วันที่ 16 พฤษภาคม 2567 เวลา 7.20 น.ร้อยตำรวจเอก นราศักดิ์ วงค์โปรทา รอง สว.สอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถชนกัน บริเวณปากซอย พุทธบูชา 43 และภายในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นพระภิกษุสงฆ์ 1 รูป จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูเร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุพบจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณปากซอยพุทธบูชา 43 ถนน พุทธบูชา แขวง บางมด เขต ทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร จากการตรวจสอบภายในที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นพระภิกษุสงฆ์ 1 รูป ซึ่งทราบต่อมาชื่อพระพยนต์ หรือพระเสือ อายุประมาณ 45-50 ปี เป็นพระลูกวัดของวัดพุทธบูชา มีอาการขาหักผิดข้างขวา มีรอยบาดแผลถลอกทั่วร่างกาย และมีบาดแผลแตกบริเวณหน้าผาก อยู่ในลักษณะท่านั่งอยู่บนฟุตบาท อาสาสมัครให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วนำส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร ตามสิทธิ์การรักษา อย่างเร่งด่วนทันที
ส่วนภายในที่เกิดเหตุยังพบกับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นแกรนด์ฟีราโน่ สีเขียว ทะเบียน 1ขด 855 กรุงเทพมหานคร ของนาย ทรงพล อายุ 75 ปี ในสภาพพังเสียหายยับเยินทั้งคัน ล้มตะแคงคว่ำอยู่บนฟุตบาท และถัดมาไม่ห่างไกลกันนักพบรถกระบะยี่ห้อ นิสสัน รุ่น นาวาร่า สีดำ ทะเบียน 3 ฒค 5206 กรุงเทพมหานคร ในสภาพชนเข้ากับเสาไฟฟ้าอยู่บนฟุตบาท ช่วงหน้ารถพังเสียหายยับเยิน โดยมีเจ้าของรถชื่อนาย วุฒิชัย อายุ 28 ปี ผู้ขับขี่รถกระบะยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ภายในที่เกิดเหตุโดยไม่ได้หลบหนีไปไหน
จากการสอบถาม นาย ทรงพล อายุ 75 ปี เจ้าของรถจักรยานยนต์ กล่าว่า ตนจอดรถจักรยานยนต์อยู่ข้างฟุตบาทแล้วเดินเข้าไปเอากับข้าวแล้วกำลังจะเดินมาแขวนไว้ที่รถแล้วก็เห็นว่ารถกระบะได้ชนพระกระเด็นมาแล้วก็พุ่งมาที่รถจักรยานยนต์ของตนเลย เคราะดีห์ที่ตนเห็นก่อนเลยหลบทันไม่อย่างนั้นตนคงจะไม่รอดแล้วแน่ๆ
และจากการสอบถาม นายวุฒิชัย อายุ 28 ปี ผู้ขับขี่รถกระบะกล่าวว่าตน กำลังจะขับรถไปทำงานที่ซอยพุทธบูชา 36 ตอนเกิดเหตุนั้นเกิดจากถนนมันลื่น ก็เลยทำให้ตนควบคุมรถไม่อยู่ก็เลยขับชนพระ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวผู้ขับขี่รถกระบะ และเจ้าของรถจักรยานยนต์ไปสอบถามถึงเรื่องราวเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพัก และจะตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดตรงบริเวณที่เกิดเหตุและใกล้เคียงอีกครั้ง แล้วต้องรอผลจากทางโรงพยาบาลก่อนว่าพระที่ได้รับบาดเจ็บมีอาการเป็นเช่นไร ถึงจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป