วันที่ 13 พ.ค.67 GISTDA สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) โพสต์ข้อความระบุว่า...
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ร่วมกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ, กรมควบคุมมลพิษ, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมง ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมผ่านแอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” เมื่อเวลา 8.00 น. ของวันที่ 13 พฤษภาคม 2567 พบ 13 จังหวัด มีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับสีส้มที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ คือ #อุบลราชธานี 49.4 ไมโครกรัม #สิงห์บุรี 47.8 ไมโครกรัม #ยโสธร 45.1 ไมโครกรัม #ศรีสะเกษ 44.4 ไมโครกรัม #สมุทรสงคราม 44.2 ไมโครกรัม #อำนาจเจริญ 43.9 ไมโครกรัม #มุกดาหาร 43.8 ไมโครกรัม #อ่างทอง 43.3 ไมโครกรัม #ลพบุรี 42.7 ไมโครกรัม #สระบุรี 41.9 ไมโครกรัม #ชัยนาท 41.6 ไมโครกรัม #พระนครศรีอยุธยา 39.2 ไมโครกรัม #ร้อยเอ็ด 39 ไมโครกรัม ในส่วนของจังหวัดอื่นๆพบค่าคุณภาพอากาศปานกลางไปจนถึงคุณภาพอากาศดีมาก
สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานครวันนี้พบว่ามี 1 เขต ที่ค่าฝุ่นเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ คือ #บางนา 45.1 ไมโครกรัม ในส่วนของ 49 เขตที่เหลือพบค่าคุณภาพอากาศปานกลางไปจนถึงคุณภาพอากาศดีมาก
แอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” ยังคาดการณ์ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในอีก 3 ชั่วโมงข้างหน้า พบว่าหลายพื้นที่จะมีค่าคุณภาพอากาศที่ยังคงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะโซนภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งนี้ ข้อมูลบนแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” มีการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมร่วมกับ AI (Artificial intelligence) ในการวิเคราะห์ค่าฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมงในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ร่วมกับการใช้ข้อมูลการตรวจวัด PM 2.5 จากกรมควบคุมมลพิษ, ข้อมูลสภาพอากาศ จากกรมอุตุนิยมวิทยา รวมถึงข้อมูลของแหล่งกำเนิดฝุ่น เช่น จุดความร้อน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก มานำเสนอให้ในรูปแบบข้อมูลตัวเลขและค่าสีในระดับต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจสถานการณ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น
ประชาชนควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมาโดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ทั้งนี้ ท่านสามารถติดตามข้อมูล PM2.5 แบบราย ชั่วโมงเพิ่มเติมผ่านแอปพลิเคชัน "เช็คฝุ่น"