วันที่ 10 พ.ค.67 นายสมกิตติ์ กิตติโศภิษฐ์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงปัตตานี พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงปัตตานีนำสื่อมวลชนลงพื้นที่เส้นทางสายใหม่ปัตตานี สาย 43 รอยต่อระหว่างบ้านปูยุด อ.เมือง -ลิปะสะโง อ.หนองจิก ที่เพิ่งสร้างเสร็จเพียง 3 เดือนหลังพบว่าถูกโจรมือดีขุดตัดขโมยสายไฟที่ติดตั้งไฟริมทางส่องสว้างในยามค่ำคืน ถูกขโมยตลอดทั้งเส้นทาง รวมแล้วทั้งสิ้น 14 จุด ใน จ.ปัตตานี ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ส่งผลให้ประชาชนร้องเรียนเข้ามาเป็นจำนวนมากว่า ถนนเส้นใหม่ดังกล่าวมืดและมองไม่เห็นเส้นทาง เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เบื้องต้นความเสียหาย กว่า 1 ล้านกว่าบาท
ซึ่งทางแขวงทางหลวงปัตตานี ได้แก้ปัญหาชั่วคราว โดยการซ่อมแซ่มบางจุดเพื่อให้ไฟกลับมาใช้ใหม่ แต่ก็มีความกังวลว่าโจรจะกลับมาขโมยอีก แม้แขวงทางหลวงปัตตานี ได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่มีการดำเนินการจัดการกับคนร้ายได้สักคน วอนเจ้าหน้าที่เร่งหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี เพราะถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป ความเสียหายก็จะยิ่งทวีคูณไปมากกว่านี้
สำหรับพฤติการของคนร้าย โดยมีการตัดสายไฟในเวลากลางวัน ตรงจุดที่ติดตั้งเบรกเกอร์ไฟ เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวไม่มีกระแสไฟ และจะออกมาขโมยสายไฟในเวลากลางดึก โดยใช้รถยนต์ดึงสายไฟที่อยู่ในท่อสีดำออกมา
เช่นเดียวกับสายไฟที่อยู่ใต้สะพานตามจุดต่างๆก็ถูกคนร้ายขโมยไป นอกจากนี้ยังพบว่าบริเวณเกาะกลางถนน คนร้ายได้ขุดและนำอิฐบล็อกที่ปกปิดสายไฟไว้ คนร้ายได้นำออก ก่อนดึงสายไฟ โดยบางจุดที่คนร้ายขโมยระยะห่างกับเสาไฟอยู่ประมาน 10 ช่วง แต่ละช่วงมีสายไฟประมาน 35 เมตร ซึ่งคนร้ายได้ขโมยไปทั้งหมด 350 เมตร ยังไม่รวมจุดอื่นที่คนร้ายขโมยไป แม้ว่าแขวงทางหลวงปัตตานีได้ใส่เหล็กเพื่อป้องกันคนร้ายมาขโมย แต่คนร้ายก็ยังสามารถหาวิธีขโมยไปได้ จนทางแขวงทางหลวงโอดครวญไปว่า “ถ้าไม่มีเงินก็มาขอความอนุเคราะห์กันตรง ๆ ดีกว่าไม่ใช่เที่ยวไปขโมยสายไฟของหลวง คุณขโมยนำไปขายก็ได้ไม่กี่บาท อีกทั้งยังสร้างความเสียหายมหาศาล”
นายสมกิตติ์ กิตติโศภิษฐ์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงปัตตานี เปิดเผยว่า คนร้ายอาศัยช่วงเวลากลางวันมาตัดสายไฟ เนื่องจากกลางวันไม่มีกระแสไฟ หลังจากนั้นออกตระเวนกลางดึกมาตัดเอาสายไฟ ซึ่งคนร้ายที่มาขโมยก็ไม่เคยจับได้สักที เมื่อถูกขโมยแต่ละครั้งเราก็ได้ประเมินความเสียหายแล้วก็ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนถึงทุกวันนี้ก็ยังจับไม่ได้เลย สำหรับปีงบประมานที่ผ่านมาจากการรวบรวมข้อมูลความเสียหาย ก็มีทั้งหมด 14 จุด ทั่วจังหวัดปัตตานีเฉพาะแขวงทางหลวง ยังไม่รวมกับหน่วยงานอื่นๆ ทั้งทางหลวงชนบท และโยธา ถ้าสะสมไปเรื่อยๆก็ยิ่งเป็นปัญหาของประชาชนที่สันจรไปมา ไฟที่ส่องสว่างดับลงก็มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยอีก ซึ่งทั้งขณะนี้มีความเสียหายทั้งหมดหลายล้านบาท สำหรับการแก้ปัญหาเบื้องต้น เราก็มีการติดตั้งสายไฟใหม่เป็นเพียงชั่วคราว เพื่อให้ไฟสามารถกลับมาใช้ได้ใหม่ แต่บางครั้งก็มีความกังวล พอติดตั่งชั่วคราวก็ยังมีมาขโมยอีก จึงขอฝากให้ประชาชนทุกคนช่วยกันเป็นหูเป็นตา สำหรับความคืบหน้าจับคนร้ายนั้นเราก็ได้สอบถามเจ้าหน้าที่มาตลอดแต่ก็ยังไม่สามารถหาตัวผู้กระทำความผิดได้
ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงปัตตานี เผยตอนท้ายว่า ถ้าคุณขโมยไปขายก็ได้เงินเพียงไม่กีบาท แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประชาชนนั้นมันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นประชาชนที่ใช้ถนน หรือประชาชนที่อาศัยอยู่ 2ข้างทาง ต่างได้รับความเดือดร้อน และอุบัติเหตุก็อาจจะเกิดขึ้นได้ง่าย ถ้ามีการขโมยแบบนี้ต่อไปปัญหาก็ยังไม่จบ