ชีวิตดั่งละคร ฝันที่เป็นจริงแล้ว หนุ่มวัย 18 ปีตามหาแม่จนเจอ หลังอยู่บ้านเด็กกำพร้า 15 ปี ที่จ.ยะลา ครบกำหนดเจ้าหน้าที่ส่งไปอยู่บ้านย่าที่จ.ตรัง อยู่ได้เพียง 1 อาทิตย์พ่อแท้ๆ เมายาทำร้ายร่างกาย ต้องหนีออกมาระหกระเหินอยู่กับสวนสนุกเคลื่อนมาไปอยู่กับเพื่อนที่อ.บ้านดุง ป่วยเข้ารพ.ไม่มีญาติรับรอง สุดท้ายตร.ค้นหาแม่ให้ เจ้าตัวน้ำตาอาบน้ำฝันเป็นจริงเจอแม่แล้ว 18 ปีที่รอคอย เสียงที่อบอุ่นเจอแม่ครั้งแรกผมอยากกอดแม่ครับ

วันนี้ (16 พ.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนายยศพัฒน์ ทองฉ่ำ หรือน้องหนึ่ง วัย 18 ปี หนุ่มน้อยชาวใต้อยู่บ้านเด็กกำพร้าถึง 15 ปีพอครบกำหนด เจ้าหน้าที่ฯ ได้ออกมาอยู่กับย่าและพ่อ แต่ถูกพ่อทำร้าย ต้องระหกระเหินออกทำงานเลี้ยงตัวเองและตามหาแม่ไปทั่วประเทศ เมื่อมาถึงอำเภอบ้านดุง จ.อุดรธานี ได้ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านดุง และนายวีระพล รักเสมอวงศ์ แอดมินเพจบ้านดุงอัพเดต กระทั่งสามารถรู้ว่าแม่ตอนนี้ยังมีชีวิตอยู่ สุดดีใจจะได้เจอแม่แล้ว  โดยได้ข้อมูลว่าตอนนี้แม่อยู่ที่ จ.สมุทรสาคร ส่วนน้องหนึ่งตอนนี้พักอยู่ที่อ.บ้านดุง จ.อุดรธานีเพื่อรอเวลาเดินทางไปหาย่าทวด ที่อ.ภูผาม่น จ.ขอนแก่น ส่วนแม่จะมาพบลูกในเร็ววันนี้ ท่ามกลางความดีใจของน้องหนึ่งที่รอคอยพบแม่มาเกือบ 18 ปีวันนี้ฝันเป็นจริงแล้ว เรื่องราวนี้ชีวิตเหมือนดั่งละคร 18 ปีที่พลัดพรากจากแม่ สุดท้ายฝันกลายเป็นจริง

ความคืบหน้าล่าสุดเย็นวันนี้ ( 16 พ.ค.67) ผู้สื่อข่าวได้ได้ไปพบน้องหนึ่ง ที่ สำนักงานบ้านดุงอัพเดท อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมให้น้องหนึ่งได้วีดีโอดคอลพูดคุยกับแม่ซึ่งอยู่ จ.สมุทรสาคร โดยน้องหนึ่งได้มีโอกาสได้ video call คุยกับแม่ครั้งแรก ซึ่งอยู่ที่จ.สมุทรสาคร ครั้งแรกที่เจอหน้า น้องหนึ่งบอกคิดถึงแม่ อยากกอดแม่จัง และได้ถามสารทุกข์สุขดิบและสัญญากับแม่ว่าจะเป็นเด็กดีคนดีไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และจะขอรอแม่ที่จังหวัดขอนแก่น ขณะที่แม่น้องหนึ่งเปิดเผยกับทีมข่าวว่า สาเหตุที่ตนต้องสาเหตุที่ตนห่างลูกชายนั้นเพราะตอนนั้นครอบครัวทางฝ่ายชายขับไสไล่ส่งตน อีกทั้งสามีก็ยังทำร้ายร่างกาย และไล่ให้ตนกลับบ้านช่วงตนอยากจะพาลูกมาด้วยแต่ทางฝั่งครอบครัวของสามีไม่อนุญาต

น้องหนึ่ง เปิดใจครั้งแรก ตั้งแต่ตนเกิดมาได้จำความได้ตนถูกเลี้ยงในสถานสงเคราะห์เด็กชาย หรือบ้านเด็กกำพร้า ที่จ.ยะลา ตั้งแต่อายุ 3 ขวบจน 15 ปี จากนั้นตนได้ขออนุญาตผู้ปกครองสถานสงเคราะห์ออกมาทำงานและตามหาพ่อแม่ ตอนนั้นตนหาพ่อเจอและได้ไปอยู่กับพ่อได้ 2 อาทิตย์ และพบว่าพ่อมีครอบครัวใหม่ อีกทั้งพ่อยังติดยาเสพติด ทำร้ายร่างกายหลายครั้ง ตนจึงไม่สามารถอยู่กับพ่อได้ จากนั้นตนก็ไปอยู่กับย่าได้ 1 เดือน ต่อมาได้งานดูแลเครื่องเล่นเด็กและก็ตระเวณไปเกือบทั่วประเทศ ตลอดระยะเวลาการทำงาน 3 ปี นั้นตนออกตามหาแม่มาตลอด ทั้งสอบถามกับญาติที่เคยรู้จัก แต่ก็ไม่พบข้อมูลว่าแม่อยู่ไหน กระทั่งมาทำงานที่อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ตอนที่อำเภอบ้านดุงก็หาวิธีตามหาแม่ตลอด และขอความช่วยเหลือจนสามารถหาแม่เจอ ก่อนเจอแม่ได้ป่วยก็รักษาตัวที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชบ้านดุง คุณหมอถามหาญาติ ก็ไม่มี มีพี่ตร.ช่วยตามหาแม่ให้ โดยสืบค้นประวัติจนเจอ ย้อนกลับไปตั้งแต่จำความได้ไม่เคยเจอหน้าแม่เลย ผมไม่ได้โกรธแม่ที่แม่ทิ้งไป แต่แม่แต่แม่มีเหตุผลของตนเอง ตอนที่เล่นโทรศัพท์คุยกับแม่ครั้งแรกตนบอกกับคุยกับแม่ว่า สบายดีไหมแม่กินข้าวหรือยังผมอยากจะกอดแม่ น้องหนึ่งพูดไปน้ำตาอาบแก้มไป ฝันเป็นจริงแล้วหลังจากพรากจากแม่มา 18 ปีด้วยเหตุผลแม่ในบางประการ และจะได้เจอแม่เร็วๆ นี้