เมื่อเวลา 14.15 น. วันที่ 14 พ.ค. 2567 ที่จังหวัดเพชรบุรี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง  รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.เนติพร หรือ บุ้ง ทะลุวังว่า ระหว่างที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ได้รับรายงานจากกรมราชทัณฑ์ว่า ต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และได้ทราบว่ามีการวินิจฉัยว่าเสียชีวิต จึงให้โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และกรมราชทัณฑ์ได้สื่อสารข้อมูล โดยหลักการเสียชีวิตที่อยู่ระหว่างการควบคุมของกรมราชทัณฑ์ถือว่าเป็นการควบคุมของเจ้าพนักงาน ถือว่าเป็นการเสียชีวิตโดยผิดธรรมชาติ โดยหลักการคือจะต้องมีการชันสูตรพลิกศพ ซึ่งการชันสูตรพลิกศพจะประกอบด้วย แพทย์ นิติเวช ของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และพนักงานสอบสวน แต่เนื่องจากเรื่องนี้ ถือว่าเป็นการเสียชีวิตในการควบคุมของเจ้าพนักงาน จะต้องมีพนักงานอัยการและพนักงานฝ่ายปกครอง รวมถึงผู้เกี่ยวข้องมาร่วมชันสูตรพลิกศพ โดยการชันสูตรพลิกศพ เรามีหลักการว่าจะต้องให้เสร็จภายใน 7 วัน 

 

พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อว่า อยากกราบเรียนว่าเรื่องนี้ตนในฐานะรัฐมนตรี และรัฐบาลทุกคนมีความเสียใจในการเสียชีวิต นอกจากนี้อยากให้กระบวนการชันสูตรพลิกศพ  ซึ่งเป็นสหวิชาชีพและเป็นคนกลางได้เข้าทำหน้าที่ เชื่อว่าทุกอย่างจะตรงไปตรงมา จะลดความรู้สึกไม่สบายใจของแต่ละฝ่ายได้ และในส่วนที่เกี่ยวกับเรือนจำ ภายหลังจากที่มีพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ซึ่งหลักฐานต่างๆจะมีการบันทึกวิดีโอไว้  จึงเรียนว่าหากใครเกิดความสงสัยในประเด็นอะไรเราก็ยินดี ซึ่งจากการรายงานเบื้องต้น น.ส.เนติพร ได้อยู่ในโรงพยาบาลของราชทัณฑ์รวมกับน.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน เพื่อให้รู้สึกว่าได้ดูแลกัน ซึ่งรายละเอียดขอให้กระบวนการดังกล่าวได้มีการตรวจสอบ

 

เมื่อถามว่า คณะกรรมการที่จะตั้งขึ้นมาตรวจสอบจะต้องมีใครเข้ามาร่วมบ้าง พ.ต.อ.ทวี  กล่าวต่อว่า  หลักการกฎหมาย 1. ต้องมีแพทย์ทางนิติเวช ของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และจะต้องมีใบประกอบวิชาชีพ 2. มีพนักงานอัยการ 3. พนักงานสอบสวน และ 4. พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ โดยสามารถให้ญาติเข้าไปรับรู้ได้ ไม่มีตัวแทนของกรมราชทัณฑ์ เชื่อว่ากระบวนการนี้เป็นกระบวนการที่โปร่งใส ส่วนของกรมราชทัณฑ์นั้น เนื่องจากผู้เสียชีวิตได้อยู่โรงพยาบาลตลอด จึงมีหลักฐานการตรวจรักษา สิ่งต่างๆเหล่านี้ทางกรมราชทัณฑ์จะสนับสนุน ควบคู่กับการชันสูตร

 

พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อว่า ได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้นายกรัฐมนตรีรับทราบแล้ว ซึ่งตอนรายงานนั้น ได้รายงานว่าน.ส.เนติพร ได้ไปโรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์ โดยนายกฯ กล่าวว่าขอให้รักษาให้ดีที่สุด และช่วยเหลือให้ดีที่สุด และตอนหลังเมื่อทราบว่าเสียชีวิต นายกฯ บอกว่าเราต้องทำอย่างตรงไปตรงมา และต้องเรียนว่า กรณีดังกล่าวคดีมี 3 คดี คือ คดีละเมิดอำนาจศาล ได้ลงโทษจบไปแล้ว ยังมีคดีที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ได้ถอนประกัน  รวมถึงคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณา คือคดีฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งทางเรือนจำจะต้องทำตามคำสั่งศาล

 

เมื่อถามอีกว่า แสดงว่าก่อนหน้านี้เคยมีการรับการประกันตัวไปแล้ว แต่ถูกถอนเนื่องจากมีอีกคดีความ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า รายละเอียดเดี๋ยวต้องไปดู เพราะศาลอาญากรุงเทพใต้ได้ถอนประกัน

 

เมื่อถามต่อว่า ในส่วนของน.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน ยังไม่ได้มีอาการอะไรใช่หรือไม่  พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า  เดี๋ยวจะเข้าไปเยี่ยมดู เพียงแต่ได้รับการรายงานยังไม่เห็นกับตาจึงไม่อยากพูด โดยส่วนตัวปกติ ถ้าอะไรไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง ตนไม่อยากพูด

 

เมื่อถามย้ำว่า ยังอดอาหารอยู่ใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ไม่ได้ดูในรายละเอียดเรียนว่าหมอที่ดูแล และคนที่เกี่ยวข้องอีกหลายคนจะมีการบันทึกไว้ในแต่ละวันของผู้ต้องขังในโรงพยาบาล

 

เมื่อถามย้ำว่า รัฐมนตรีจะเข้าไปเยี่ยมด้วยตัวเองใช่หรือไม่  พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า จะต้องเข้าไปดู

 

เมื่อถามอีกว่า เราจะต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกใช่หรือไม่  พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้อำนวยการและหมอ ท่านพูดว่าในกรณีของน.ส.เนติพร จะเข้าออกระหว่างกรมราชทัณฑ์กับโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ  ซึ่งได้ทำตามวิชาชีพแล้ว 

 

เมื่อถามต่อว่า นอกจากญาติแล้วหากทนายความของผู้ต้องหา อยากจะเข้าร่วมคณะกรรมการได้หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า  ยินดี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ได้เรียนกับพ่อแม่ผู้เสียชีวิตให้ทราบ ก่อนรายงานให้ตนรับทราบ