บมจ.ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ (I2) เปิดผลการดำเนินงานไตรมาส 1/67 รายได้แตะ 348 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% กำไรสุทธิ 19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน อานิสงส์ทยอยรับรู้รายได้ส่งมอบงานภาครัฐขนาดใหญ่หลายโครงการ จ่อรับรู้รายได้ในปีนี้กว่า 1 พันล้านบาท ฟากบิ๊กบอส “อธิพร ลิ่มเจริญ” ลั่น! พร้อมเดินหน้าประมูลงานใหม่มูลค่ากว่า 6.4 พันล้านบาท หนุนรายได้ปี 67 โต 20% นิวไฮต่อเนื่อง
นายอธิพร ลิ่มเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด (มหาชน) (I2) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2567 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567) มีรายได้รวม 348 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48 ล้านบาท หรือ 15% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 300 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 17 ล้านบาท
โดยบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการจำนวน 343.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.65 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14.95 % เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมาจากรายได้ธุรกิจโซลูชั่นระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านงานเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Infrastructure) จำนวน 183.12 ล้านบาท เนื่องจากทยอยส่งมอบงานโครงการขนาดใหญ่ เช่น โครงการซื้อพร้อมติดตั้งระบบ IP Core ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) , โครงการระบบบริการสารสนเทศ และงานโครงการอื่นๆ
ขณะที่รายได้จากธุรกิจโซลูชั่นด้านการจัดการและประหยัดพลังงาน (Energy) อยู่ที่ 99.38 ล้านบาท จากการได้รับงานโครงการซื้อขายพร้อมติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System : BESS) โครงการดังกล่าวมีมูลค่ารวม 1,500 ล้านบาท และทยอยรับรู้รายได้บางส่วนภายในปีนี้ ส่งผลให้รายได้และกำไรเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้
“ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2567 ยังคงเติบโตตามแผนที่วางไว้ ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนมาจากการทยอยรับรู้รายได้จากการส่งมอบงานโครงการขนาดใหญ่ ในธุรกิจโซลูชั่นระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านงานเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Infrastructure) และธุรกิจโซลูชั่นด้านการจัดการและประหยัดพลังงาน (Energy) อีกทั้งมีแผนเข้าร่วมประมูลงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจอย่างต่อเนื่อง” นายอธิพรกล่าว
ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทฯมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) จำนวน 1,800 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 1,000 ล้านบาท และมีแผนร่วมประมูลงานใหม่มูลค่าประมาณ 6,455 ล้านบาท ผลักดันผลการดำเนินงานในช่วง 1-2 ปีข้างหน้าเติบโตก้าวกระโดด ซึ่งทำให้เชื่อมั่นว่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานในปี 2567 มีรายได้แตะ 1,500 ล้านบาท เติบโต 20% ตามเป้าหมายที่วางไว้
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับด้าน ESG การใช้พลังงานหมุนเวียน การประหยัดพลังงาน การลดก๊าซเรือนกระจก รวมไปถึงการสรรหาลูกค้าใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้อง และมีแผนลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับด้าน ESG และด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) สอดคล้องเมกะเทรนด์