“กรมบัญชีกลาง” ตีตกอุทธรณ์ NT ฟังไม่ขึ้น ชี้ขาดคุณสมบัติร่วมประมูลโครงการ MA ของ สดช. งบฯ 209 ล้านบ. แม้เสนอราคาต่ำสุด ระบุไม่มีผลงานตามเงื่อนไข แค่ได้รับมอบเป็นผู้เบิกจ่ายแทน ไฟเขียว สดช.เดินหน้าโครงการตั้งแต่ มี.ค.67 แต่เพิ่งมาออกข่าวหลังผ่านมา 2 เดือนกว่า

จากกรณีที่มีการรายงานข่าวถึงโครงการการให้บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะและบำรุงรักษาโครงข่ายเน็ตประชารัฐและส่วนต่อขยายอินเทอร์เน็ตความสูงเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต (โครงการงบ Big Rock) งบประมาณ 209,025,152 บาท หรือโครงการ MA ของสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ดีอี) ว่า อาจมีความไม่โปร่งใสเกิดขึ้น เนื่องจาก บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ที่เข้าร่วมประมูล และเสนอราคาต่ำที่สุด ไม่ได้เป็นผู้ชนะการประมูลนั้น

ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบถึงกรณีดังกล่าวพบว่า สดช.ได้จัดให้มีการประกวดราคาโครงการ MA ตั้งแต่เมื่อช่วงเดือน ต.ค.66 และประกาศให้บริษัท สหวิริยา โอเอ จำกัด (มหาชน) หรือ SVOA ที่เสนอราคา 184 ล้านบาทเป็นผู้ชนะการประกวดราคา เมื่อเดือน ธ.ค.66 ก่อนจะมีการลงนามในสัญญาว่าจ้างในเวลาต่อมา ส่วน NT ที่เสนอราคา 149.8 ล้านบาทนั้นขาดคุณสมบัติ เนื่องจากไม่มีหนังสือรับรองผลงาน ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดในเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ และตามเงื่อนไขที่กำหนดใน TOR

ทั้งนี้ทาง NT ได้การยื่นอุทธรณ์ผลการประกวดราคาโครงการ MA ผ่าน สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (สป.ดศ.) ไปยัง กรมบัญชีกลาง เมื่อเดือน ม.ค.67 ซึ่งทาง กรมบัญชีกลาง ได้แจ้งผลการพิจารณากลับว่า ประเด็นอุทธรณ์ฟังไม่ขึ้น และให้ สดช.สามารถดำเนินกาาจัดซื้อจัดจ้างตามขั้นตอนต่อไป โดยได้มีหนังสือตอบกลับไปยัง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 มี.ค.67 แต่ปรากฎว่า มีการเสนอข่าวว่าเกิดความไม่โปร่งใสขึ้นในการประมูลโครงการ MA หลังผลการพิจารณาข้ออุทธรณ์สิ้นสุดแล้วกว่า 2 เดือนครึ่ง หรือเมื่อวันที่ 13 พ.ค.67 ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า กรมบัญชีกลาง ได้พิจารณาข้ออุทธรณ์ทั้ง 4 ประเด็นของ NT แล้วสรุปว่า ฟังไม่ขึ้น โดยเฉพาะประเด็นการมีประสบการณ์ และผลงานในลักษณะงานประเภทเดียวกัน ซึ่ง NT อ้างว่า เคยได้รับมอบหมายจาก สป.ดศ. ให้ดำเนินการในหลายโครงการ แต่ กรมบัญชีกลาง พิจารณาแล้วพบว่า NT เป็นเพียงผู้ดำเนินโครงการในลักษณะเบิกจ่ายงบประมาณแทนกัน  หรือ สดช.มอบหมายให้ NT เป็นผู้บริหารเงินงบประมาณที่ได้รับมอบให้เบิกแทนเสมือนเงินงบประมาณปกติของตนเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของเจ้าของงบประมาณเท่านั้น และหนังสือรับรองผลงานที่ NT ยื่นประกอบการเข้าเสนอราคาไม่ใช่หนังสือรับรองผลงาน ส่งผลให้ NT มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดในเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ และตามเงื่อนไขที่กำหนดใน TOR ดังนั้นการที่ คณะกรรมการพิจารณาผลฯ ได้ตัดสิทธิ์ NT จึงชอบแล้ว

ในหนังสือของ กรมบัญชีกลาง ยังได้หยิบยกผลการพิจารณาสำเนาหนังสือรับรองผลงานของ NT จำนวน 3 ฉบับ ที่ยื่นประกอบการอุทธรณ์ ประกอบด้วย 1.สำเนาหนังสือรับรองของ สป.ดศ. ที่ ดศ 201.7/19330 ลงวันที่ 25 ส.ค.66 สัญญาสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธ.ค.65 ซึ่งคณะกรรมการพิจารณาผลฯ เห็นว่า สำเนาหนังสือรับรองดังกล่าวเป็นการรับรองการมอบหมายงานจาก สป.ดศ. ให้ผู้อุทธรณ์เป็นผู้ดำเนินโครงการในลักษณะเบิกจ่ายงบประมาณแทนกัน หนังสือดังกล่าวจึงมิใช่หนังสือรับรองผลงานของผู้อุทธรณ์ ประกอบกับผู้อุทธรณ์ไม่ยื่นสำเนาสัญญา

2.สำเนาหนังสือรับรองของ สดช. ที่ 0403.3/1271 ลงวันที่ 29 มี.ค.66 ที่รับรองว่า ผู้อุทธรณ์เป็นผู้ให้บริการโครงการบริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะสู่ชุมชน ประจำปีงบประมาณ 2565 เป็นเงินจำนวน 172,918,699 บาท ตามสัญญาเลขที่ 13/2565 ลงวันที่ 27 เม.ย.64 สัญญาสิ้นสุด ณ วันที่ 1 ต.ค.65  ซึ่งคณะกรรมการพิจารณาผลฯ เห็นว่า สำเนาหนังสือรับรองดังกล่าวไม่ใช่ผลงานการให้บริการบำรุงรักษาระบบคอมพิวเตอร์ หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ฯ เนื่องจากเป็นการให้บริการ ซึ่งอุปกรณ์เป็นของผู้ให้บริการ มิได้เป็นของคู่สัญญา เป็นการเช่าใช้บริการ

และ 3.สำเนาหนังสือรับรองผลงานนของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ที่ ธวพ. 5625/2566 ลงวันที่ 25 ก.ย.66 ขอรับรองว่า ผู้อุทธรณ์เป็นผู้ให้เช่าบริการโครงการจัดหาวงจรสื่อสัญญาณเช่าจากผู้ให้บริการ (Network Provider) เป็นผู้รับจ้างดำเนินการเช่าใช้โครงการเช่าวงจรใช้บริการ NT MPLS, บริการโทรศัพท์แบบ SIP Trunk, บริการ NT Corporate Internet

และอุปกรณ์ควบคุมและบริการจัดการสำหรับการเข้าถึงทรัพยากรระบบจากระยะไกล (SSL - VPN) และระบบ Backbone แบบ Fiber Optic สำหรับอาคารสำนักงานใหญ่เพื่อใช้ในกิจการของธนาคารฯ ... สัญญามีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.65 เป็นระยะเวลา 60 เดือน เป็นเงินจำนวน 65,484,000 บาท ตามสัญญาเช่าเลขที่ สญบพ. 016/2565 ลงวันที่ 31 มี.ค.65 ซึ่งคณะกรรมการพิจารณาผลฯ เห็นว่า สัญญาดังกล่าว มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.65 เป็นระยะเวลา 60 เดือน เป็นสัญญาที่ทำงานยังไม่แล้วเสร็จตามสัญญา