”อุ๊งอิ๊ง“ เปิดงานไพรด์ หวังดันกฎหมายเปลี่ยนคำนำหน้านามให้ทัน 2030 ขอบคุณ 23 ปีของการต่อสู้เพื่อสมรสเท่าเทียม

สยามพิวรรธน์ แถลงข่าวการจัดงาน “The Celebration : Right to Love” เพื่อฉลองวาระสำคัญในเดือน Pride Month โดยมี Nation Group ร่วมเป็นพันธมิตร งานแถลงข่าวจัดที่ดิสคัฟเวอรี่พลาซ่า ชั้น G สยามดิสคัฟเวอรี่ โดยมีคนดังในวงการการเมือง ภาครัฐ เอกชน และบันเทิงมาร่วมงานมากมาย

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปีนี้มีการจัดงาน Pride Month ในหลายพื้นที่ของประเทศไทย แสดงให้เห็นว่าเราเปิดรับความหลากหลายทางเพศอย่างแท้จริง แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ก็มีการต่อสู้กันมาอย่างยาวนานหลายภาคส่วน พรรคเพื่อไทยยืนยันในเรื่องนี้มาตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย 2544 เห็นว่าการแต่งงานเป็นสิทธิของทุกคน ในสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร เคยเสนอให้จดทะเบียนสมรสได้ทุกเพศ และในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ได้เสนอกฎหมายคู่ชีวิตในสภา แต่ก็ตกไปเพราะการรัฐประหาร จนกลับมาเป็นกฎหมายสมรสเท่าเทียมในสมัยรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน การต่อสู้เกือบ 23 ปีนี้เป็นผลงานของทุกๆ คนและภาครัฐมีหน้าที่ออกกฎหมายมาเพื่อคุ้มครองประชาชนทุกคน และเชื่อว่าเราจะได้มีโอกาสจัดงาน World Pride 2030 คาดว่าจะทำให้เศรษฐกิจที่ดี ชาวต่างชาติจะเห็นว่าไทยเที่ยวได้ทุกเดือน มาแล้วมีความสุข ไม่ใช่แค่ใน กทม. แต่เป็นโอกาสของจังหวัดอื่นๆ ที่จะรองรับนักท่องเที่ยวด้วย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่าพรรคเพื่อไทยจะผลักดันร่างกฎหมายรับรองอัตลักษณ์ทางเพศสภาพ การแสดงออกทางเพศสภาพ และคุณลักษณะทางเพศ ที่จะให้สิทธิผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศเปลี่ยนคำนำหน้านามได้ตามเพศสภาพ ให้สำเร็จก่อนงาน World Pride 2030 หรือไม่ น.ส.แพทองธาร ยอมรับว่าส่วนตัวก็คาดหวังให้เป็นเช่นนั้น และต้องผลักดันเรื่องการยุติการเลือกปฏิบัติและการสร้างความเท่าเทียมในด้านอื่นๆ ไปพร้อมกันด้วย

ด้านนางสรัลธร อัศเวศน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานบริหารธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เปิดเผยว่าในเดือนมิถุนายนนี้จะมีการจัดงานไพรด์หนึ่งเดือนเต็ม มีฟอรัมในการเสวนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของกลุ่ม LGBTQIAN+ และมีการจัดงาน Drag Bangkok Festival การประกวด Mister Internation ในธีม Diversity เป็นต้น

นอกจากนี้ภาคประชาชนยังมีการจัดงานไพรด์พาเหรดที่จะมีนายกรัฐมนตรีมาร่วมด้วย และคาดว่าการเป็นเจ้าภาพ World Pride 2030 จะดึงดูดผู้มาร่วมงานจากทั่วโลกนับล้านคน