รมว.ยุติธรรมควงพงศ์เทพ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาประมงตั้งเป้ากลับมาเป็นเจ้าสมุทรเช่นอดีต

เมื่อเวลา10.30 น.วันที่12 พฤษภาคม 2567 พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมคณะ เดินทางมาที่ห้องประชุม 401 ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการประมง ที่ได้รับผลกระทบจากประกาศของ IUU และแนวทางในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวประมง โดยมี นายไพฑูรย์ มหาชื่นใจ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร และ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมด้วยนายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย นายมงคล มงคลตรีลักษณ์ นายกสมาคมการประมงสมุทรสาคร และกลุ่มชาวประมงในพื้นที่ให้การต้อนรับ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากปัญหาผลกระทบกรณีที่สหภาพยุโรปประกาศให้ประเทศไทย เป็นประเทศที่ทำการประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม ( Illegal, Unreported and Unregulated Fishing :IUU Fishing) โดยให้ใบเหลืองประเทศไทย เมื่อเดือนเมษายน ปี 2558 ปัจจุบันได้ปลดใบเหลืองประเทศไทยแล้ว เมื่อวันที่ 8 มกราคม ปี 2562  ในช่วงของการดำเนินการตามสหภาพยุโรป ประเทศไทยได้ออก พ.ร.ก.การประมง ปี 2558 ฉบับแก้ไข นั้น เกิดผลกระทบให้กับพี่น้องชาวประมงเป็นอย่างมาก จึงยื่นข้อเสนอต่อ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้แทนของรัฐบาล เพื่อให้แก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ ตัวแทนภาคประมงแสดงความกังวลต่อการนำเข้าวัตถุดิบสัตว์น้ำจากต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่ไม่ได้เป็นสมาชิก IUU Fishing ซึ่งวัตถุดิบที่นำเข้ามานั้น มีต้นทุนถูกกว่าประเทศที่ดำเนินการตาม IUU อย่างประเทศไทย จึงส่งผลกระทบต่อการทำประมงภายในประเทศ พร้อมกันนี้ ยังเห็นว่าภาครัฐควรส่งเสริมอาชีพประมงมากขึ้น ทั้งอาชีพชาวประมง แรงงานประมง อนาคตควรต้องมีการพัฒนาองค์ความรู้ให้กับชาวประมง เนื่องจากไต้ก๋งเรือปัจจุบัน ส่วนใหญ่อายุมากกว่า 50 ปี ใกล้ที่จะเกษียณอายุ ขณะที่ไต้ก๋งเรือรุ่นใหม่ก็แทบไม่มี เพราะไม่มีการส่งเสริม อีกทั้งติดขัดเรื่องข้อกฎหมายในการประกอบอาชีพด้วย รวมทั้งมีข้อเสนอต่าง ๆ เช่น ปลาทูที่เป็นปลาผิวน้ำ และจะวางไข่ด้านใต้ของผืนน้ำ จึงอยากให้รัฐบาลห้ามทำประมงแบบอวนจม ในฤดูที่ปลาวางไข่ และอยากให้มีแนวปะการังในพื้นที่ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในอีกมิติหนึ่งด้วย เพราะจังหวัดสมุทรสาคร สามารถเดินทางมาเที่ยวไปกลับจากกรุงเทพฯ ใน 1 วันได้ 

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระบุว่า รัฐบาลมีความต้องการที่จะฟื้นฟูอุตสาหกรรมประมง และมีการบริหารทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน โดยรัฐบาลมุ่งลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชาวประมง การดูแลชาวประมง ควบคู่กับการส่งเสริมและอนุรักษ์ทรัพยากรอย่างเหมาะสม ภายใต้บริบทการทำประมงของไทยเพื่อให้เกิดความยั่งยืนมั่นคงในการประกอบอาชีพประมง และความยั่งยืนของทรัพยากรสัตว์น้ำ ซึ่งในส่วนของสมาคมการประมงสมุทรสงครามได้เสนอความเห็นให้มีคณะทำงานกลุ่มย่อย เพื่อเข้ามาติดตามดูแลปัญหา เพื่อให้อุตสาหกรรมประมงสามารถกลับมาแข่งขันได้ พร้อมทั้งจะพิจารณาทบทวนแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับกำหนดขั้นตอน และเงื่อนไขที่เป็นอุปสรรคในการทำประมงในไทย เพื่อให้ประเทศไทยกลับมาเป็นผู้นำด้านการค้าสินค้าประมงในตลาดโลกอีกครั้ง และกลับให้เป็นเจ้าสมุทรเช่นเดิม 

ทางด้าน นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระบุว่า วันนี้ มีโอกาสมาพบชาวประมงจังหวัดสมุทรสาคร ตามคำเชิญของ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โดยได้ร่วมรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวประมงจากหลายกลุ่มในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดใกล้เคียง โดยพี่น้องชาวประมง ได้สะท้อนปัญหาต่างๆให้ฟังตั้งแต่ปัญหาแรงงาน โดยเฉพาะกฎหมาย และจะร่วมหาทางออกให้พี่น้องประชาชนต่อไป

ทั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้รับข้อเสนอมาพิจารณาในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้ 1) การเสนอให้กรมประมงซื้อเรือคืน และตั้งงบซื้อเรือคืนอย่างต่อเนื่อง 2) ให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาราคาสัตว์น้ำตกต่ำ 3) เสนอให้มีการจัดตั้งสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องให้ชาวประมงโดยเร่งด่วน 4) ให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาปลาหมอสีคางดำ ซึ่งเป็นสัตว์ต่างถิ่น 5) เสนอให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจฟื้นการประมงไทย 6) แก้ปัญหาด้านกฎหมายที่เกี่ยวกับประมง และเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมประมงของไทย 7) คืนสิทธิ์เรือประมงที่ถูกตัดสิทธิ์ ตาม IUU และ 8) ใช้งบประมาณการทำแนวปะการังเทียมมาซื้อเรือประมงและทำพิพิธภัณฑ์เรือประมง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวต่อไป.