GUNKUL ประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2567 มีรายได้รวมเท่ากับ 2,657 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.92% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,833 ล้านบาท กำไรสุทธิรวมเท่ากับ 300.90 ล้านบาท จากการเติบโตของงานขายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้า งานก่อสร้างโซลาร์รูฟ งานก่อสร้างโรงไฟฟ้า และระบบสายส่งไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ฟาก “โศภชา ดำรงปิยวุฒิ์” พร้อมเดินหน้าพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมีศักยภาภให้ GUNKUL มั่นใจธุรกิจพลังงานทดแทนยังมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก หนุนผลการดำเนินงานกลุ่มบริษัทฯ เติบโตตามเป้าที่วางไว้ไม่ต่ำกว่า 15%

นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (GUNKUL) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2567 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567  โดยมีรายได้รวมเท่ากับ 2,657 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.92% หรือ 823.46 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,833 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิรวมเท่ากับ 300.90 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีผลมาจากส่วนแบ่งกำไรจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมลดลง เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้ปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้ลดลงอย่างมาก  

อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในด้านอื่นๆ มีผลประกอบการเพิ่มขึ้นอย่างมีสาระสำคัญ เนื่องจากบริษัทฯ รับรู้รายได้จากการก่อสร้างและการให้บริการจำนวน 1,328.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 156% หรือ 810.62 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนแสดงจำนวน 518.04 ล้านบาท ขณะที่รายได้ส่วนงานขายสินค้าเท่ากับ 571.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 124.40 ล้านบาท หรือคิดเป็น  27.85%จากงวดเดียวกันของปีก่อนแสดงจำนวน 446.63  ล้านบาท

ทั้งนี้บริษัทฯ มั่นใจทิศทางผลการดำเนินงานในปีนี้จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ประมาณ 9,000 ล้านบาท หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% เนื่องจากทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) และธุรกิจผลิตและการจัดหาอุปกรณ์สำหรับระบบไฟฟ้าที่คาดว่าปีนี้จะเติบโตอย่างโดดเด่น ขณะที่ธุรกิจงานรับเหมาและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) และธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนยังคงดำเนินการได้ตามแผนที่ได้วางไว้

“GUNKUL ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งขยายงานในส่วนภาคเอกชนทั้งรายเล็ก รายใหญ่ เพื่อการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน  โดยเชื่อว่าธุรกิจพลังงานทดแทนยังมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก ซึ่งเรามีเป้าหมายสร้างการเติบโตของรายได้และกำไรในทุกกลุ่มธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ และเชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานของบริษัทฯ จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ไม่ต่ำกว่า 15%”นางสาวโศภชากล่าวในที่สุด

อนึ่งในปี 2566 บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนในประเทศ และได้รับคัดเลือกตามประกาศ กกพ. ว่าด้วยการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565-2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ.2565 จำนวน 17 โครงการ รวม 832.4 เมกะวัตต์ โดยบริษัทได้เซ็นสัญญาซื้อขายไฟแล้ว จำนวน 14 โครงการ รวม 621.4 เมกะวัตต์ ซึ่งต้องใช้เวลาในการพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง และทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป ปัจจุบัน GUNKUL มีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญาใหม่อยู่ที่ 652.40 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ทยอยตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป และมีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญาโดยรวมทั้งสิ้นเท่ากับ 1,367.62 เมกะวัตต์ คิดเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 122% จากจำนวนเมกะวัตต์ที่มีอยู่ในมือแล้ว ณ ปัจจุบัน และบริษัทคาดว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า บริษัทฯ จะสามารถมีจำนวนเมกะวัตต์สะสม เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 2,000 เมกะวัตต์ และมีรายได้รวม 10,000 ล้านบาท