วันที่ 15 พ.ค. 2567 นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากได้ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตั้งคณะกรรมการทำงานตรวจสอบกลั่นกรอง​ ข้อมูล ข่าวสาร และการกระทำอันอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา โดยมีนายบุญเชิด กิตติธรางกรู เป็นประธาน เพื่อมาตรวจสอบกรณีเด็กเชื่อมจิต ตนเอาจริงเอาจังและจะไม่ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) นิ่งเฉย ตอนนี้ตนมีการพูดคุยโทรศัพท์กันโดยตลอด เพราะคิดว่าเป็นเรื่องที่สังคมจะต้องได้รับความกระจ่าง แม้ พศ.จะไม่มีอำนาจในการดำเนินคดีในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา แต่หากเด็กเชื่อมจิตไปล่วงล้ำกฎหมายบ้านเมืองก็เป็นเรื่องหนึ่ง

 

"เวลานี้ ตนได้ให้นโยบายผู้อำนวยการสำนักพุทธว่า พศ.ต้องกล้า ชี้ผิดชี้ถูก กรณีเชื่อมจิต เชื่อมได้หรือไม่ได้ เมื่อผมมานั่งตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับ พศ. ต้องกล้าหาญ ต้องกล้าชี้ ซึ่งเป็นเหตุที่ต้องคุยกันมาตลอดหลังจากรับตำแหน่ง"  นายพิชิต กล่าว 

 

นายพิชิต กล่าวว่า ผอ. พศ. รายงานว่า ได้มีการตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว เมื่อประมวลเรื่องแล้วก็จะนำเสนอที่ประชุมมหาเถระสมาคมในวันที่ 20 พ.ค.จากนั้นตนจะให้ ผอ. พศ. เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตำรวจ มาให้ข้อมูลข้อเท็จจริงกับสื่อมวลชน เขาจะมายืนยันบางอย่าง ซึ่งอยากจะให้สำนักพระพุทธศาสนาเป็นคนพูดเอง เพราะตนได้ให้นโยบายไปแล้วว่า เราต้องกล้าหาญว่ากรณีเชื่อมจิตทำได้หรือไม่ หรือขัดต่อพระไตรปิฎกหรือขัดต่อเรื่องใดๆ ในพระพุทธศาสนาหรือไม่ ซึ่งจะได้รับความกระจ่าง เรื่องนี้เป็นที่มา ที่ตนบอกว่าศรัทธาอย่าแกว่ง  ธรรมะไม่ใช่เรื่องซื้อขาย และตอนนี้ทางผอ. พศ. บอกว่ามีข้อมูลครบทุกอย่าง และเราจะได้เห็นกันว่า กรณีเชื่อมจิตมีจริงหรือไม่ และทำได้หรือไม่ เพราะเมื่ออิงหลักพระพุทธศาสนาและตามกฎกระทรวงก็ถือเป็นหน้าที่และภารกิจของ พศ.

 

นายพิชิต ยังกล่าวต่อว่า กรณีนี้ไม่ใช่กรณีแรก ยังมีอีกหลายกรณี ตนจึงให้นโยบายกับ พศ. ต้องปฏิบัติการเชิงรุก โดยตนขอให้ ผอ. พศ. เชิญ ผอ. พศ. ทุกจังหวัดทั่วประเทศ มารับมอบนโยบายว่า การปฏิบัติการเชิงรุกเพื่อให้หลายฝ่ายพอใจจะดำเนินการอย่างไร