เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 11 พ.ค. ที่กองพลทหารราบที่ 9 ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สมาพันธ์ชาวนาแห่งประเทศไทย ระบุว่าข้าวที่เก็บไว้เกิน 3 ปีถือเป็นข้าวเน่า ว่า การเสื่อมเรื่องราคา และคุณภาพ  2.71 เปอร์เซ็นต์ และเสื่อมปริมาณ 0.72 เปอร์เซ็นต์ เสียหายรวม 3.43 เปอร์เซ็นต์  ซึ่งอยู่ในรายงานหน้าที่  26  ย่อหน้าสุดท้ายของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ในรายการหน้าต่อไปจึงให้แนวทางว่า ข้าวที่เก็บไว้ในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี ให้ถือว่าค่าเสื่อมเป็นศูนย์  หากอายุไม่เกิน 2 ปี ให้ถือว่าค่าเสื่อมเป็น 2 เปอร์เซ็นต์   และหาก 3  ปีให้ถือว่าค่าเสื่อมเป็น 10 เปอร์เซ็นต์   อายุตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไปให้ค่าเสื่อมเป็น 15 เปอร์เซ็นต์  ปรากฏว่ายุคที่มีการจำนำข้าว เมื่อตรวจว่าบัญชีขาดทุนเท่าไหร่  โดยนับจากสต๊อก เมื่อปี 2546 มีข้าวล๊อตนั้น 6 ล้านตันอายุ 1 ปี  คณะกรรมการบัญชีฯ เข้าไปตัดค่าเสื่อมจาก 14,600 บาทต่อตัน เหลือ 12,030 บาทต่อตันตัดลงไป 4,000 กว่าบาท ภายในเวลา 4  เดือน   ซึ่งไม่มีที่ไหนทำ โดยที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ในยุคนั้น  ยึดถือรายงานของทีดีอาร์ไอเป็นหลักในการเอาผิด  แต่เวลามีการตัดค่าเสื่อมข้าว ผิดไปจากหลักวิชาการโดยสิ้นเชิง ไม่มีการออกมารับผิดชอบอะไรทั้งสิ้น  ดังนั้นการที่บอกว่าข้าว 3  ปีถือเป็นข้าวเน่าหรือไม่ ต้องบอกว่าผิดจากข้อเท็จจริงโดยสิ้นเชิง  ไม่มีหลักวิชาการที่ไหนบอก    และข้าวในอดีตจนถึงปัจจุบัน ที่เก็บไว้มีอายุนานมากๆเป็น 10 ปี ก็มี นี่ไม่ใช่ครั้งแรก  แต่หากจะเอาไปกินเอาไปอีกแล้วจะกินทันที ผู้ประมูลจะมีการปรับปรุงคุณภาพข้าว 

 

เมื่อถามถึง กรณีที่หลายคนบอกว่าข้าวแบบนี้กินไม่ได้นั้น นายชัย กล่าวว่า คนเรามีฐานะกำลังซื้อไม่เหมือนกัน  รสนิยมไม่เหมือนกัน  คนที่มีฐานะอาจไม่กินข้าวแบบนี้  จะเลือกกินข้าวที่ใหม่และสดกว่า  แต่คนกว่า  7  พันล้านคนในโลกนี้ที่เลือกกินข้าวแบบนี้ก็มีมาก และพ่อค้าข้าวก็มีตลาดแบบนี้อยู่ในมือ ฉะนั้นวาทกรรมที่บอกว่า ข้าว 3 ปี เป็นข้าวเน่า ขอเรียนว่าเป็นวาทกรรมที่มุ่งหวังจะด้อยค่า

 

เมื่อถามต่อว่า 10 ปีคุณค่าของข้าวยังรับประทานได้หรือไม่  นายชัย กล่าวว่า 10 ปี คุณภาพของข้าวย่อมไม่เท่ากับข้าวใหม่  1-2 ปี คุณค่าก็ยอมลด แต่ไม่ใช่ข้าวเน่าแน่นอน  ข้าวทุกเม็ดที่อยู่ในโกดังถือเป็นสมบัติของประเทศ  เป็นสมบัติของพวกเราทุกคน  ถ้ายังมีราคาอยู่ สามารถผ่านกระบวนการปรับปรุงคุณภาพ   และสามารถขายออกไปให้ตลาดที่เขาพร้อมจะบริโภค  ซึ่งมีข่าวว่าพ่อค้าที่เป็น 1 ใน 5 บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ไปร่วมพิสูจน์ที่จังหวัดสุรินทร์   ยินดีจะซื้อข้าวกิโลกรัมละ 15 บาท ซึ่งปีที่แล้วบริษัทดังกล่าว ส่งออกไป 5  แสนตัน  โดยพร้อมที่จะเหมาข้าวของเรา แต่เราทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะต้องเปิดให้ประมูล  

 

เมื่อถามว่า หากเอาไปแล้ว ไปเจือปนกับข้าวใหม่ สารก่อมะเร็งที่ตรวจพบจะมีผลต่อคนกินหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า เรื่องสารตกค้างที่เป็นข่าวออกมาในโซเชียลไม่มีการยืนยัน ว่าที่เป็นหลอดทดสอบ เป็นข้าวที่มาจากโกดังที่จังหวัดสุรินทร์หรือไม่   และการตรวจที่ไม่ชัดเจน ว่าตัวอย่างข้าวนั้นเป็นข้าวจากที่ไหน ไม่รู้ ไม่มีการแจ้ง ตรวจแล้วเจอในระดับเท่าไหร่  ที่บอกว่าพอสซิทิฟน่าจะ 20  พีพีบี  คือไม่ได้ตรวจจริง สารอะฟลาท็อปซินที่ปลอดภัยคือไม่เกิน 20  พีพีบี  ซึ่งการจะบอกว่าการรมควัน ไม่ได้รมควันทุกวัน  ที่บอกว่าข้าวล็อตนี้เก็บมา 10 ปี  รมควันไป 20 ครั้ง  เฉลี่ยเท่ากับ 6 เดือนต่อครั้ง โดยปกติการรมควันแค่เดือนเดียว สารก็ละเหยไปหมดแล้ว   สารที่นำมาใช้ก็ต้องผ่านองค์การอาหารและยาว่าสารเหล่านี้มีความปลอดภัย    ข่าวแบบนี้ทำให้ประชาชนที่รับข่าวสารเกิดความตกใจเพราะไม่รู้ข้อมูลดังกล่าวยืนยันว่าไม่จริงผิดไปจากหลักและวิชาการ แต่กลับใช้จินตนาการ

 

เมื่อถามว่า รองศาสดาจารย์ดอกเตอร์ วีรชัย พุทธวงศ์ หรืออาจารย์อ๊อด อาจารย์ภาควิชาเคมีคณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ออกมาเปิดเผยผลการตรวจสอบตัวอย่างข้าวดังกล่าวจากจังหวัดสุรินทร์พบว่ามีสารก่อมะเร็งที่อันตราย ในระดับ 20 พีพีบี รัฐบาลรับได้หรือไม่ หากตรวจรับพบจริงตามที่อาจารย์อ๊อดเปิดเผยมา นายชัย กล่าวว่า รัฐบาลรับได้ แต่ขอเพียงว่าใช่แน่หรือไม่ ไม่ใช่เอาข้าวที่อื่นแล้วมาอุปโลกว่าเป็นข้าวที่จังหวัดสุรินทร์ ที่สำคัญต้องให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เป็นผู้ตรวจ    ซึ่งอธิบดี ออกมายืนยันแล้วว่ายังไม่มีใครนำข้าวมาตรวจอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ข้าวดังกล่าวเอามาได้อย่างไร ก็ไม่ใช่อยู่ๆจะเดินไปแล้วหยิบเอาข้าวดังกล่าวออกมาได้เลย   ซึ่งต้องมีกระบวนการ และตรวจเจอเท่าไหร่ตรวจด้วยวิธีการไหน จึงอยากให้ผู้สื่อข่าวช่วยยืนยันว่าใช่ข้าวล็อตนี้หรือไม่ และในโซเชียลก็ไม่ได้บอกว่าไปตรวจสอบที่แล็บไหน  ผู้ตรวจสอบเป็นนักวิชาการที่น่าเชื่อถือหรือไม่   อยากจะขอรายงานที่เป็นทางการมายืนยันกับรัฐบาลด้วย อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่เห็นสิ่งที่อาจารย์อ๊อดตรวจสอบ  เป็นแค่การพูดต่อๆกันมา ฉะนั้นจึงอยากให้อาจารย์อ๊อดนำของจริงออกมา เปิดเผยให้เป็นเรื่องราว คลิปที่ปล่อยทางโซเชียลถือว่าคลุมเครือ ทำไมไม่ทำให้ชัดเจน

 

เมื่อถามว่า รัฐบาลได้ส่งข้าวให้หน่วยงาน ภาครัฐที่น่าเชื่อถือตรวจสอบแล้วหรือยัง นายชัย กล่าวว่า อยู่ระหว่างขั้นตอทั้งนี้ข้าวล็อตนี้เราต้องการจะเปิดประมูลตามขั้นตอนหากใครสนใจที่จะประมูลก็มาดู    และนำตัวอย่างไปปรับปรุงคุณภาพ  ว่าสามารถส่งออกหรือไปทำอะไรได้และสามารถมาขอตัวอย่างไปได้ และถ้าใครต้องการจะซื้อจริงๆ  และขอให้รัฐบาลตรวจสอบเราก็พร้อมที่จะตรวจสอบให้

 

"แปลกมากข้อมูล คนจำนวนหนึ่งที่เข้าไปในพื้นที่ นำตัวอย่างข้าวมาหุงให้ข้อมูลอย่างหนึ่ง แต่กลุ่มคนที่ไม่ได้ไป ส่วนใหญ่ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ใช้จินตนาการเอา หากข้าวล็อตนี้ไม่ได้เน่าจริงยังบริโภคได้ แม้คุณภาพจะไม่เท่าเดิมลดลงบ้าง แต่มันก็ขายได้กิโลกรัมละ 15 บาทและกินได้ ผลที่ออกมาจะเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่พิสูจน์ได้ว่า คนที่โจมตีเรื่องข้าวเน่าตลอดในประวัติศาสตร์ 10 ปีที่ผ่านมา สังคมก็คิดว่าข้าวเน่าหมด มันจะเริ่มหางโผล่ ไม่ได้เป็นอย่างที่ถูกโจมตีมาตลอด 10 ปี  ขอฝากสื่อมวลชนช่วยไปสอบว่าก่อนหน้านี้วาทกรรมข้าวเน่า  มีผลทำให้ข้าวอายุ 2-3 ปีถูกขายไปในราคาเท่าไหร่  ถ้าข้าวชุด 10 ปีขายในราคา 15 บาทต่อกิโลกรัมได้และข้าว 2-3 ปีขายได้ในราคา 8-10 บาท ต้องลองไปขุดคุ้ยกันหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้น"  นายชัยกล่าว

 

เมื่อถามว่า แสดงมองว่าเป็นการนำการเมืองมาครอบเรื่องข้าวใช่หรือไม่ นายชัย กล่าวว่า ในทางกลับกันมีคนกล่าวหาว่าเป็นการฟอกขาวให้ฝั่งรัฐบาล ตนจึงคิดว่าการพยายามออกมาด้อยค่าข้าวชุดนี้ เป็นการพยามกลบเกลื่อนลวงโลก หลอกลวงคนมา 10 ปีหรือไม่   เพราะไม่ต้องการให้ระบายข้าวชุดนี้สำเร็จหรือไม่ขัดขวางเพื่ออะไร เพราะหลอกมาตลอดหรือเปล่า คนที่เคยร่วมอยู่ในขบวนการนั้นอาจจะกลัวความจริงปรากฏ ทั้งนี้เนื่องจากสังคมอยากรู้ความจริง จะมีความขอความร่วมมือกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขมาตรวจสอบที่ผ่านมา ยืนยันว่า ข้าวที่ผ่านมา 25 ล้านตัน 250 ล้านกระสอบ   ถูกขายไปแล้วมากกว่า 240 ล้านกระสอบ    ไม่เคยมีปัญหาแม้แต่ครั้งเดียว  แล้วที่ผ่านมาข้าวเกิน 10 ปีก็มีคนซื้อ ฉะนั้นอย่าพูดเลยว่าเป็นข้าวเน่า อย่างไรก็ตามไม่ได้คิดจะฟ้องนักวิชาการหรือสื่อที่ออกมาทำให้เรื่องข้าว 10 ปีของรัฐบาลเกิดความเสียหาย   

 

“ไม่กลัวเพราะพูดความจริง  รัฐบาลแถลงตามข้อเท็จจริง  แต่ก็มีคนมโนสร้างเรื่องเพื่อกันไม่ให้ระบายข้าวนี้ออกไปและมีออฟชั่นว่า สร้างเงื่อนไขข้าวเน่าขายให้คนบริโภคเห็นแก่เงินหรือเปล่า มีเชื้อราสร้างข้อโต้แย้งทุกอย่าง ซึ่งอาจเป็นพฤติกรรมที่พยายามกลบเกลื่อนคำโกหก  คำโกงมาตลอด 10 ปี และเห็นว่าเป็นการสร้างวาทกรรมทำลายกันในทางการเมือง และเปิดช่องให้พรรคพวกได้ข้าวมาช้อนซื้อข้าวที่ดีอยู่ในราคาที่ต่ำกว่าความเป็นจริง เพื่อหาประโยชน์หรือไม่ ขอสื่อช่วยขุดคุ้ยตรวจสอบตรงนี้ด้วย” นายชัย กล่าว