จากกรณี เกิดเหตุเพลิงไหม้ ถังบรรจุ สาร Pyrolysis gasoline (แก๊สโซลีน) บริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด  ถนนไอ-แปด ทางเรือมาบตาพุด ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง ไฟลุกไหม้ร่วม 8 ชั่วโมง จึงสกัดเพลิงไว้ได้ ส่งผลให้ มีผู้เสียชีวิต 1 รายทบาดเจ็บ 4 ราย นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปูนใหญ่(SCC) ได้กล่าวขณะร่วมแถลงข่าวกับนายกัณชัย เทพวรชัย รอง ผวจ.ระยอง และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต และ บาดเจ็บ พร้อมเยียวยาอย่างเต็มที่ แจงเหตุเกิดขณะ 5 พนักงาน ขึ้นตรวจถัง เห็นกลุ่มควันลอยขึ้นมา ก่อนที่ตะเกิดระเบิดขึ้น จนตกลงผู้เสียชีวิตตกลง และ บาดเจ็บ สำหรับถังสารเคมีได้ถูกไฟไหม้ไป 1 ถัง ส่วนถีงที่2ลุกลามไปบางส่วน สำหรับถังที่เกิดไฟไหม้ เป็นถังบรรจุ สารโซลีน ขนาดความสูง 18 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 30 เมตร บรรจุได้ 2,500 ลบ.เมตร ส่วนถังที่2 มีขนาดเท่ากันแต่เป็นสารคนละประเภทกัน ส่วนผู้อพยพ กว่า 400 คน ได้เดินทางกลับกันหมดแล้วหลังควบคุมเพลิงไว้ได้ ตามที่เสนอไป

เกี่ยวกับความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 พ.ค.67 นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เดินทางไปรับฟังรายงานชี้แจงเกี่ยวกับเหตุเพลิงไหม้ ที่ บริษัท มาบตาพุดแทงค์ เทอร์มินัล จำกัด โดยมีนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผวจ.ระยอง ให้การต้อนรับ

ต่อมา นางสาวพิมพ์ภัทรา รมว.อุตสาหกรรม ได้เดินทางมาที่ สำนักงานการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด โดยมีนายสุรินทร์ ศิลป์รัตน์ ประธานอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านจังหวัดระยองพร้อมด้วยสมาชิก เข้ายื่นหนังสือ เพืีอให้มีการตรวจสอบสาเหตุของกสรเกิดเพลิงไหม้อย่างตรงไปตรงมา เพราะที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุมาแล้วครั้งหนึ่ง จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง3คน เมื่อปี พ.ศ.2564  จึงต้องการให้มีการหามาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก และ เรื่องการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยเร็วหลังรับเรื่อง นางสาวพิมพ์ภัทราได้เข้าร่วมประชุมกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อรับฟังคำชี้แจง ภายในห้องประชุม กนอ.มาบตาพุด

นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผวจ.ระยอง ได้กล่าวว่า หลังจากการตรวจสอบจนแน่ชัดว่าเพลิงได้ดับแล้ว ทางจังหวัดจึงประกาศยกเลิกพื้นที่ประสบเหตุสาธารณภัย
ในชุมชน หนองแฟบ ตา-กวน ,อ่าวประดู่ แต่ก็ยังมีเจ้าหน้าที่ติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิด เพื่อคอยช่วยเหลือ

นางสาวพิมพ์ภัทรา รมว.อุตสาหกรรม ได้กล่าวหลังประชุมว่า ก่อนอื่นต้องขอโทษประชาชนรายรอบและชาวระยอง และ ขอบคุณทุกภาคส่วนที่เข้ามาช่วยเหลือ ที่สามารถทำได้ตามมาตรการที่วางไว้ คือการคืนพื้นที่ได้เร็วที่สุด เรื่องที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของประชาชนที่ประสบภัย รวมถึงผู้เสียชีวิต และ ผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทางบริษัท พร้อมเยียวยา และ ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ซึ่งจะมี กนอ.และ จังหวัดพร้อมช่วยเหลือ

ส่วนเรื่องของวิธีการจัดการ คงจะต้องใช้เวลา ว่าเกิดจากสาเหตุใด จึงต้องให้เวลาในการทำงาน เพื่อให้ผลที่ชัดเจน การเกิดเหตุซ้ำซาก ต้องมีการเข้มงวดกับมาตรการต่อไป จากการตรวจสอบพื้นที่หลังเพลิงสงบ ไฟได้ไหม้ถังสารโซลีนไปเพียง1ถังเท่านั้น

ทีมงาน NPC ยังคงมีเจ้าหน้าที่แสตนบายอยู่ ทั้งการใช้โดรนตรวจจับความร้อน และ มีการฉีดน้ำหล่อเย็นไว้ตลอด 

นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปูนใหญ่ (SCC) ได้กล่าวถึง กรณี ขณะเกิดเหตุ ได้มีพนักงานจำนวน 4 คน ขึ้นไปตรวจระดับของสารภายในถัง ไม่ใช่การขึ้นไปปิดวาล์วถังตามที่มีกระแสข่าว แต่ยังไงทางเราก็ขอรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น และ เสียใจ ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ คงจะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ส่วนเรื่องประกันอัคคีภัยได้ทำไว้หลายบริษัท ซึ่งประกันอัคคีภัยต้องมาตรวจสอบที่เกิดเหตุก่อน ส่วนเรื่องเงินเยียวยาบริษัทบริษัทก็จะช่วยเหลือเต็มที่