วันที่ 12 พ.ค.2567 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า คนที่ออกมาท้วงติงข้าวค้างโกดัง 10 ปี ว่าเป็นวาทกรรมที่มุ่งหวังจะด้อยค่าข้าวว่า ตนเป็นอีกคนหนึ่งที่ออกมาท้วงติงตั้งแต่เริ่มแรก แต่การตรวจสอบท้วงติงไม่มีเจตนาจะไปด้อยค่าข้าวเลย แต่เป็นการท้วงติงที่คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนและประเทศ ด้วยความเป็นห่วงสุขภาพของพี่น้องประชาชน หากไม่มีการตรวจสอบคุณภาพข้าวให้ได้มาตรฐานก่อน เพราะข้อเท็จจริงที่เห็นชัดเจนว่าข้าวที่ค้างโกดัง 10 ปี มีทั้งมอด รวมไปถึงมีการรมยาถึง 100 กว่าครั้ง และคนของรัฐบาลเองที่ไปหุงข้าวโชว์ หลักฐานออกมาจากการดำเนินการของรัฐบาลทั้งสิ้น

นายราเมศ กล่าวว่า กลับกันคนที่มีคำพูดที่ด้อยค่าคือคนของรัฐบาล โฆษกรัฐบาลก็คืออีกคนหนึ่งที่ด้อยค่าความคิดเห็นข้อท้วงติงที่เขาเหล่านั้นเป็นห่วงประชาชน อย่างที่บอกทำตัวน้ำเต็มแก้ว แต่ในแก้วมีแต่น้ำเน่า ต้องหัดรับฟังเสียงสะท้อนบ้าง และสุดท้ายนายกรัฐมนตรีก็บอกให้มีการตรวจคุณภาพข้าวถ้าไม่ปลอดภัยก็ไม่ขาย สุดท้ายก็ต้องมาจบตรงจุดนี้  และเราก็ต้องตามว่ากระบวนการตรวจสอบเป็นอย่างไร ใครเป็นคนตรวจสอบ อย่าลืมว่าเรื่องนี้ประชาชนจับตาอยู่ เพราะหากไม่ถูกต้องจะมีผลกระทบในวงกว้างและชื่อเสียงของข้าวไทย