ทัพเรือภาคที่ 2 ตำรวจน้ำสงขลา จับกุมเรือประมงเวียดนาม 5 ลำ ลูกเรือ 25 คน ลุกล้ำเข้ามาทำการประมงผิดกฎหมายในน่านน้ำไทย
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2567 ทัพเรือภาคที่ 2 ได้รับแจ้งเบาะแสจากแหล่งข่าวในพื้นที่ว่ามีกลุ่มเรือประมงต่างชาติ เข้ามาทำการประมงผิดกฎหมายในน่านน้ำไทย บริเวณแบริ่ง 132 ระยะ 43.1 ไมล์ จากปากร่องน้ำสงขลา ซึ่งอยู่ในเขตน่านน้ำภายใน พลเรือโท พิจิตต ศรีรุ่งเรือง ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ เรือตรวจการณ์ชายฝั่ง หมายเลข 236 ทำการลาดตระเวนตรวจสอบ โดยร่วมกับศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 2 และกองกำกับการ กองบังคับการตำรวจน้ำ จัดกำลังประกอบด้วย เรือตรวจการณ์ชายฝั่ง 236 ชุดปฏิบัติการพิเศษ จำนวน 4 นาย พร้อมด้วยเรือยางและอุปกรณ์ จำนวน 1 ลำ เรือตำรวจน้ำ หมายเลข 352 และเรือ RHIB โดยระหว่างเวลา 13.30-19.00 น.ได้ตรวจพบกลุ่มเรือประมงสัญชาติเวียดนาม จำนวน 5 ลำ ผู้ควบคุมพร้อมลูกเรือรวม 25 คน บริเวณบริเวณแบริ่ง 143 ระยะ 40 ไมล์ จากปากร่องน้ำสงขลา จึงได้ควบคุมเรือพร้อมลูกเรือทั้งหมด มายังท่าเทียบเรือ ฐานทัพเรือสงขลาทัพเรือภาคที่ 2 เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 12 พฤษภาคม 2567 เพื่อสอบสวนเพิ่มเติม และส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
การดำเนินคดีกับเรือประมงสัญชาติเวียดนามในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นการจับกุมในพื้นที่เขตน่านน้ำภายในจึงได้ตั้งข้อกล่าวหาผู้กระทำความผิดไว้ 3 ข้อหา ดังนี้
1. ใช้เรือประมงไร้สัญชาติทำการประมงในเขตการประมงไทย (ตาม พ.ร.ก.การประง
พ.ศ.2558 ประกอบ มาตรา 123)
2. ร่วมกันทำการประมงพาณิชโดยไม่มีใบรับอนุญาตทำการประมง (ตาม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ. 2558 มาตรา 36 ประกอบ มาตรา 129)
๓. ทำการประมงในเขตการประมงไทยโดยทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมเรือโดยไม่ได้รับอนุญาต(ตาม พ.ร.ก.ว่าด้วยสิทธิการประมงในเขตการประมงไทย พ.ศ.2482 มาตรา 7 วรรคหนึ่ง ประกอบ มาตรา 11
วรรคหนึ่ง)
สำหรับการจับกุมเรือประมงต่างชาติในพื้นที่ทัพเรือภาคที่ 2 ในปีงบประมาณ 2567 ตั้งแต่ตุลาคม 2566 จนถึงปัจจุบัน มีการจับกุมรวมในครั้งนี้ จำนวน 7 ครั้ง จับกุมเรือทั้งหมด 12 ลำ ผู้ควบคุมเรือพร้อมลูกเรือรวม จำนวน 61 คน
ทั้งนี้การปฏิบัติดังกล่าว เป็นไปตามนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือ ปี 2567 โดยร่วมกับศรชล.ภาค 2 ในการประสานการปฏิบัติ ตั้งแต่ด้านการข่าว และจัดกำลังทางเรือ และอากาศนาวีลาดตระเวน เฝ้าตรวจ และคุ้มครองผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นย้ำการรุกล้ำน่านน้ำไทยของเรือประมงต่างชาติ เพื่อเข้ามาทำการประมงโดยผิดกฎหมาย จนประสบความสำเร็จในการจับกุมในครั้งนี้
ท้ายนี้ ทัพเรือภาคที่ 2 ขอขอบคุณพี่น้องขาวประมง ในความร่วมมือที่ได้แจ้งเบาะแสของเรือที่กระทำความผิด และขอให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนและชาวประมงไทยว่า "ในพื้นที่รับผิดชอบของทัพเรือภาคที่ 2 ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 113,275 ตารางกิโลเมตร นั้น เราจะปกป้อง และรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างเต็มความสามารถ โดยมิยอมให้เรือประมงต่างชาติรุกล้ำเข้ามาแย่งชิงทรัพยากรในการทำการประมงเป็นอันขาด ทั้งนี้เพื่อให้ทรัพยากรของประเทศไทย คงอยู่กับลูกหลานของคนไทยตลอดไป