนั้นไม่ต้องห่วง เราเต็มที่ ส่วนในแง่ของการให้ความช่วยเหลือให้กับผู้ที่จะมาลงทะเบียนในการสมัคร เราก็ดำเนินการในเรื่องของแบบสอบถาม มีการตั้งทีมงานไว้ให้บริการซักไซ้ไล่เรียง ที่สำคัญเปิดสายฮอตไลน์แข่งกับ 1444 ของ กกต. และบริการ 24 ชั่วโมง” นายสุทธิพงษ์ กล่าว
นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า ต้องยอมรับว่าการเลือก สว. ครั้งนี้เป็นเรื่องใหม่ ไม่ใช่เฉพาะประชาชน แต่ใหม่สำหรับราชการด้วย ดังนั้นนายอนุทินให้นโยบายไว้ว่าห้ามผิดพลาด ผิดพลาดไม่ได้ พร้อมเน้นย้ำว่าทางกระทรวงมหาดไทย และทุกกระทรวงภายใต้การนำของผู้ว่าราชการจังหวัดทำเต็มที่
“เราก็ยกหางตัวเองว่าเป็นนายกรัฐมนตรีจังหวัด เพราะรัฐบาลมอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยในการขับเคลื่อนงานร่วมกับพี่น้องทุกกระทรวง เพราะฉะนั้น โปรดใช้บริการเราไปเรื่อยๆ กระทรวงมหาดไทยจะได้ไม่ถูกยุบ” นายสุทธิพงษ์ กล่าว
ขณะที่นางสุดฤทัย กล่าวว่า กรมประชาสัมพันธ์เป็นกลุ่มสื่อสารของประเทศ เป็นกลุ่มของทุกกระทรวง และทุกหน่วยงานที่สำคัญเป็นกลุ่มที่อำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องสื่อมวลชน ดังนั้นถือว่ามีความพร้อม
จากนั้น เลขาฯกกต. กล่าวว่า เราเอาความโปร่งใสและความมีประสิทธิภาพมาอยู่ในทุกระเบียบ ความโปร่งใส คือการเห็นได้ด้วยตา อย่างการสังเกตการณ์ ส่วนที่ไม่เห็นด้วยตาคือตัวระบบสามารถสอบทานกันเองได้ ส่วนการมีส่วนร่วมถึงประชาชนไม่ได้มีสิทธิ์ในการเลือกโดยตรง แต่ก็สามารถที่จะติดตามตรวจสอบช่วยเหลือ กกต.ให้การเลือกเป็นไปอย่างสุจริตและเที่ยงธรรม เราจะได้ สว. 200 คนตามกำหนดเวลาเวลาแน่นอน ตนต้องขอบคุณกระทรวงมหาดไทย เพราะถือเป็นกระดูกสันหลังของเรา การเลือกตั้ง สว.ครั้งนี้ ตนเชื่อว่าเอาพ่อเมืองแต่ละจังหวัด มาเป็นประธาน ก็ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว เพราะเอาคนมีศักยภาพมาเป็นประธาน ซึ่งหน้างานอาจจะมีปัญหา แต่ กกต. ก็สนับสนุนให้การทำงานมีประสิทธิภาพ ซึ่งยังไม่เห็นว่าการเลือก สว. ครั้งนี้จะมีปัญหาอะไร
ทำให้นายสุทธิพงษ์ กล่าวเน้นย้ำเรื่องการมีส่วนร่วมว่า เรามีส่วนร่วมมาโดยตลอดเรามี เบอร์สายด่วน ที่สำคัญที่สุดได้มีผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ รวมทั้งกระทรวง จัดตั้งศูนย์ประสานงานการเลือก สว. ถือเป็นอีกส่วนหนึ่งที่เป็นฝ่ายอำนวยการสนับสนุนให้ กกต. ดำเนินการได้อย่างเรียบร้อยและสบายใจ แต่เรื่องใหญ่คือการทำให้พี่น้องประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองในครั้งนี้อย่างกว้างขวาง
“20 กลุ่มอาชีพ ก็คือคนทุกคนในประเทศนี้ แต่บางทีอาจจะต้องอาศัยเวลาบ้าง เพราะเป็นเรื่องใหม่แบบที่ เลขา กกต. เล่าให้พวกเราฟัง เป็นเรื่องใหม่ที่อยากให้กลุ่ม 20 อาชีพเข้ามามีส่วนในนิติบัญญัติ ผมมั่นใจว่าภายใต้การทำงานใกล้ชิดกับ กกต. จะสามารถทำสิ่งที่ดีๆ เพื่อไปถึงพี่น้องประชาชนและเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมได้” นายสุทธิพงษ์ กล่าว
เลขาธิการ กกต. เตือนด้วยว่า หากผู้สมัครไปจับกลุ่มขอคะแนน หรือฮั้วกัน ก็สามารถ ส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งตัดสิทธิ์การเลือกตั้งได้. เนื่องจากผิดกฎหมาย และในการเลือก สว.ทุกระดับทั้งอำเภอ จังหวัด และประเทศ จะมีการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือจัดพื้นที่สังเกตการณ์ เพื่อให้ประชาชนร่วมติดตามตรวจสอบได้ด้วย และหากประชาชนพบการทุจริตก็สามารถร้องเรียนได้ ผ่านแอปพลิเคชั่นตาสับปะรดของ กกต.ซึ่งจะมีรางวัลชี้เบาะแสด้วย