ตร.3 หน่วย สืบภาค 4,สืบจังหวัดและตร.สภ.โนนสะอาด 3 ชุดติดตามคดียิงหนุ่มใหญ่ดับกลางไร่มันเมื่อปลายเดือน เม.ย.67 ที่ผ่านมา วันนี้ พ.ต.อ.ปฐวี ก้อนวิมล  ผกก.สภ.โนนสะอาดเผยแผนแกะรอยล่า 18 วันรวบหนุ่มใหญ่วัย 60 ปีได้ หลังขี่รถจยย.หิ้วปืนตามฆ่าข้ามจังหวัดยิงเจาะอกเพื่อนดับกลางไร่มันสำปะหลัง  แค้นฝังใจเพื่อนรักแอบตีท้ายครัวเมีย เผยตร.มืดแปดด้านต้องไล่เช็คกล้องวงจรปิดกับพยานหลายอย่าง รวมทั้งรอยเท้าในที่เกิดเหตุ แถมตร.ชุดสืบตาดีเห็นปลายปืนโผล่เช็คทะเบียนรถและรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับ ปิดคดีได้

วันนี้ (11 พ.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีมีคนร้ายยิงนายพิจิตร หรือ จิตร อายุ 60 ปี ชาวบ้านบ้านโคกกลาง หมู่ 13 ต.โคกกลาง อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี เสียชีวิตกลางไร่มันสำปะหลังท้ายหมู่บ้าน เหตุเกิดเมื่อเวลา 05.30 น.ของวันที่ 24 เม.ย.67 ที่ผ่านมา ญาติที่กำลังไปขนมันสำปะหลังที่ผู้ตายนำรถไถไปขุดหัวมันสำปะหลังในไร่เมื่อไปพบศพถึงกับช็อค รีบแจ้งตร.ไม่คิดว่านายพิจิตรจะถูกยิงตาย ขณะที่ภรรยาและญาติๆ เชื่อว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากเรื่องชู้สาว เพราะผู้ตายไปติดพันหญิงสาวคนหนึ่งในหมู่บ้าน ขณะที่นางหนูเพียร อายุ 54 ปี กิ๊กของคนตายก็ออกมาโต้ไม่ได้สั่งฆ่านายพิจิตรตามที่ภรรยาคนเสียชีวิตสงสัย แต่ยอมรับเป็นกิ๊กกันจริงๆ และคบกันมานานหลายปี รักและเข้าใจกันดี ไม่ได้สั่งฆ่าแน่นอน

ต่อมาพล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.สส.ภ.4, พ.ต.อ.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ รอง ผบก.สส.ภ.4, พ.ต.อ.สมภพ กองสมบัติ ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.4, พ.ต.อ.ปฐวี ก้อนวิมล ผกก.สภ.โนนสะอาด, พ.ต.อ.พันธุ์เพ็ชร เหล่ากำเนิดเพชร ผกก.สส.ภ.จว.อุดรธานี และกำลังชุดสืบสวน ได้ร่วมกันนำหมายค้นศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ 126/2567 เข้าตรวจค้นจับกุมตัว นายทรงศักดิ์ หรือทุย อายุ 60 ปี ขณะหลบซ่อนตัวในบ้านพักที่บ้านหนองกาบ หมู่ 9 ต.โคกเครือ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ จ.147/2567 ลงวันที่ 10 พ.ค.2567 ในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับใบอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควรและไม่ได้รับใบอนุญาต พร้อมกับตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Xiaomi รุ่น Redmi 9T 1 เครื่อง, รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ110i ทะเบียน 1กนxxxx มหาสารคาม 1 คัน,อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ , เสื้อยืดแขนสั้นสีดำ 3 ตัว, กางเกงยีนส์ขายาวสีฟ้า ขาดเข่า 2 ข้าง 1 ตัว, ถุงย่ามกระสอบสีเขียว 1 ชิ้น, ลูกตะกั่ว 1 ถุง และเศษชิ้นส่วนตะกั่ว 5 ชิ้น โดยสามารถจับกุมเสือทุยได้ที่บ้านพักในอ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ และจากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงพาตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ

โดยวันนี้ พ.ต.อ.ปฐวี ก้อนวิมล ผกก.สภ.โนนสะอาด เผยถึงแผนแกะรอยล่าคนร้ายรายนี้ โดยเปิดเผยว่า คดีนี้สืบเนื่องมาจากวันที่ 24 เม.ย.67 ที่ผ่านมานายพิจิตรถูกยิงเสียชีวิตในไร่มันสำปะหลังของตนเอง ตอนแรกตำรวจตั้งปมประเด็นสังหารไว้ 3 ประเด็น คือ ชิงทรัพย์ เรื่องชู้สาว และยาเสพติด แต่จากการสืบสวนและการรวบรวมพยานหลักฐานทราบว่า เป็นเรื่องชู้สาว ตำรวจจึงขออนุมัติหมายจับนายทรงศักดิ์ หรือทุย อายุ 60 ปี  โดยสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ที่บ้าน เบื้องต้นเจ้าตัวรับสารภาพว่า ได้ขับรถออกจากบ้านที่อำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์ ในช่วงกลางคืนประมาณเวลา 01.00 น ของวันที่ 24 เม.ย.มายังจุดเกิดเหตุและใช้อาวุธปืนยิง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พกพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้านชุมชนโดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ตร.ตอนแรกเรามืดแปดด้าน เพราะที่เกิดเหตุกลางไร่มันสำปะหลังไม่มีพยานหลักฐาน หรือกล้องวงจรปิดที่พอจะเชื่อมโยงหาตัวคนร้ายได้  ตร.เราก็เริ่มสืบจากพยานแวดล้อม และรอยรองเท้ารอยหนึ่งที่เห็นเดินจากที่เกิดเหตุไปถนนใหญ่ จากนั้นเราก็ไล่เช็คกล้องวงจรปิดไปเรื่อยๆ และสอบถามจากญาติคนตายก็ทราบว่า มีภรรยาของนายทุยเข้ามาหาก่อนที่นายพิจิตรจะเสียชีวิตเพียงหนึ่งวัน ตร.ก็สืบจนรู้ตัวคนร้าย และชื่นชมตร.ชุดสืบทั้ง 3 หน่วย ที่นั่งดูกล้องวงจรปิดเห็นปลายปืนที่นายทุนขับรถจยย.ผ่านกล้อง ไล่เช็คกล้องไปจนถึงบ้าน จนรู้ตัวคนร้ายเสนอขอหมายศาลฯ ออกหมายจับ และจับกุมตัวได้ในที่สุด

ด้าน พ.ต.ท.อรรคพล ยี่เกาะ รอง ผกก.สส.จ.อุดรธานี เปิดเผย แนวทางการสืบสวนว่า หลังที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนฯลงพื้นที่เก็บหลักฐานทันที โดยเริ่มสืบจากจากญาติและคนใกล้ชิดในหมู่บ้านของผู้เสียชีวิต เบื้องต้นได้ข้อมูลว่าผู้เสียชีวิตนั้นเป็นบุคคลที่มีหน้าตาดี มีฐานะ จึงทำให้มีเรื่องชู้สาวเข้ามาบ่อยครั้ง และเราได้เบาะแสจากพยานว่า ก่อนวันเกิดเหตุ มีนางพรฯ ซึ่งเป็นภรรยาของผู้ก่อเหตุเดินทางมาหาผู้ตายที่บ้าน เพื่อมาขอท่อนมันสำปะหลังไปปลูก ตำรวจจึงทำการสืบสวนกระทั่งทราบว่าผู้ก่อเหตุคือสามีของนางพร โดยได้ตรวจสอบจากภาพวงจรปิดกระทั่งพบว่า ช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุผู้ก่อเหตุมีการขับรถเข้ามาในพื้นที่ และหลังเกิดเหตุมีการขับรถหลบหนีกลับบ้าน ตำรวจจึงขอหมายค้นและหมายจับ เมื่อเข้าไปตรวจค้นก็พบรถ เสื้อผ้า และพยานหลักฐานที่สำคัญคือกระสุนปืน “จากคำให้การของผู้ก่อเหตุให้การว่า เขามีความหึงหวง จึงเดินทางมาหาผู้เสียชีวิต เพื่อที่จะเคลียร์ใจกัน โดยสะพายปืนจากบ้านมาด้วย พอมาเจอกันที่บริเวณจุดเกิดเหตุได้มีการพูดคุยกันสักพักนึง ผู้ตายถืออาวุธลงมาด้วยผู้ก่อเหตุจึงตัดสินใจยิงและหลบหนีไป”

สำหรับตัวผู้ก่อเหตุกับผู้เสียชีวิตนั้นเดิมทีเป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน รู้จักกับผู้ตายมาหลายสิบปี  หลังจากผู้ก่อเหตุมีครอบครัวได้ย้ายที่อยู่อาศัยไปยังจังหวัดกาฬสินธุ์ แต่ก็ยังมีการติดต่อเรื่องงานกับผู้เสียชีวิต โดยนิสัยส่วนตัวของผู้ก่อเหตุนั้นมีนิสัยค่อนข้างขี้หึง ขณะเจ้าหน้าที่ทำการจับกุมผู้ต้องหาและทำแผนผู้ก่อเหตุได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยผู้ต้องหานั้นรู้ตัวเองอยู่แล้วว่ากระทำผิด รอแต่เพียงเจ้าหน้าที่มาจากกลุ่มเท่านั้น และการก่อเหตุครั้งนี้ผู้ต้องหาไม่ได้วางแผนแต่เป็นเหตุเฉพาะหน้า