เจาะพรบ.คุ้มครองเด็ก เด็กทำผิด เปิดเผยได้มั้ย? เปิดใจ “อ.ลัก คำราม” ต้นตอเชื่อมจิต 3,000 คน ทำไมถึงกลับลำเป็นพยานให้ “อนันต์ชัย” ยันไม่ได้ทิ้ง!  
 
รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 14 พ.ค. 67 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมายเลข 33 เกาะติดลัทธิเชื่อมจิต สัมภาษณ์ อ. ลัก  คำราม ต้นตอเชื่อมจิต ที่มีภาพโผล่คนร่วมงาน 3,000 คน , สรรพสิทธิ์ คุมพ์ประพันธ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านสวัสดิการเด็กในคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ, ดร.ประยุทธ ประเทศเสนา รองประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม และ ต้นอ้อ มูลนิธิเป็นหนึ่ง 

อำนาจพม. สามารถแยกตัวเด็กกับพ่อแม่เด็กมาพูดคุยกันได้มั้ย?
สรรพสิทธิ์ : ได้ครับ วันนี้ก็เป็นวิธีการที่เจ้าหน้าที่ ไม่ใช่พม.นะ เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ ที่รัฐมนตรีแต่งตั้ง มีอำนาจเข้าไปสอบถามเด็กโดยผู้ปกครองไม่เกี่ยวได้ ตามมาตรา 30 อนุ 1 อนุ 2 การแยกเด็กออกมาคุ้มครองก็ต้องดูสถานการณ์ กรณีนี้เราพบแล้วว่าผู้ปกครองใช้เด็กให้กระทำความผิด เป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญา เขาให้เด็กให้การเท็จ ให้ความเท็จไปเกี่ยวกับศาสนา เพื่อสร้างศรัทธาบนความเท็จ การสร้างศรัทธานี้ทำให้คนที่ศรัทธา บริจาคเงิน ถวายเงินให้เขา นี่ก็เข้าฉ้อโกงประชาชน แต่ที่สำคัญคือเด็กแม้ถูกใช้ทำผิด แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะไปเอาผิดเขา เพราะตามประมวลกฎหมายอาญา 73 ต้องมีผู้เสียหายไปแจ้งความ ถ้าเด็กต่อสู้คดี เจ้าหน้าที่มีอำนาจคุ้มครองสวัสดิภาพ เพียงให้เด็กอยู่กับผู้ปกครอง โดยมีเงื่อนไขไม่ให้หลบหนี ไม่ได้ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ไม่ให้ทำผิดซ้ำ พนักงานสอบสวนต้องรวบรวมพยานหลักฐานยื่นให้พนักงานอัยการชี้มูล ถ้าพนักงานอัยการชี้มูลว่าเด็กมีการกระทำตามที่กฎหมายบัญญัติห้าม ไปฝ่าฝืนจริง ก็สามารถคุ้มครองสวัสดิภาพได้เลย โดยมี 2 แบบ แบบที่หนึ่งคุยกับผู้ปกครอง กำหนดวิธีการเลี้ยงดูเด็กคนนี้ไม่ให้มีปัญหาเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งดูเคสนี้น่าจะยาก 

เพราะพ่อแม่เขาไม่ยอม?
สรรพสิทธิ์ : เจ้าหน้าที่ก็ต้องใช้มาตรา 44 วรรค 1 ส่งเรื่อง ประวัติ ความเป็นมาของเด็ก พฤติกรรมของเด็กทุกอย่างให้ผู้ว่าฯ จังหวัด หรืออธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน เพื่อสั่งให้เข้าคุ้มครองสวัสดิภาพ ในสถานพัฒนาและฟื้นฟู หรือสถานฟื้นฟูสวัสดิภาพ  วรรคสองมีการทำงานกับผู้ปกครอง คุณสามารถดูแลลูกได้เหมือนเดิม แต่ต้องเปลี่ยนพฤติกรรม ไม่ให้ลูกเสี่ยงต่อการกระทำผิด

ถ้าเขาไม่ยอม?
สรรพสิทธิ์ : วรรค 3 อีก ต่อจากวรรค 2 แต่วรรค 1 หมายถึงว่า ไม่ว่าจะเป็นตามวรรคสองหรือไม่เป็นก็ตาม วรรค 1 ทำได้ ถ้าแวดล้อมเด็กบ่งชี้ว่าปล่อยให้อยู่ในสภาพแวดล้อมนี้ไม่ได้ ถ้าปล่อยแล้วกระทำผิดแน่นอน 

พ่อแม่ยืนยันว่าเด็กไม่ได้ผิด ทำไมมากล่าวหาเด็ก เขาบอกทุกคนผิดประเด็นหมด ประเด็นอยู่ที่รายการนึงขึ้นหัวว่าก้มกราบเด็ก 8 ขวบอ้างตัวเป็นพระพุทธเจ้า น้องไม่เคยพูดคำถาม เอาหลักฐานมาเลย น้องพูดที่ไหน ขอให้ลบก็ไม่ลบ เลยเป็นแบบนี้เจ้าของรายการก็ให้คนอื่นไปด่าเขา ผมก็ไม่รู้เจ้าของคนนั้นเป็นใคร?


สรรพสิทธิ์ : เรื่องเขาเป็นพระพุทธเจ้าหรือเปล่าอีกเรื่องนึงนะ แต่เขาเอาหลักความคิดของเขามาพูดว่าเขาเป็นชาวพุทธ ที่มีศักยภาพพิเศษ สามารถบรรลุหรืออะไรต่างๆ ที่เขาพูดมา โดยเขาจะช่วยให้คนอื่นบรรลุได้ด้วย ตรงนี้ไม่ใช่ข้อความทางศาสนาพุทธ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ถือว่าเป็นการให้ข้อความเท็จ เผยแพร่ความเท็จต่อสาธารณชน เพราะเขาทำผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย มันก็เข้าองค์ประกอบฉ้อโกงประชาชน 

ถ้าคนจ่ายให้เอง เขาบอกเขายินดี?
สรรพสิทธิ์ :   ไม่สำคัญว่าจ่ายให้เองหรือเปล่า เขาสมัครใจหรือไม่สมัครใจ แต่นี่เข้าฉ้อโกงทรัพย์ ผู้เสียหายเขาสำคัญผิดว่าคนนี้เป็นคนไม่เหมือนคนปกติ ยกตัวอย่าง คนร้ายอ้างตัวเป็นตำรวจ ช่วยเคลียร์คดีให้ คนที่มีปัญหาเรื่องคดีก็จ่ายเงินให้เลย สมัครใจ แล้วไปพบทีหลังว่าเป็นตร.ปลอม ก็ไปดำเนินคดี ก็คล้ายๆ กัน ขณะที่เขาบริจาคเงินให้เขาเชื่อถือศรัทธาว่าคงมีความพิเศษบางประการที่ศาสนาพุทธไม่ได้พูดถึงทั่วๆ ไป สามารถถ่ายทอดความสำเร็จในด้านจิตวิญญาณด้วยการเชื่อมจิต ซึ่งบอกไปเมื่อวาน ว่าเชื่อมจิตไม่มีในศาสนาพุทธแน่นอน เพราะศาสนาพุทธ พระพุทธเจ้าตรัสอยู่ตลอดว่าท่านเป็นผู้ชี้ทาง ถ้าใครดวงตาเห็นธรรมก็ต้องปฏิบัติด้วยตัวเอง ปัจฉิมโอวาทก่อนท่านปรินิพพาน ท่านก็ยังพูดเลยว่าให้พระสงฆ์ สานุศิษย์เร่งปฏิบัติธรรม อย่าประมาท ความตายจะเกิดเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ดังนั้นเชื่อมจิตไม่มีทางเกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าได้เลย 

เมื่อวาน พม.สุราษฎร์ฯ ลงพื้นที่ เขาไลฟ์ให้เห็นเลย เขาบอกเขาเชิญไป เหมือนพม.ไปนั่งถูกเขาอบรม?
สรรพสิทธิ์ :  แสดงว่าเขาไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ เขาเป็นแขกรับเชิญของแม่เด็กหรือผู้ปกครองเด็ก เขาเชิญแกก็ไป ถ้าเป็นผมคงไม่รอให้เชิญ ผมก็ต้องไปคุย ถ้าไม่พูดคุยด้วย ไม่พบ ก็ยื่นศาลเยาวชนและครอบครัวให้เรียกตัวไปไต่สวนเพื่อให้รู้ว่าจริงๆ แล้วเขาใช้เด็กกระทำความผิดจริงมั้ย ถ้าจริงก็เข้าข่ายมาตรา 26 อนุ 5 พอเป็นอย่างนี้แสดงว่าผู้ปกครองทำรุนแรงต่อเด็ก ที่บัญญัติว่าการครอบงำชักจูงให้กระทำการผิดต่อกฎหมายศีลธรรม ถือว่าเป็นการใช้ความรุนแรง ตรงนี้ชัดเจน ไม่ใช่แค่ผิดกฎหมายนะ ให้เด็กโกหก

เขาบอกน้องพูดเอง?
สรรพสิทธิ์ : เรื่องแบบนี้พูดเองไม่ได้ ต้องมีการสอนกัน เช่นเป็นอนาคามี โกหกอยู่แล้ว ผิดศีลห้าอยู่แล้ว ผิดศีลธรรม พอผิดตรงนี้เป็นการใช้ความรุนแรงในครอบครัว ก็ต้องใช้พนักงานเจ้าหน้าที่ไปดำเนินการ แต่กรณีนี้ขอข้ามไปเลย เจ้าหน้าที่คงไม่ได้ไปดำเนินการ ก็ใช้อำนาจศาลเรียกไปเลย 

เวลามีแบบนี้ พม.สามารถแยกตัวเด็กมาสอบคนเดียวได้หรือไม่ได้?
สรรพสิทธิ์ : ถ้าเป็นเจ้าหน้าที่มีอำนาจในการสอบเด็ก แต่กรณีนี้เป็นความรุนแรงต่อเด็กที่พิสดาร ถ้าถูกทำร้ายทุบตี เด็กมักยินยอมมาคุยโดยดี แต่นี่เหมือนใช้เด็กไปกระทำความผิด เด็กเหมือนเป็นคนร่วมกระทำความผิดกับผู้ปกครอง เขาจะไม่ให้ความร่วมมือ คล้ายๆ คดีค้ามนุษย์ ที่เด็กถูกนำมาค้าประเวณี โดยเด็กสมัครใจเพราะได้เงิน เด็กมักไม่ยอมพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ ดังนั้นเราก็ใช้อีกวิธี คือถ้าเด็กไม่พูด ก็ไปเรียกผู้ใหญ่มา โดยใช้อำนาจศาล ให้ศาลเรียกไป จริงๆ แล้วถึงแม้เด็กยินยอมก็ผิดกฎหมายอยู่ดี 

คุณต้นอ้อ คุณคุยกับพม.ยังไง?
ต้นอ้อ :   เมื่อวานหลังออกรายการ ก็เห็นเขาไลฟ์สด เสียงดังกลบเจ้าหน้าที่ เลยโทรหาเจ้าหน้าที่พม. ถามว่าเห็นมั้ยว่าเขากำลังไลฟ์สดและคุกคามการทำงานเจ้าหน้าที่ เขาบอกว่าเขาเห็น เมื่อวานแม่ไม่ได้เชิญเขานะ เขาต้องลงไปอยู่แล้วเพราะผู้ว่าฯ  เซ็นอนุมัติ มีทั้งอัยการ สหวิชาชีพ นายอำเภอ คุณหมอที่เกี่ยวกับเรื่องเด็กและวัยรุ่นที่เข้าไปในพื้นที่ แต่เมื่อวานไม่ได้รับความร่วมมือ 

ตกลงเขาเชิญหรือพม.ไปเอง?
ต้นอ้อ : ไปเองค่ะ

ทำไมเขาบอกว่าเขาเชิญไป?
ต้นอ้อ : เขามีหนังสือชัดเจน อ้อดูหมดแล้ว เขาให้ดูผังการทำงานของพม.ซึ่งอ้อก็ตำหนิไปว่า พี่คะ เรื่องตั้งนานแล้ว ทำไมนิ่ง เพิ่งมาขยับกันเหรอ เขาบอกว่าเขาทำนานแล้ว นานแล้วถ้าทำจริงจังต้องจบตั้งแต่ธ.ค. เขาบอกเรื่องละเอียดอ่อน ต้องประเมินนั่นนี่ อ้อก็เข้าใจการทำงาน เขาต้องทำเป็นสเต็ป แต่ถ้าวันนั้นพี่จัดการ ก็คงไม่เกิดเรื่องราวบานปลาย จนเด็กคนนี้ก้าวร้าวหนักเลย สุดท้ายตกอยู่ที่เด็ก แล้วแม่ไม่ยอมเจ้าหน้าที่ หมอขอแยกน้องสอบประเมิน ก็ไม่ยอม ถ้าจะให้สอบก็ไปอีกห้องนึง แต่พ่อแม่ต้องเข้า และไลฟ์สด มันไม่ได้ ตามหลักเจ้าหน้าที่ทำไม่ได้แบบนั้น แล้วทนาย ญาติธรรมเขากดดันเจ้าหน้าที่ทุกอย่าง จนเมื่อคืนเจ้าหน้าที่ทักมาหาอ้อบอกว่าตอนนี้เข้าข่ายหมดแล้ว พ่อแม่ไม่ให้ความร่วมมือต้องขออำนาจต่อศาล แล้วออกหมายเรียกพ่อแม่ให้หยุดพฤติกรรมเหล่านี้และเอาเด็กไปประเมินสภาพจิตใจ 

กินเวลาอีกนานเท่าไหร่?
ต้นอ้อ : วันนี้ไปอัยการ น่าจะเร็วภายในอาทิตย์นี้ ที่จะมีคำสั่งศาล 

สรรพสิทธิ์ : อันนี้ขออำนาจจากศาลเยาวชนและครอบครัว หมวด 15 ว่าด้วยการคุ้มครองและสวัสดิภาพ ถ้าศาลเรียกไปไต่สวนแล้วพบว่ามีการใช้ความรุนแรงต่อเด็กในอีกรูปแบบนึง ไม่ใช่เด็กถุกทำร้าย คือใช้เด็กกระทำผิด ตรงนี้ทำให้ศาลสั่งให้เด็กอยู่ในความคุ้มครองของหน่วยงาน หรือพม. หรือนอกจากนั้นศาลอาจกำหนดวิธีการเลี้ยงดูบุตร ถ้าให้เด็กอยู่กับเขา ถ้าฝ่าฝืนคำสั่งศาลกรณีนี้ ก็จะถูกศาลส่งตร.ไปจับมากักขังไม่เกินคราวละ 30 วัน จนกว่าจะยอมปฏิบัติตามคำสั่งศาล แต่ตรงนี้จะมีผล 6 เดือน เมื่อครบ 6 เดือนแล้วมีพฤติกรรมเดิม ก็ไปยื่นใหม่

ต้นอ้อ : เมื่อเช้าเจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นเคสที่ยากสำหรับสุราษฎร์ฯ อย่างนึง เพราะพ่อแม่เขาร้ายมาก เขาไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน ปกติการแยกเด็กของเจ้าหน้าที่เขาไม่ทำยากขนาดนี้ ชาวบ้านให้ความร่วมมืออยู่แล้ว แต่นี่ไม่ให้ความร่วมมือ แถมกดดันเจ้าหน้าที่ เมื่อวานก็เห็นใจพม.นะ อ้อเข้าใจบทบาทหน้าที่รัฐ เขาจะแรงแบบอ้อไม่ได้ ฝั่งนั้นก็เอากฎหมายมาอ้าง บางอย่างบริบทในการทำงานต้องปรับตามสถานการณ์ ถ้าเจอพ่อแม่ที่มึนและประสาทขนาดนี้ ก็ต้องแรงใส่ 

สรรพสิทธิ์ : จริงๆ เขาไปถูกทางแล้วนะ ผู้ปกครองไม่ให้ความร่วมมือ ก็ต้องใช้อำนาจศาลไปเรียกมา 

เมื่อเช้าเขาไปไหน?
ต้นอ้อ : เขาไปศาลเยาวชนและครอบครัว ที่สุราษฎร์ฯ เขาไปฟ้องสื่อ 

สรรพสิทธิ์ : ผมก็บอกแล้วว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ ที่จะมาเอาผิดกับสื่อที่ออกอากาศเกี่ยวกับพฤติกรรมของเขา เพราะพฤติกรรมของเขาคือใช้เด็กกระทำความผิด สื่อที่ออกไปก็เพราะต้องการหยุดยั้งอันนี้ มันเป็นการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กด้วยซ้ำ  

เขาน่าจะได้รับข้อมูลหรือข้อกฎหมายแบบผิดๆ จากใครหรือเปล่า?
สรรพสิทธิ์ :   ถ้าคนอ่านกฎหมายไม่แตก เดิมมาตรา 25 ที่ระบุว่าห้ามผู้ปกครองปล่อยปละละเลยทอดทิ้งเด็ก เขามีโทษทางอาญาด้วยนะ ผมก็บอกว่าใช้โทษทางอาญาไม่ได้นะ เพราะหนึ่งเขาอาจไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เขาทำคือการปล่อยปละละเลยทอดทิ้งเด็ก สองเป็นความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูก ไม่เหมือนการทารุณกรรม พ่อแม่ที่ไม่ได้รักผูกพันกับลูกอาจไม่เอาใจใส่ ไม่เหลียวแล คุณใช้วิธีการลงโทษทางอาญาไม่ได้ ควรเปลี่ยนเป็นว่าให้เจ้าหน้าที่เข้าไปให้การช่วยเหลือก็จะมีมาตรา 33 รองรับ ถ้าเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือแล้วผู้ปกครองยังไม่เอาเรื่องอีกเหมือนเดิม ก็จะใช้คำสั่งศาล แยกเด็กมาเข้าสถานดูแลให้ครอบครัวอุปถัมภ์ แต่ถ้าผู้ปกครองไม่ยอมแบบนี้ ก็ใช้อำนาจอธิบดีหรือผู้ว่าฯ สั่งให้ส่งเข้ารับการคุ้มครองเสรีภาพ ตามวิธีการที่เจ้าหน้าที่เสนอ 

เมื่อวาน หลังไปแจ้งความที่กองปราบกับพี่อนันต์ชัย เขาก็ไม่ได้รู้สึกอะไร ว่าสิ่งที่เขากระทำเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง อย่างพม.ลงไป พม.ถามว่าวิปัสสนาคืออะไร กรรมฐานคืออะไร เท่าที่ฟังไม่ผิด น้องตอบว่าซูม?
ประยุทธ : ได้ยินว่าซูม

เปิดคลิป น้องไนซ์ บอกว่าวิปัสสนากรรมฐาน คือซูม?
ประยุทธ : ต้องแยกเป็นสองคำ คำว่ากรรมฐานกับวิปัสสนา กรรมฐานแปลว่าที่ตั้งของสิ่งที่จะกระทำ เป็นคำกลางๆ ไม่มีเลวมีชื่อ มีดำมีขาว อยู่ที่ว่าจะเอาอะไรมาใส่ น้องพูดคำว่าวิปัสสนากรรมฐาน ก็คือที่ตั้งของการเห็นแจ้ง รู้แจ้ง 

แล้วซูมล่ะ?
ประยุทธ : ผมไม่เข้าใจว่าเขาจะมีนัยยะอะไร 

ซูมคือเพ่ง กระแสจิตได้มั้ย?
ประยุทธ : ไม่มีคำนี้ ความหมายไม่น่าใช่

ศึกษากันไม่ถึงหรือเปล่า?
ประยุทธ :   ผมว่าน่าจะไม่รู้เรื่องเลย และพูดไปเรื่อย จับแพะชนแกะ พระธรรมพระพุทธเจ้าเป็นของลึก

ลักษณ์ : เป็นของลึกมากๆ ไม่สามารถใช้คำว่าวิปัสสนาได้เลย ถ้าไม่เข้าใจเลยจริงๆ จะสับสนมากๆ ใครที่เข้าใจคำนี้ต้องเรียนรู้และศึกษามากๆ ศึกษาพระไตรปิฎก  

ประยุทธ : การเหมารวมไม่ถูก ต้องแยกแยะให้ถูก 

พี่เขียวพร้อมเป็นพยานให้ชาวพุทธทุกคนที่ถุกเขาฟ้อง ว่าไปเปิดภาพเด็ก เปิดภาพแม่เด็ก ทั้งที่พวกเขาไลฟ์เรื่องนี้มาก่อนหน้านี้ พอสื่อนำเสนอก็ไปฟ้องสื่อนั้นสื่อนี้ ฟ้องหลายสื่อเลย พี่เขียวมองยังไง?


สรรพสิทธิ์ : สื่อไม่ต้องไปกังวล จริงๆ แล้วมีสองประเด็น หนึ่งสิ่งที่สื่อทำไป เป็นหน้าที่ทางวิชาชีพ คุณมีหน้าที่เปิดเผยข้อเท็จจริงที่มีผลกระทบต่อประชาชน กรณีนี้เป็นการฉ้อโกงประชาชน ก็ต้องเปิดเผยอยู่แล้ว อีกประเด็นการฟ้องเช่นนั้นเป็นพฤติกรรม คำพังเพยของจีนคือโจรร้องจับขโมย ตัวเองทำผิดทางอาญา แล้วไปเล่นงานคนอื่นทางอาญา เพื่อไม่ให้ตัวเองถูกเพ่งเล็ง ตรงนี้อาจคิดผิดนะ เพราะการต่อสู้ของสื่อเขาออกอากาศเรื่องนี้เพราะช่วยเด็ก เป็นเรื่องกระทบต่อประโยชน์มหาชนชาวพุทธ เขาก็มีหน้าที่เปิดเผยออกมา หรือการวิพากษ์วิจารณ์เพื่อให้หยุดยั้งการกระทำ เป็นความชอบธรรม ที่ประมวลกฎหมายอาญาก็มีบทบัญญัติรองรับแล้วว่าไม่ใช่ความผิดฐานหมิ่นประมาท ก็อยากแนะนำว่ายิ่งทำเช่นนี้ก็ยิ่งเอาตัวเข้าไปอยู่ในบ่วงของกฎหมาย เอาบ่วงมาคล้องคอตัวเอง ทางที่ดีหยุดพฤติกรรมนั้น เงินได้มาไม่ชอบก็คืนเจ้าของไป เรื่องกฎหมายก็ว่ากันไป แต่ถ้าคุณทำตัวดีๆ ไม่มีใครไปวุ่นวายกับคุณหรอก เขาก็คงเห็นแก่เด็ก 

พม.สุราษฎร์ฯ ทำเรื่องให้อัยการยื่นร้องต่อศาลเพื่อขอเด็กมาคุย ถ้าถึงขั้นนั้นพ่อแม่เด็กจะเป็นยังไง?
สรรพสิทธิ์ : พ่อแม่เด็กก็ต้องไปให้การ เพราะมีหมายเรียก ถ้าไม่ไปอย่างน้อยศาลก็ให้ตร.ไปจับมาให้การ ถ้าศาลเห็นว่าใช้ความรุนแรงต่อเด็ก ศาลก็สั่งห้ามไม่ให้กระทำอีก แล้วสิ่งที่พนักงานควรยื่นไปคือกำหนดขอวิธีการดูแลบุตร ก็เป็นไปตามหลักกฎหมาย ไม่น่ามีปัญหา 

อยากฝากอะไรกับคนไทย นักกฎหมายบางคน นักวิชาการบางคนไม่เข้าใจพรบ.คุ้มครองเด็ก ในฐานะคนเขียนคนร่าง?
สรรพสิทธิ์ : พรบ.เด็ก มีเจตนาคุ้มครอง กรณีเกิดความเสียหายต่อเด็กในบางเรื่อง เพื่อไม่ให้เอาความเสียหายตรงนี้ป่าวประกาศทำให้เด็กมีตราบาปประทับตัวอยู่ ถ้าผู้ปกครองทำตัวตามที่ควรทำ ตามมาตรา 23 เลี้ยงดูเด็ก คุ้มครองให้เด็กพ้นภาวะเสี่ยง ที่ได้รับอันตรายแก่ร่างกายจิตใจ คงไม่ทำแบบนั้น คงไม่ทำให้เด็กไปโกหกเพื่อได้รับเงินบริจาค ตรงนี้มันคงไม่เกี่ยวกับมาตรา 27 เพราะคุ้มครองเด็กถูกกระทำและเกิดความเสียหาย อันนี้แม้เด็กถูกกระทำด้วยความรุนแรง แต่เป็นการกระทำโดยผู้ปกครอง ให้ข้อความเท็จจนคนหลงเชื่อศรัทธา ตรงนั้นเป็นอีกแบบนึง เราไม่สามารถใช้มาตรา 27 มาคุ้มครองกรณีเขากระทำไม่ถูกต้องตามกฎหมายและไม่เปิดเผย ไม่งั้นก็กลายเป็นว่าทุกอย่างถ้าเกี่ยวกับเด็ก ทำผิดไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งจริงๆ มันไม่ใช่ 

  อ.ลัก ชื่อรักษ์คำราม เป็นด้านไหน?
อ.ลัก : เป็นอาจารย์สอนธรรมะ พาคนปฏิบัติธรรม จัดกิจกรรมทัวร์บุญผ้าป่า ส่งเสริมพระพุทธศาสนา ผมทำมา 12 ปีแล้ว 

มีเรื่องอิทธิฤทธิ์อภินิหารมั้ย?
อ.ลัก : ไม่มีครับ อาจมีทำนายทายทักนิดหน่อย แต่ไม่เน้นตรงนั้น 

จัดงานบ่อยมั้ย?
อ.ลัก : จัดงานแต่ละทีบ่อยอยู่แล้วเพราะเรารวมกลุ่มญาติธรรมไปทำนุบำรุงศาสนา เช่นบางวัดขาดแคลนปัจจัย ก็รวมกลุ่มกันไปในรูปแบบทัวร์บุญ 

มีเรียกเงินมั้ย?
อ.ลัก : ไปเป็นทัวร์ ก็มีค่าที่พัก รถทัวร์ ไปค้างคืนกัน 

ล่าสุดรถทัวร์มาจอดเองเลย?
อ.ลัก : ใช่ครับ มากันเยอะเลย (หัวเราะ)

ทำไมอยู่ดีๆ ชื่ออาจารย์ไปพัวพันกับเชื่อมจิต?
อ.ลัก : จุดเริ่มต้นผมจัดทัวร์บุญทั่วไป วันนึงก็เห็นในสื่อโซเชียล ช่องยูทูปช่องนึงเอ่ยชื่อน้องไนซ์ เหมือนผู้มีบุญมาเกิด เป็นอนาคามี พญานาค ผมก็ฟังแล้วสนใจ มีการเชื่อมจิตด้วย ก็หาทางติดต่อผู้ปกครอง คือคุณพ่อคุณแม่ มีการพูดคุยสอบถามกัน ตอนนั้นอยู่ในยูทูปกับติ๊กต๊อก มีคนติดตามประมาณนึง ไม่เยอะมาก จากนั้นพอคุยกับพ่อแม่เขาก็สนใจเรื่องการเชื่อมจิต เขาเคยเชื่อมจิตออนไลน์ด้วย แต่ละคนอยู่ที่บ้านไม่ต้องมาเจอตัว น้องไนซ์สามารถเชื่อมจิตออนไลน์ไปทั่วประเทศ คนอยู่ต่างที่ต่างถิ่นก็สามารถเชื่อมจิตกันได้ ผมก็แปลกใจเหมือนกันว่ามีด้วยเหรอ ตอนนั้นทำรายการช่องยูทูปด้วยก็อยากไปสัมภาษณ์เขาเลยที่สุราษฎร์ฯ เกี่ยวกับการเชื่อมจิต อันนั้นคือพ่อแม่อนุญาตให้ไป ก่อนไปผมก็สัมภาษณ์คนที่เคยเชื่อมได้ออนไลน์ มาพูดคุยกัน ผมตั้งห้องซูมให้เขาเชื่อมได้ ก็ให้เขาพูดคุยกัน แต่ละคนก็เล่าประสบการณ์ บางคนมีปัญหาเกิดขึ้น บางคนมีเทพเทวามาช่วย เป็นแนวเหมือนปาฏิหาริย์มากกว่า ผมก็สนใจเรื่องนี้เหมือนกัน ผมเชื่อเรื่องพระพิศเนศ เจ้าแม่กวนอิม พญานาคเหมือนกัน ผมก็เลยสนใจ 

นี่หัวเชื้อเลยนะ ต้นทางเลยนะ?
อ.ลัก : (หัวเราะ) ก็เอาไปถ่ายทำรายการกัน อยากให้เขาสาธิตว่าเชื่อมจิตเป็นยังไง ทีมงานก็สนใจ นั่งสมาธิกันที่พื้น น้องไนซ์ก็มาแตะหน้าผากกัน ก็มีเรื่องมหัศจรรย์ว่าทีมงานผม ตากล้องคนนึง พอนั่งเสร็จทีมงานผมรู้สึกว่ามีสิ่งแปลกๆ เกิดขึ้น เหมือนมีแสงอะไรสักอย่าง เป็นแสงที่หน้าผาก ข้างในเขา ก็ไปเชื่อมโยงกับประสบการณ์

ตอนนั้นนั่งสมาธิ?
อ.ลัก : แล้วเขามาแตะหน้าผาก แล้วมีแสง เราก็ไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไร แต่เรารู้สึกว่ามันน่าสนใจ ไม่รู้จริงไม่จริง บังเอิญผมมีทริปบุญไปสุราษฎร์ฯ อยู่แล้ว อยากพิสูจน์ดู ก็ขอพ่อแม่เขามาช่วยสาธิตให้หน่อยได้มั้ย พ่อแม่เขาก็อนุญาต วันที่ 2 ก.ค. ปี 66 ครั้งแรกเลย นี่คือประเด็นแรกที่เป็นทุกอย่าง เกิดจากทัวร์บุญครั้งนี้ หลังทำบุญเสร็จ ค้างคืน แต่ขอชี้แจงว่าผมไม่ได้ไปเก็บค่าเชื่อมจิต เพราะค่าใช้จ่ายเราเป็นค่าเดินทาง ค่ารถทัวร์ไปทำบุญ ค่าโรงแรม ที่พัก ส่วนที่ใช้สถานที่เชื่อมจิตเป็นร้านอาหารที่เขาอำนวยสถานที่ให้ เพราะเราได้ซื้ออาหารเช้า อาหารกลางวัน มาทานกัน เลยไม่มีค่าใช้จ่ายในการเชื่อมจิตครั้งนี้ ขอทดสอบดูแค่นั้นเอง และในช่วงสั้นๆ 

วันนั้นคนไปกี่คน?
อ.ลัก : 300 คน เป็นญาติธรรมผมทั้งนั้น 

ญาติธรรมไปเพราะอาจารย์ อาจารย์ก็เชิญเขามาด้วย แต่เป็นงานของเรา เขามาแล้วยังไง?
อ.ลัก : เขาก็มา มีทีมงานเขาด้วยจากกรุงเทพฯ ไม่กี่คน ก็สาธิตเหมือนกันเลย นั่งสมาธิ เปิดบทคลิปธรรมะให้ฟังประมาณ 40 นาที ให้ฟังคลิปไป นั่งกรรมฐานไป น้องเดินไปเดินมา ผลปรากฏว่าหลายๆ คนก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น แต่บางคนก็มีเหมือนกัน มีแสงที่หน้าผาก ซึ่งเขาไม่แตะทุกคน เวลาผมจะพิสูจน์อะไร ผมไม่ทำตัวเป็นน้ำล้นแก้ว ผมจะเทน้ำออกก่อนให้เหลือแก้วเปล่า แล้วไปศึกษาเขา นี่ก็เป็นจุดพลิกผันเลย เราเห็นหลายคนเกิดเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้น บางคนก็นิ่งสงบขึ้น บางคนก็เห็นแสง แต่เวลามันน้อย หลายคนก็ขอผมว่าเขาชอบน้องนะ เพราะน้องจับไมค์พูดธรรมะง่ายๆ น้องไนซ์ตอนนั้นยังน่ารัก ไม่ก้าวร้าว เป็นเด็กใสๆ อยู่ เราเห็นเขาแค่ตรงนั้น จากนั้นก็จบ ไม่มีอะไร เราก็แค่อยากลองปาฏิหาริย์ว่ามีจริงหรือเปล่า เพราะการเชื่อมจิตคือการที่น้องไปสอนในสมาธิบ้าง มีลำแสงบ้าง เราก็คิดว่าน่าสนใจดี ผมคิดแค่นั้น ไม่ได้คิดเลยเถิดไปมากกว่านั้น เพราะน้องไนซ์ เขามี 3 แบบ หนึ่งเรื่องที่มาที่ไปของน้อง ที่เป็นองค์เพชรภัทร อวตารมาสอนธรรม รับคำสั่งจากองค์พุทธะ น้องเขาพูดเอง ผมไม่สนใจตรงนั้น ไม่สนใจคำสอนน้อง ผมสนใจแค่การเชื่อมจิต เพราะอยากปฏิบัติดู พอจบไปก็ไม่มีอะไร แต่ประเด็นที่ดราม่าที่สุด พอทานข้าวเที่ยงเสร็จ ช่วงบ่ายๆ เราก็มานั่งคุยกันเล่นๆ สุดท้ายน้องไนซ์ขึ้นมาบนเวที ตอนนั้นคุยกันโดยไม่ต้องถ่ายคลิปถ่ายรูปอะไร น้องไนซ์ก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา ก็เป็นที่มาของดอกไม้สีเหลือง เขาบอกว่าพระพุทธเจ้าไม่ชอบดอกไม้สีเหลือง มีเรื่องน้องไนซ์ไปคุยกับปูติน เขาก็พูดวันนั้น เขาบอกอนาคต พระพุทธศาสนาจะไปเผยแพร่ที่รัสเซีย น้องไนซ์จะไปคุยกับปูติน 

ตอนนั้นเชื่อมั้ย?
อ.ลัก : ไม่เชื่อเท่าไหร่ คิดว่าเด็กพูดเอง 

ดอกไม้สีเหลืองตกลงยังไง?
ประยุทธ : ในพระไตรปิฎก ดอกไม้บูชาได้ทุกสี ที่มีภาพขึ้นวันนั้น จะสีเหลือง สีขาว สีแดง หรือสีอะไร เขาก็บูชาทั้งนั้น หลักการบูชาคือบูชาด้วยดอกไม้หอมๆ เขาไม่ได้ระบุหรอกว่าสีอะไร ได้อะไรยังไงก็เหมาะสมเขาก็บูชา ในพระสูตรมีบอกชัดเจน 

อาจารย์สัมภาษณ์น้องบอกว่าพระพุทธเจ้าไม่ชอบดอกไม้สีเหลือง เพราะเป็นดอกไม้ใช้ในงานศพ?
อ.ลัก : พูดทีหลังว่าดอกไม้สีเหลืองเป็นของพราหมณ์สมัยก่อน ที่เขาเอาไว้บูชาศพกัน เทพเทวาเลยไม่ชอบกัน 

ประยุทธ : งานศพจริงๆ โบราณเขาใช้สีขาวด้วยซ้ำไป ดอกไม้ขาวบางที่ ยิ่งคนเหนือ คนอีสาน เขาใช้ดอกไม้ขาว แต่พุทธเราไม่ได้ถือเรื่องสีพวกนี้ ใช้ได้หมด 

จากนั้นยังไงต่อ?
อ.ลัก : ญาติธรรมผมก็รู้สึกเอ็นดูน้อง น้องอาจมีอนาคต เพราะชอบพูดธรรมะ ถ้าผมมีกิจกรรมแบบนี้อีกก็ให้ผมเชิญอีก มาที่กรุงเทพฯ ก็ได้ เขาอยากลองนั่งดู ผมก็รับปาก ก็เป็นวันที่ 10 ส.ค. เหตุการณ์ 3,000 คน ผมเชิญมาเป็นวิทยากรรับเชิญ เป็นแขกรับเชิญพิเศษในช่วงเวลาสั้นๆ 

เขามาเพราะน้องหรือเพราะอาจารย์?
อ.ลัก : ผมประกาศกิจกรรมผมในช่องทางของผม น้องต่อจากผม เป็นกิจกรรมเสริม ตอนแรกจะจัดกิจกรรมที่วัดสระเกศ แต่ด้วยประกาศไป คนสนใจมากันเยอะ เนื้อที่วัดไม่พอ ก็เปลี่ยนสถานที่มาเป็นเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ซึ่งถ้าไปต่างจังหวัดเขาอาจไม่สะดวก แต่พออยู่กรุงเทพฯ เขาก็มากัน เพราะเขาชอบฟังธรรมะ วันนั้นบางคนก็พาญาติพี่น้องมาหลายคน ไปๆ มาๆ ก็เยอะ บางคนมาเพราะสนใจเชื่อมจิตก็มี เพราะเขาอยากรู้อยากลอง 

คำว่าเชื่อมจิต ที่อาจารย์ได้ยินมา เชื่อมเพื่ออะไร ทำเพื่ออะไร ไปเพื่ออะไร?
อ.ลัก : ที่ฟังมา การเชื่อมจิตเป็นนิยามสั้นๆ มาต่อยอด ขจัด และก็เคลียร์ เหมือนเขามาต่อยอดกรรมฐาน ใครฝึกกรรมฐานแล้วไม่ก้าวหน้า เขาก็มาช่วยต่อยอด อาจมีเรื่องน้องเขา หรือพลังพิเศษอะไรบางอย่าง มาช่วยสอนในสมาธิด้วย คนฟังดูก็แปลก บางคนก็สนใจ อยากลองดู มาเพื่อพิสูจน์ทดลองกันดู

มีการเชื่อมแล้วจะบรรลุเหรอ?
อ.ลัก : ไม่ใช่บรรลุ เหมือนคัดเพชรในกองทราย สโลแกนเขา คัดคนที่ใช่ไปกับเขา ข้ามพ้นไปอยู่ยุคศีวิไลซ์ ยุคพระศรีอารย์ ถ้าไปสู่ยุคนั้นต้องรอเฉลี่ยอายุมนุษย์ 8 หมื่นปีก่อน ผมก็บรรยายธรรมทั่วไป สวายสังฆทาน ถวายผ้าไตร เป็นกิจกรรมหลักของผมที่ทำอยู่แล้ว 

ตอนหลังเขาบอกเป็นงานของเขา?
อ.ลัก : ผมเช่าสถานที่ ดำเนินการ เชิญเขาเป็นวิทยากรรับเชิญพิเศษ ผมเขียนในโบรชัวร์ แต่คนเห็นภาพจากโปสเตอร์น้องไนซ์มากกว่า 

เชื่อมั้ยเขาเป็นพญานาค เป็นลูกพระพุทธเจ้า?
อ.ลัก : ก็ขัดแย้งอยู่เหมือนกัน เขาเชื่อของเขาอย่างนั้น เขายังเด็ก 

บอกพ่อแม่เขามั้ย?
อ.ลัก : ผมให้สิทธิ์ความเชื่อพ่อแม่เขาครับ 

ทำไมอาจารย์รู้ว่าสิ่งที่เขาทำมันบิดเบือน ทำไมไม่ท้วงติง ทำไมยังเอาเขามาอีก?
อ.ลัก : ตอนนั้นอยากเอาเขามาทดสอบเรื่องการเชื่อมจิต ไม่ได้ไปแตะเรื่องคำสอน ที่มาเขา ผมโฟกัสแค่นี้ เพราะอยากรู้แค่นี้ พอจัดครั้งที่สาม ที่สี่ ก็เรียนรู้แล้วว่า ตั้งแต่แรกมาเรายังไม่เห็นภาพชัด เหมือนเรารู้จักช้างแค่หาง เพราะเราเห็นข้อมูลแค่นี้ พอครั้งที่สอง ที่สาม เราเห็นกว้างขึ้น จึงรู้ว่าช้างไม่ใช่หาง ก็ห่างไกลพุทธศาสนาเถรวาท 

วันนี้ทำไมกลับลำ อาจารย์เป็นพยานให้ทนายอนันต์ชัยเอาผิดพ่อแม่เด็กคนนี้?
อ.ลัก : ผมเป็นพยานให้ตัวเองก่อน ผมไม่ได้ลงชื่อแจ้งความนะ ผมยื่นว่ากิจกรรมของผมไม่ได้เอาเด็กมาหารายได้ เอาหลักฐานไปให้กองปราบ ก่อนหน้านี้เอาหลักฐานให้ทนายอนันต์ชัยตรวจสอบก่อนว่าสิ่งที่ผมทำผมไม่ได้จัดหารายได้ รายได้ผมเป็นค่าทัวร์ผม ที่เชิญน้องไนซ์มาเป็นวิทยากรพิเศษ เสริมสั้นๆ จากงานหลักผมทั้ง 5 ครั้งเลย  แค่นี้เอง 

ทางโน้นก็ต่อว่าคุณนะ?
อ.ลัก : เข้าใจอยู่แล้วว่าเขาเป็นแบบนี้ ผมเคยคลุกคลีกับเขามา ตอนจัดกิจกรรมร่วมกัน ก็รู้จักแนวทางเขา รู้ว่าเป็นแบบนี้ ผมก็เรียนรู้หลายอย่างในเชิงลึกด้วย ไม่อยากพูดหรอก แต่ไม่ใช่แนวทางที่ผมอยากเดินแล้ว ที่ออกมาผมไม่ได้หนี ผมกลับมาอยู่เส้นทางปกติของผม พาคณะทำบุญตามสายพุทธศาสนาทั่วไป 

ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเชื่อมจิตอีกแล้ว?
อ.ลัก : ใช่ครับ แต่ออกมาผมไม่มีเรื่องบาดหมางกับเขา ตอนผมทำกิจกรรมไม่มีความขัดแย้ง ไม่ได้กระทบต่อสังคมหรือศาสนาตรงนั้น 

มีคนบอกว่าออกตัวแรง ทิ้งน้อง?
อ.ลัก : ไม่ได้ทิ้ง ร่วมกิจกรรมกับเขา 4 เดือนเองนะ แล้วก็เลิกไป เลิกตั้งแต่ 29 ต.ค. ปีที่แล้ว แค่มาศึกษาเชื่อมจิตเป็นยังไง พอรู้คำตอบก็ออกมา ไม่ได้ทิ้งเขาเลย วันสุดท้ายก็จากเขาด้วยดี ยังพาพ่อแม่กับน้องไปเลี้ยงอาหารอยู่เลย 

ถ้าเขาจะฟ้อง?
อ.ลัก : ก็ยินดี ไม่กลัวครับ ผมไม่ได้ทำอะไรผิด 

เขาจะฟ้องต้นอ้อ?
ต้นอ้อ : ไม่หนักใจ มาทำเรื่องนี้รู้ประวัติพ่อแม่พอสมควร ทุกวันนี้ยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ สังคมจะเห็นพฤติกรรมเขาเองโดยเราไม่ต้องพูดอะไร การกระทำของน้องก็มีผลพวงมาจากการสอนของพ่อแม่และแอดมินทั้งหลายเพื่อเอาเด็กมาเป็นกำแพง ไม่กลัวค่ะ อ้อรอแค่วันที่ศาลออกคำสั่ง วันที่เขาไปลงเสาเอก 4 ต้น พระ 4 รูป ทางศาสนาหรือประเพณีก็ไม่ควร เสาเอกต้องเสาเดียวมั้ย เขาสร้างเมรุหรือเปล่าก็ไม่รู้ ไม่รู้จริงไม่จริง เขาลงเองไงว่าน้องพูดว่าเสาเอก 4 ต้น พระมา 4 รูป พอเสร็จพิธี พระอาทิตย์ทรงกลด ขนลุกขนพอง ตาน้องเป็นประกายแวววาว ตอนขนลุกปวดท้องอึหรือเปล่าไม่แน่ใจ แล้วไปกินข้าวกันอีก ฌาปนกิจวันสุดท้ายค่ะ วันนี้จะฝังกลบแค่นั้นเอง อ้อไม่กังวล เพราะอ้อรู้ว่าอ้อไม่ได้เดินลำพัง แต่ที่ผ่านมาอ้อเดินลำพัง เพราะไม่รู้ว่าเราจะเข้าถึงจุดนี้ยังไง อย่างศาสนาได้พี่เปี๊ยกมารู้สึกอุ่นใจมาก เหมือนอ.ลัก เทน้ำทิ้ง อ้อไม่เททิ้งทั้งหมด อ้อเหลือไว้เพื่อรับข้อมูล หรือสิ่งต่างๆ ที่เราควรศึกษา อันไหนไม่ถูกก็ต้องปรับให้มันถูก ส่วนพ่อแม่เขาตอนนี้เจ้าหน้าที่พยายามใช้ทุกมาตรา แต่ยังดื้อรั้นอยู่ ฉะนั้นก็ต้องเป็นศาลที่ต้องเป็นคนสั่งทุกอย่าง เขาจะได้หยุดสักทีพฤติกรรมนี้ อย่างน้องอี้ ไม่อยากให้พูดว่าเขามาทำอะไร พุทธศาสนิกชน ไม่จำกัดอาชีพนะคะ แล้วอี้มาทำแบบนี้ อ้อสนับสนุน อี้มองว่าเขาเหมาะนะ ตอนนี้ไม่ได้มีเรื่องราวร้องทุกข์แค่เรื่องราวสตรี มีพระ คนเอาข้อมูลพระพุทธศาสนาไปบิดเบือน อย่างพี่เปี๊ยกบอกว่าลองล่ารายชื่อยุบดีมั้ย ถ้าไม่ยุบก็เปลี่ยนเอาคนมีความรู้ทางศาสนาไปดีมั้ย ถ้าประชาชนเสนอได้ อ้อก็จะขอเสนอนะคะ ให้พี่มหาเป็นผอ.สำนักพุทธไปเลยค่ะ 

อาจารย์ถือว่ารู้ แต่เทน้ำทิ้งทำไม อาจารย์ต้องสอนเขา มีคนถามมาว่าแบบนี้เข้าข่ายบ่อนทำลายศาสนาได้มั้ย?
ประยุทธ : สิ่งที่ทำให้พระพุทธศาสนา อันตรธานหายไปคือการไม่ศึกษาเล่าเรียน เรียกว่าปริยัตรอันตรธาน พอไม่มีปริยัตร แล้วพูดกันเอง เป็นการบิดเบือนคำสั่งสอน นำไปสู่การปฏิบัติที่ผิด ทำให้การปฏิบัติที่ไม่ผิด ไม่ถูกต้องมันหายไป  พอหายไปปฏิเวธไม่เกิด ก็เรียกว่าปฏิเวธอันตรธาน นำไปสู่การหายไปของพระภิกษุสามเณรในพุทธศาสนา และเหล่าพุทธบริษัท นำไปสู่การหายไปของพระบรมธาตุ หลักการทำลายพุทธคือการบิดเบือน ไม่ใช่การปลอมตัวมาบวชบิณฑบาต ไม่ใช่การมาเรี่ยไร สอนธรรมต่างๆ ที่เล็กๆ น้อยๆ แต่การยกหลักธรรมขึ้นมาแล้วบิดเบือน แล้วบอกว่านี่คือธรรม อันนั้นคือการทำลายพุทธศาสนา 

เห็นบางคนบอกว่าไอ้หนุ่มกับแม่อาจารย์น้องกัดกันไม่ปล่อยสักที ทะเลาะกัน บอกเลยผมไม่ได้ทะเลาะด้วย ครั้งที่แล้วผมหลุดไปคำนึงเขาก็เอาไปขยี้อยู่นั่น ผมเป็นคนพุทธ แต่พูดเร็วไป ต้องขออภัยด้วย ผมเคยบวชเรียนมาก่อนเหมือนกัน อาจไม่ได้มากมายอะไร แต่ผมเองก็ไหว้พระทุกวัน สวดมนต์ทุกเช้าก่อนออกจากบ้าน ผมเลยมองว่าในเมื่อเรามีหลักธรรมคือศาสนาพุทธซึ่งพิสูจน์ได้ อยู่ดีๆ มีอีกเรื่องโผล่ขึ้นมา บอกว่าเป็นแบบนี้ๆ นะ ไม่ได้มีลูกพระราหุลองค์เดียว ซึ่งมันถูกบิดเบือน แล้วลูกสาวผมโตขึ้นไปต้องอยู่บทเรียนตำรับไหน แล้วไม่มีหน่วยงานไหนยื่นมือไปจัดการได้ ก็จะมีอาจารย์น้องคนที่สอง สาม สี่ จะมีลัทธิหลายลัทธิ วันนี้ผมไม่ได้ทะเลาะด้วยนะ ผมแค่ดึงสติบางคนกลับมา เพราะหนึ่งเราเป็นสื่อ ผมอาจไม่ใช่สื่อที่ดีมากมาย ผมก็โดนด่าโดนอะไร แต่อย่างน้อยผมเป็นคนพุทธ ผมมีสติพอ เราก็ต้องปูทางให้ลูกเราเหมือนกัน ลูกเราจะเรียนรู้เรื่องพระพุทธศาสนาหลากหลายไม่ได้ เพราะมีแค่หนึ่งเดียว ฉะนั้นรากเหง้าจะเสียหาย บิดเบือนพุทธประวัติ บิดเบือนศาสนา มันแย่ นี่คือสิ่งที่อยากดึงกลับมา ผมไม่ได้ทะเลาะด้วยนะ ฟ้องก็ฟ้อง ผมก็ฟ้องกลับ บอกเลย ทุกวันนี้ก็แจ้งความเขา เดี๋ยวเขาก็ต้องมารายงานตัว พิมพ์ลายนิ้วมือ ทั้งคุณพ่อคุณแม่ ทนายเขาก็ต้องมา สุดท้ายผมยืนยันว่าผมทำอยู่ในบรรทัดฐานของความเป็นคนพุทธจริงๆ ผมถูกฟ้องไปแล้ว อาจารย์ก็น่าจะโดน มหาหมีก็น่าจะโดน เขาบอกแล้วใครมาออกรายการแล้วพูดตรงข้ามเขา เขาฟ้องหมด โดยเฉพาะทนายเขาบอก ผมบอกได้คำเดียวว่ากูไม่กลัวมึง ชีวิตนี้กูผ่านอ.อ๊อดมาแล้ว กูไม่กลัวมึง  กูบอกเลย ทุกวันนี้อ.อ๊อดแกก็ดีนะ แกก็ถามผม ตอนแกมีข้อพิพาทกับผม แกบอกว่าทนายโทรไปปรึกษาแกด้วยนะ แกพร้อมเป็นพยานให้ผมเหมือนกัน วันนี้จากศัตรูเป็นมิตร ผมก็ยินดีนะ เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว เราก็ยินดี แต่บอกได้เลยว่ากูไม่กลัวมึง วันนี้จะมาทำให้ศาสนาที่นับถือแปดเปื้อน คุณทำไม่ได้?

อ.ลัก : ผมว่าปรากฎการณ์ตรงนี้ทำให้หลายคนจับมือกันเพื่อปกป้องพระพุทธศาสนา 

คุณต้นอ้อไม่ได้เกี่ยวข้อง เขาไม่ได้ทำเรื่องนี้ด้วย วันนี้มาทำเรื่องนี้ก็ถูกฟ้อง เสียเงินค่าทนาย เสียเวลา แต่เขาทำเพื่อปกป้องพระพุทธศาสนา ภาครัฐทำอะไร?
ต้นอ้อ : พี่เปี๊ยกบอกว่าจะยื่น 157 สำนักพุทธ ทั้งเรื่องสรรพากรตรวจสอบทางโน้นอีก เอาให้จบ 

รู้สึกผิดหวัง ผมว่าไม่ถูกต้อง บางครั้งได้ยินคำพูดมา บางทีพระไปเป็นเหยื่อให้รายการนั้น รายการนี้ ก็คุณไม่แอ็กชั่นไง อย่างวัดจันทร์มา ก็บอกเป็นเหยื่อให้อย่างนั้นอย่างนี้ แล้วท่านทำอะไร ถ้าสำนักพุทธจัดการให้ตั้งแต่แรก จะมีหลุดรอดมาในรายการหรือเปล่า ถามแค่นี้ อยากให้สื่อช่วยกันหน่อย ผมเชื่อว่าทุกสื่อส่วนใหญ่เป็นพุทธ แล้วจะปล่อยให้พุทธแปดเปื้อน ต่อไปลูกหลานเราจะเรียนรู้พุทธตำรับไหน ฉบับไหน เราปล่อยไว้ไม่ได้ กลายเป็นลัทธิมันไม่ถูกต้อง อยากให้พ่อแม่เด็ก เลือกที่ปรึกษทางกฎหมายให้ถูก หรือพยายามศึกษาให้ถูกให้ควร เรื่องนี้เป็นอาญา คุณอยากเจอคุก ตะรางได้ ก็ไม่ได้ขู่นะ ไม่อยากให้เด็กลำบาก เด็กจะอยู่กับใคร ไม่อยากให้ถึงขั้นนั้น สิ่งที่สื่อทำ ลองคิดดีๆ ถ้าเรื่องนี้ไม่ถูกแก้ไข เขาจะถูกบูลลี่จากเพื่อนๆ ได้ถ้าคุณโปรโมตว่าเขาเป็นจริง จนเด็กเขาเชื่อว่าเป็นจริง เด็กจะไม่กล้าเข้าหาลูกคุณ เพราะคิดว่าเป็นผู้วิเศษเด็กก็จะไม่มีอะไรดีเลย หยุดเถอะครับ หาที่ปรึกษาทางกฎหมายดีๆ สักคนที่ถูกที่ควร แล้วพยายามถอยออกมา วันนี้ยังได้อยู่ ถ้าคุณยังปล่อยวางไม่ได้ คุณบอกว่าน้องพูดเอง ถามหน่อย ประเด็นผมเจ้าชู้ เด็กอายุกี่ขวบ 8 ขวบ ผมเจ้าชู้มาเป็นสิบปีแล้ว เด็กรู้ได้ไงหรือน้องจะย้อนไทม์แมชชีนกลับไป หรือเชื่อมจิตกลับไปดูว่าผมเจ้าชู้ มันก็ไม่ใช่ สุดท้ายมีการสอนสั่ง มีการพูดคุย ไม่รู้จากใคร สิ่งสำคัญผมไม่ได้ทะเลาะกับคุณครับ ผมช่วยพระพุทธศาสนา สองผมช่วยเด็กลูกของคุณ และตัวผมเองไม่รู้จะมีอะไรเกิดขึ้นข้างหน้าบ้าง แต่ผมไม่ได้กลัวนะ แต่อยากขอให้ชาวพุทธอยู่หลังผม อยู่หลังคุณต้นอ้อ หลังมหา หลังอ.เปี๊ยก กราบขอจริงๆ?