ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ(บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.อภิชน เจริญผล, พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์, พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร รอง ผบก.ปอศ., ว่าที่ พ.ต.อ.ธีรภาส ยั่งยืน ผกก.3 บก.ปอศ., พ.ต.ท.นนทพัทธ์ ยอดแก้ว, พ.ต.ท.ภาสกร นภาโชติ, พ.ต.ท.ณธัชพงศ์ สินสิริยานนท์ และ พ.ต.ท.ชวลิต น้ำใจสัตย์ รอง ผกก.3 บก.ปอศ.
​เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ท.วรพจน์ ลลิตจิรกุล สว. กก.3 บก.ปอศ., ร.ต.อ.ศิการ ไม้คู่
รอง สว.(ป.) กก.3 บก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ.
 
​ร่วมกันจับกุม นายสมาน อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ 51/2566 ลง 3 ก.พ.66 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริต หรือหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” ​สถานที่จับกุม บริเวณหน้าโกดัง ต.สำราญ อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น


​พฤติการณ์ เมื่อปี 2565 ผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสภ. บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ว่าถูกพระสมาน (ในขณะนั้น) หลอกขายลำโพงผ่านทาง Facebook เมื่อตนสนใจติดต่อไปสั่งซื้อ กลับไม่ได้สินค้าแต่อย่างใด ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานกระทั่งออกหมายจับนายสมาน ฯ ผู้ต้องหาคนดังกล่าวไว้
   ​

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยบก.ปอศ.ได้ดำเนินการระดมกวาดล้างอาชญากรรม ในรูปแบบต่างๆความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทั่วไป และบุคคลตามหมายจับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. ได้สืบสวนหาบุคคลที่ มีพฤติการณ์เกี่ยวกับการหลอกลวงประชาชน โดยได้รับแจ้งว่าพบ นายสมานฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัด สมุทรสาคร ได้หลบหนีมาอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง ในจังหวัดขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. จึงได้เข้าจับกุม นายสมาน ฯ ไว้ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านแพ้ว ดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการสอบสวนเบื้องต้น พบว่า ผู้ต้องหาเป็นอดีตพระที่มีการบวชหลายพรรษา และมีความเดือดร้อนทางการเงินจึงมีการใช้ช่องทางออนไลน์ทางแอปพลิเคชันเฟซบุ๊ก หลอกหาเหยื่อผู้เสียหายที่ต้องการซื้อสินค้าในราคาถูก เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อและเข้ามาติดต่อพูดคุยผ่านทาง เฟซบุ๊ก ก่อนโอนเงินเพื่อซื้อ สินค้าเข้าบัญชีของคนร้ายหรืออดีตพระ ก็จะไม่ได้สินค้าไปแต่อย่างใด

​สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบี้องต้น ผู้ต้องหาให้การยอมรับตามข้อกล่าวหา


เตือนภัย ปัจจุบันผู้คนทั่วไปนิยมหาซื้อสินค้าต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ เนื่องจากสะดวกสบายไม่ยุ่งยาก ราคาถูกและสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางให้กลุ่มมิจฉาชีพนำมาฉวยโอกาสหลอกลวง หากเราหลงเชื่อก็จะถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินเพื่อซื้อสินค้าแต่ไมได้รับสินค้าตามที่ทำการโอนเงินไป ดังนั้น หากต้องการหาซื้อสินค้าต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ ควรศึกษาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ และผู้ค้าที่ทำการขายสินค้า เพิ่มเติมไม่ควรหลงเชื่อการโฆษณาขายสินค้าที่มีราคาถูกว่าตามท้องตลาดเกินความเป็นจริง