วันที่ 16 พ.ค.2567 เวลา 12.45 น.ที่รัฐสภา กลุ่มทะลุฟ้า และเครือข่าย นำโดย นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข, น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ หรือ มายด์ แกนนำคณะราษฎร นายเอกชัย หงส์กังวาน  นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน แกนนำทะลุฟ้า ยื่นข้อเรียกร้องต่อนายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธาน กมธ. นายนิกร จำนงค์ ในฐานะเลขานุการ กมธ. และนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธาน กมธ. คณะกรรมาธิการ (กมธ.)วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพ.ร.บ.นิรโทษกรรม สภาฯ เพื่อขอให้เร่งพิจารณากำหนดให้คดีกระทำผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ได้รับการนิรโทษกรรม

โดย น.ส.ภัสราวลี กล่าวว่า จากกรณีที่ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัง ได้เสียชีวิตลง ตนเชื่อว่าคนที่มีสำนึกความเป็นมนุษย์อยู่ในใจยอมรับไม่ได้กับความสูญเสียที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นคนที่เห็นต่างกันมากแค่ไหน ไม่ว่าจะแสดงออกอย่างไร แต่เขาไม่ได้ไปละเมิดสิทธิเนื้อตัวทำร้ายผู้อื่น คดีของบุ้งรวมถึงคดีของนักโทษการเมืองอื่นๆ ที่ถูกจองจำอยู่ทุกวันนี้ ส่วนใหญ่เป็นคดีความผิดมาตรา 112 รวมถึงคดีที่มีมูลเหตุทางการเมืองอื่นๆ ด้วย แต่คดีเหล่านี้ได้รับสิทธิการประกันตัวไม่เหมือนคดีอื่นๆ ทั่วไป บุ้งคือคนที่ต้องใช้ร่างกาย ซึ่งเป็นต้นทุนเดียวของชีวิตเขาที่เหลือประท้วงอยู่ในเรือนจำ การอดอาหาร เพื่อเรียกร้องการคืนสิทธิประกันตัวให้กับผู้ต้องขังทางการเมืองทุกคน พร้อมเรียกร้องว่าจะต้องไม่มีใครเดินเข้าเรือนจำด้วยการถูกดำเนินคดีทางการเมืองอีก เขาใช้ร่างกายที่เป็นต้นทุนเดียวสุดท้ายที่มี ในการเรียกร้อง และ ณ วันนี้ เขาเสียชีวิตลงไปแล้ว มีหนึ่งชีวิตสูญเสียไปจากการถูกขังโดยไม่ได้รับสิทธิประกันตัวแล้ว เพราะฉะนั้น ในวันนี้ เราจึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องส่งเรื่องให้ถึงรัฐบาล ซึ่งเราได้ยื่นไปเมื่อเช้า และตอนนี้เรายื่นให้ กมธ. จึงอยากให้ กมธ.พิจารณาอย่างจริงจัง ถึงความสูญเสียที่เพิ่งเกิดขึ้น

น.ส.ภัสราวลี กล่าวว่า ขอให้ช่วยพิจารณาเรื่องมาตรา 112 ในการนิรโทษกรรมอีกครั้งหนึ่งอย่างจริงจังได้หรือไม่ ในตอนแรกที่เริ่มต้น ตนได้เข้าร่วมประชุมกับทุกท่าน มีเหตุผลมากมายบอกว่า มาตรา 112 ยังไม่เป็นปัญหา เป็นคดีที่ต้องแยกออกไป เป็นคดีที่พูดคุยกันยาก มีความเป็นไปได้ว่า ตอนนั้นจะเกิดการตั้งคณะอนุกรรมาธิการฯ พิจารณาเรื่องมาตรา 112 แยกออกมา แต่สุดท้ายก็ไม่เกิด ในวันนี้ เราจึงมาบอกพวกท่านอีกครั้งหนึ่งว่า ช่วยพิจารณาเรื่องนี้ซ้ำอีกครั้ง หลังการสูญเสียนี้เกิดขึ้นแล้ว จะกลับมาพิจารณาอย่างจริงจังได้หรือยัง การนิรโทษกรรมจะรวมมาตรา 112 ได้หรือยัง จะพูดได้หรือยังว่า มาตรา 112 มีปัญหาจริงๆ จะเอาเหตุผลไหนมาปฏิเสธว่า มาตรา 112 ไม่มีปัญหา ทั้งตัวบทกฎหมาย และการบังคับใช้ เรื่องนี้หาก กมธ. จะไม่รวมมาตรา 112 เข้าไปด้วย จะต้องอธิบายเหตุผลให้กับพี่น้องประชาชนฟังอย่างชัดเจนว่า เหตุผลในการไม่รวมคืออะไร เหตุใดจึงมองว่า มาตรา 112 ไม่ใช่คดีความทางการเมือง และเป็นคดีที่มีปัญหา ในเมื่อคนที่ไม่ได้รับสิทธิ์ในการประกันตัวเรียกร้องด้วยชีวิตของเขา จนเขาเสียชีวิตไปแล้ว

 

น.ส.ภัสราวลี กล่าวอีกว่า เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า กระบวนการในการดำเนินคดีทางการเมืองต่างๆ ไม่ว่าจะอยู่ในขั้นตอนใด ในเมื่อเห็นปัญหาของคดีความทางการเมืองที่สะสมขนาดนี้ เพื่อยุติการสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง ขอให้ชะลอคดีความก่อนได้หรือไม่ หยุดพักการดำเนินการกระบวนการต่างๆ ก่อนได้หรือไม่ ไม่ป้อนคนเข้าเรือนจำเพิ่มได้ไหม ไม่ให้คนเข้าไปเสี่ยงที่จะถูกขังจนตายได้ไหม คนที่อยู่ในเรือนจำตอนนี้ หากปล่อยพวกเขาออกมาได้ไหม พิจารณาเรื่องนี้กันอย่างจริงจังหน่อย ปล่อยพวกเขาออกมา ให้พวกเขาได้รับสิทธิในการประกันตัวอย่างเช่นคดีอื่นๆ อย่าทำให้คดีทางการเมือง เป็นคดียกเว้น ในการที่เราจะได้รับสิทธิในการประกันตัวเลย อย่าทำให้มันเป็นคดีที่นอกเหนือจากความเป็นปกติในสังคมประชาธิปไตยเลย คนที่ถูกขังอยู่ ณ ตอนนี้ จำเป็นต้องได้รับสิทธิประกันตัว เพื่อที่จะออกมาต่อสู้ทางคดีอย่างเต็มที่

“คดีทางการเมืองในสังคมประชาธิปไตยไม่ควรเกิดขึ้นตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ในสังคมประชาธิปไตย คนเห็นต่าง ควรได้รับการเคารพซึ่งกันและกัน และต้องมีพื้นที่ปลอดภัย ขอให้เราได้แลกเปลี่ยนกันอย่างเสมอภาค ไม่มีความคิดแบบใดที่ถูกจำกัดด้วยกฎหมายด้วยรัฐ ว่าความคิดแบบนี้ทำไม่ได้ สังคมเราหากยังยึดถือความเป็นประชาธิปไตย ประชาชนจะต้องมีสิทธิเสรีภาพในการคิดแสดงความเห็นอ่านอย่างเสมอหน้ากัน” น.ส.ภัสราวลี กล่าว

ด้านนายชูศักดิ์ กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจต่อความสูญเสียของบุคคล ที่ได้ต่อสู้ทางการเมือง สิ่งที่น.ส.ภัสราวลี กล่าวไปนั้น เป็นสิ่งที่ได้เสนอต่อกมธ.ฯอยู่แล้ว เนื่องจากน.ส.ภัสราวลี ก็อยู่ในกมธ.ฯด้วย ดังนั้นข้อเสนอดังกล่าวยังไม่เป็นที่ยุติ เรายังไม่มีมติว่าจะปฏิเสธ หรือไม่รับข้อเสนอ เพียงแต่หลายเรื่องเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ที่เชื่อมโยงไปหลายหน่วยงาน แต่ไม่ใช่ผู้ที่บริหารกระบวนการยุติธรรมโดยตรง เรื่องจะเกิดขึ้นได้จะต้องเป็นนโยบายที่สำคัญ ที่จะต้องเชิญฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องมาพูดคุย หากกมธ.ฯทำงานโดยที่หน่วยงานอื่นไม่รับรู้ เช่น ศาลฯไม่ได้รับรู้รับทราบก็จะยึดถือแต่กฎหมาย ดังนั้นจึงจะต้องเป็นนโยบายในภาพรวม ท้ายที่สุดทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องมาร่วมหารือเพื่อหาทางออกในเรื่องนี้ ลำพังกมธ.ฯทำอะไรไปโดยที่ฝ่ายอื่นไม่ให้ความร่วมมือ ก็ไม่สำเร็จ ก็ขอเรียนไว้ให้รับรู้

 

นายชูศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการนิรโทษกรรมในคดีมาตรา112ได้ถูกบรรจุในกมธ. ไม่ได้ตัดออกไป เพียงแต่ขณะนี้อยู่ในระหว่างการปรึกษาหารือถึงข้อดีข้อเสีย เราเห็นใจเพราะเรื่องเหล่านี้มีความสำคัญ เราจะพยายามทำเรื่องนี้ให้ได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด ตนทราบดีว่า ประมวลกฎหมายวิอาญาให้อำนาจศาลกว้างขวางกว่ารัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญจะพูดถึงหลักการปล่อยตัวชั่วคราว คือการไม่ให้ประกันควรมีข้อยกเว้น การจะไม่ให้ประกันมีประการเดียว คือเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี แต่ปัจจุบันนำเหตุอื่นหลายๆเหตุรวมถึงผลของคดี ทำให้เป็นปัญหา ตนคิดว่า กระบวนการตรงนี้ต้องสังคายนา โดยเฉพาะการแก้รัฐธรรมนูญให้ชัดเจน ทั้งนี้กมธ.ฯจะรับข้อเสนอ ถึงแม้ข้อเสนอนี้จะมีมาแล้ว เพื่อพิจารณาอย่างจริงจังเต็มที่

ขณะที่นายนิกร กล่าวว่า กมธ.ฯชุดนี้ทำหน้าที่เพียงแค่ศึกษา ไม่ใช่ยกร่างฯ เมื่อเราเสนอรายงานต่อสภาฯไปแล้ว ก็ไม่รู้ว่ารัฐบาลจะเอาด้วยหรือไม่ ดังนั้น ก็ต้องไปแก้ที่รัฐธรรมนูญ ยืนยันว่า กมธ.ฯจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่