วันที่ 12 พ.ค. 2567 นายชนินทร์ รุ่งแสง รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ อดีต สส.กทม. และอดีตประธานกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจสภาฯ กล่าวว่า ในช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลเปิดเทอมของนักเรียนนักศึกษา ซึ่งเป็นภาระที่เกิดขึ้นประจำของพ่อแม่ผู้ปกครอง ในการเตรียมความพร้อมให้ลูกหลานเพื่อเข้ารับการศึกษา ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มากมายเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ค่าเทอม ค่าเล่าเรียน ค่าหนังสือแบบเรียน ค่าชุดนักเรียนนักศึกษา และอื่น ๆ อีกจิปาถะ ทั้งนี้ตามที่ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายและผลกระทบของผู้ปกครองช่วงเปิดเทอมว่า คาดว่าจะมีมูลค่าใช้จ่ายสูงถึง 60,322.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.21% จากปี 66 ที่มีมูลค่า 57,885.63 ล้านบาท ถือเป็นมูลค่าใช้จ่ายสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มสำรวจในปี 53 หรือสูงสุดรอบ 15 ปี ผู้ปกครอง ส่วนใหญ่ 46% บอกใช้จ่ายเท่าเดิม เพราะราคาของแพงขึ้น ประหยัด ไม่มั่นใจภาวะเศรษฐกิจ รายได้ลดลง ขาดสภาพคล่อง มีหนี้
ทั้งนี้ ผู้ปกครองมากถึง 45.6% บอกมีเงินไม่เพียงพอจะใช้จ่ายช่วงเปิดเทอม เพิ่มขึ้นจากปี 66 ที่อยู่ที่ 36.5 จำเป็นต้องจำนำทรัพย์สิน กู้เงินใน-นอกระบบ ยืมญาติพี่น้อง เบิกเงินสดจากบัตรเครดิต ผ่อนชำระเป็นงวดๆ ตลอดจนต้องพักการเรียน นอกจากนี้ผู้ปกครองบางส่วนบอกว่า ค่าใช้จ่ายบุตรหลานช่วงเปิดเทอม มีส่วนทำให้ก่อหนี้อีกด้วย ปีนี้ผู้ปกครองซื้อสินค้าตามความจำเป็น และซื้อตามจำนวนของบุตรหลานที่เข้าโรงเรียน โดยสินค้าที่ยังซื้อเท่าเดิม คือ ชุดนักเรียน แต่สิ่งที่ใช้ซ้ำได้จะซื้อลดลง เช่น กระเป๋า อุปกรณ์การเรียน ชี้ให้เห็นว่าผู้ปกครองยังระมัดระวังใช้จ่าย
" ขอเรียกร้องไปถึงรัฐบาลเห็นความสำคัญกับเรื่องการศึกษาซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาในระยะยาวของชาติและที่สำคัญขอให้ อย่าทิ้งละเลย ลอยแพ พ่อแม่ครองที่เดือดร้อนในช่วงเปิดเทอมนี้ และขอฝากถึงนายกเศรษฐา 3 เรื่องคือ เร่งรัดนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตมาให้กลุ่มพ่อแม่ผู้ปกครองที่จำเป็นต้องใช้เงินในช่วงเปิดเทอม เป็นการใช้เงินของรัฐบาลถูกที่ถูกเวลากับความเดือดร้อนของประชาชน และหาเงินเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) หรือเงินกู้ปลอดดอกเบี้ย ให้ผู้ปกครองเข้าถึงในช่วงเปิดเทอม รวมทั้งจัดหาสินค้าเพื่อการศึกษาที่เป็นของดีมีคุณภาพและราคาย่อมเยาด้วย ซึ่งจะเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระให้กับพ่อแม่ ผู้ปกครองในช่วงเปิดเทอม" นายชนินทร์ กล่าว