วันที่ 10 พ.ค.67 ที่บริเวณสระบ้านหนองแล้ง ต.หนองไผ่ล้อม อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ ได้มีการจัดประเพณีบุญบั้งไฟโดยมีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าตลอดจนประชาชน จากพื้นที่ต่างๆได้เดินทางมาร่วมชมงานกันเป็นจำนวนมากซึ่งการจัดบุญประเพณีในครั้งนี้ทาง สภ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบคุมเข้มพร้อมประกาศห้ามเล่นการพนันอีกด้วย

 นายสมบัติ วิวาสุข นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสำโรงทาบกล่าว รายงานการจัดงานบุญบั้งไฟในครั้งนี้ว่า ทางเทศบาลตำบลสำโรงทาบ ได้ทำการเปิดโครงการจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟเทศบาลตำบลสำโรงทาบ ซึ่งทางเทศบาลตำบลสำโรงทาบร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ได้ร่วมกันจัดขึ้น วัตถุประสงค์ของการจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟเทศบาลตำบลสำโรงทาบเป็นการสืบสานประเพณีวัฒนธรรมตามความเชื่อของประชาชนในท้องถิ่นเกี่ยวกับตำนานการขอฟ้าขอฝนจากพญาแถนซึ่งผูกพันกับการดำเนินชีวิตการประกอบอาชีพของประชาชน และงานประเพณีบุญบั้งไฟยังแสดงออกถึงการเข้าร่วมกิจกรรมที่เสริมสร้างความรักความสามัคคีความผูกพันของคนในชุมชนได้เป็นอย่างดีนอกจากนี้ยังได้ร่วมกันทำบุญเพื่อหาทุนสมทบสร้างทำนุบำรุงวัดและยังเป็นการร่วมกันอนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมประเพณีบุญบั้งไฟซึ่งเป็นวัฒนธรรมท้องถิ่นอันดีงามให้ลูกหลานได้ถือปฏิบัติสืบทอดกันต่อไป

อย่างไรก็ตามในระหว่างการกล่าวเปิดงานประเพณีบุญบั้งไฟจบลง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.สำโรงทาบ ทั้งในและนอกเครื่องแบบได้ลงมากำชับให้ทางคณะกรรมการจัดงานบุญประเพณีบั้งไฟในครั้งนี้ ห้ามมีการเล่นพนันบั้งไฟขึ้นสูง ใช้เวลาบนท้องฟ้ากี่นาที เนื่องจากการสอบถามชาวบ้านและผู้ที่เข้ามาร่วมงานว่าได้มีบั้งไฟต่างถิ่นนำเข้ามาจุดเพื่อหวังที่จะเล่นการพนันทำให้บรรยากาศของการจัดงานต่างเงียบเหงาและบรรดาพ่อค้าแม่ขายต่างไม่พอใจ ที่ทางเจ้าภาพตลอดจนคณะผู้จัดงานไม่ได้มีการวางแผนในการจัดงานให้ออกมาได้ดเหมือนกับที่จังหวัดใกล้เคียงเขาจัดและในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์  ที่การจัดมาตามจารีตประเพณี ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ได้มีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าบางคนถึงกับถอดใจได้ขนสิ่งของกลับบ้านบางคนถึงกับไปขอบัตร100บาทคืน ที่ชาวบ้านนำมาปักโบว์ก่อนที่จะเดินทางเข้ามาชมบั้งไฟอีกด้วย

ทางด้านนายสมบัติ วิวาสุข นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสำโรงทาบ ได้จับไมค์ประกาศออกมากลางสนามว่า ถ้าหากว่าบั้งไฟของทางเทศบาลตำบลสำโรงทาบจัดไม่ได้อำเภออื่นและตำบลอื่นก็จัดไม่ได้เหมือนกันทำให้บรรยากาศในพื้นที่บริเวณจุดบั้งไฟเงียบเหงาและบรรดาพ่อค้าแม่ค้า ก็พากันขนของกลับบ้านพร้อมกับบ่นว่าไม่น่ามาหลอกกันเลย