วันที่ 12 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ ที่วัดปูแกง ตำบลแม่เย็น อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นบ้านเกิดและสถานที่ประกอบพิธีฌาปนกิจ นายนพพร เรือนมา อายุ 35 ปี ซึ่งประสบเหตุเพลิงไหม้ถังบรรจุสารไพโรไลสิส แก๊สโซลีน ที่ท่าเรือมาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต โดยตลอดทั้งวันยังเป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยมีญาติ พี่น้อง เพื่อนๆ และประชาชนที่รู้จักมักคุ้นกับครอบครัวของนายนพพร เดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก

ขณะที่วันเดียวกันนี้ทางเรืออากาศเอกหญิง ศุภพร อยู่วัฒนา ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม และนายพรชัย พินิจรัตนอนันต์ ประกันสังคมจังหวัดเชียงราย ได้เดินทางไปที่วัดปูแกง ตำบลแม่เย็น อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย เพื่อมอบเงินทดแทนและสิทธิประโยชน์จากสำนักงานประกันสังคมให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยแบ่งเป็นเงินทดแทน 1,680,000 บาท ค่าทำศพ 50,000 บาท และบำเหน็จชราภาพ 110,039.50 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,840,039.50 บาท (หนึ่งล้านแปดแสนสี่หมื่นสามสิบเก้าบาทห้าสิบสตางค์) อีกทั้งยังเป็นตัวแทนของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ส่งมอบพวงหรีดไว้อาลัยและแสดงความห่วงใยต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยมี นางปั๋น เรือนมา อายุ 67 ปี มารดา และ น.ส.โสรยา เรือนมา อายุ 35 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต เป็นผู้รับมอบ

นอกจากนี้ยังมี นายสมชาย จันทรประเทือง อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฏหมายและการบังคับคดีจังหวัดเชียงราย พร้อมทีมงาน นำพวงหรีดมาไว้อาลัยและพูดคุยซักถามครอบครัวผู้เสียชีวิต รวมถึงแนะนำสิทธิทางกฎหมายของผู้เสียชีวิต ทายาท และการรับเงินชดเชยจากบริษัทต้นสังกัด ซึ่งต้องมีการนัดหมายเพื่อพบปะพูดคุยในรายละเอียดกันอีกครั้งหลังเสร็จสิ้นพิธีศพ

โดย น.ส.โสรยา เรือนมา ภรรยาผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุตนได้ติดตามข่าวไฟไหม้โรงงานที่สามีทำงานตลอด และพยายามโทรติดต่อหาสามี แต่สามีไม่ได้รับสาย ตอนนั้นตนยังคิดในแง่ดีว่าเขาคงจะติดธุระไม่ว่างรับสาย แต่พอได้รับการติดต่อจากพี่สะใภ้ ว่าสามารถจะเดินทางไปที่โรงพยาบาลได้ไหม ถ้าไปได้ให้ไปทันทีเลย ตนจึงรีบเดินทางไปที่โรงพยาบาล จึงทราบว่าสามีประสบอุบัติเหตุขณะทำงานและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทันทีที่ทราบรู้สึกช็อค ทำอะไรไม่ถูก  

น.ส.โสรยา กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีลางบอกเหตุอะไรมาก่อน แต่เมื่อประมาณสัปดาห์ก่อนหน้านี้เหมือนเขาจะฝันว่าตนหนีไปกับผู้ชายคนอื่น เขาก็เลยมาเล่าให้ฟัง ตนก็เลยตอบทีเล่นทีจริงว่า สำหรับตนไม่มีคนอื่นหรอก แต่ถ้าเขาไปมีคนอื่นก่อนก็คงจะมีเหมือนกัน ยอมรับว่าเขาเป็นคนดี ดูแลตนเอง ลูก และครอบครัวอย่างดี แม้ปกติจะเป็นคนไม่ค่อยพูดแต่เมื่อมีใครเดือดร้อนก็มักจะให้การช่วยเหลือประจำ เช่น ญาติคนไหนมีปัญหาอะไรก็ยื่นมือให้การช่วยเหลือ  ซึ่งการจากไปของสามีทำให้ครอบครัวต้องลำบากแน่นอนเพราะสูญเสียเสาหลัก ปกติจะเป็นคนหาเงินมาเลี้ยงทั้งครอบครัวของตนเอง ทางพ่อแม่ทั้งสองฝั่ง ตอนนี้คนหาเงินได้จากไปแล้ว ยังไม่รู้ว่าครอบครัวจะอยู่ได้อย่างไร แต่ก็จะพยายามเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด

"สำหรับแนวทางในการช่วยเหลือช่วยค่าทำศพและเงินชดเชย ตอนนี้ทางสำนักงานประกันสังคมได้ช่วยค่าทำศพและชดเชยมาแล้ว ส่วนบริษัทต้นสังกัด ก็มีการพูดคุยเบื้องต้นว่า เขาจะช่วยเหลือเต็มที่ ทั้งค่าทำศพและเงินชดเชย รวมถึงส่งเสียลูกให้จนจบปริญญาตรี แต่ยังไม่ได้มีการพูดคุยในเรื่องยอดเงิน ซึ่งจะมีการพุดคุยในเรื่องนี้อีกครั้งหลังเสร็จสิ้นพิธีฌาปนกิจศพ ซึ่งก็อยากให้ทางบริษัทฯ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือสามีในสิทธิ์ที่ควรจะได้อย่างเต็มที่ ในส่วนของครอบครัวก็พยายามที่จะดูแลกันให้ดีที่สุด สำหรับบ้านที่ซื้อใน จ.ระยอง ที่ยังผ่อนชำระอยู่ยังไม่ทราบยอดเงินเท่าไหร่ ซึ่งจะมีการตรวจสอบก่อน และตนก็มีหนี้อีกส่วนหนึ่ง ในส่วนเหล่านี้ที่จะต้องเป็นภาระที่จะต้องดำเนินการในอนาคต" น.ส.โสรยา กล่าว

สำหรับนายนพพร เรือนมา ได้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เพลิงไหม้บริเวณถังจัดเก็บสารประกอบไฮโดรคาร์บอน C9+ ของบริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด (MTT) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SCC ตั้งอยู่ที่ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง  โดยหลังเกิดเหตุนายนพพร พร้อมกับเพื่อนร่วมงานรวม 4 คน ได้แสดงความเสียสละ และจิตใจที่กล้าหาญพยายามขึ้นไปปิดวาล์วบนถัง ก่อนเกิดการระเบิดขึ้น ซึ่งแรงระเบิดทำให้เขาเสียชีวิตและเพื่อนร่วมงานได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 คน เหตุเกิดช่วงวันที่ 9 พฤษภาคม 2567ที่ผ่านมา  โดยกำหนดพิธีฌาปนกิจ จะมีการสวดอภิธรรม เพื่ออุทิศส่วนกุศลเป็นเวลา 4 คืน ไปจนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม และจะจัดให้มีพิธีฌาปนกิจในวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 ที่จะถึงนี้ ที่สุสานบ้านปูแกง ตำบลแม่เย็น อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย ต่อไป