เมื่อวันที่ 10 พ.ค.67 น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชระโรจน์ สส. แบบบัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสความเห็นของประชาชน ต่อมาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาล
น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า ตั้งแต่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นำจัดตั้งรัฐบาลเมื่อ 10 เดือนที่แล้วจนผ่านพ้นสุญญากาศหลังการเลือกตั้ง ปัญหายาเสพติดเป็นหนึ่งในปัญหาเร่งด่วนที่สุด ที่รัฐบาลไม่เพียงประกาศเป็นวาระแห่งชาติ แต่ยังบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนิน 3 มาตรการสำคัญอย่างแข็งขัน ได้แก่ การปิดชายแดน (Seal Border) สกัดกั้นยาเสพติดไม่ให้ลักลอบนำเข้าประเทศ การยึดทรัพย์ผู้กระทำความผิด และการเผาทำลายยาเสพติดของกลางเพื่อป้องกันการนำออกจำหน่ายหมุนเวียน
น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 67 นายกรัฐมนตรี ยังประชุมการแก้ไขปัญหายาเสพติดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งได้มอบนโยบายเป็นความคืบหน้าล่าสุดอีกว่า ให้แก้ไขกฎกระทรวงฯ ปรับลดปริมาณที่ให้สันนิษฐานว่ามียาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อเสพลงเหลือ 1 เม็ด ตลอดจนให้นำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดประเภท 5 โดยเร่งออกกฎกระทรวงฯ อนุญาตให้ใช้กัญชาทางการแพทย์และสุขภาพเท่านั้น และที่สำคัญคือ ให้ยกระดับประสิทธิภาพงานบําบัดยาเสพติด ทั้งในศูนย์บำบัด เรือนจํา และระบบคุมประพฤติ รวมถึงให้ใช้ค่ายทหารหนึ่งแห่งเป็นต้นแบบนำร่องทดลองบำบัด ก่อนนำผลมาพิจารณาการใช้ค่ายทหาร หรือฝ่ายปกครองตามพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศต่อไป
“ในฐานะ สส. บัญชีรายชื่อ ที่ลงพื้นที่แต่ละจังหวัด เพื่อประสานกับ สส. เขต พบว่าหนึ่งปัญหาที่ประชาชนกังวลมากที่สุดคือ ยาเสพติด โดยได้รับเสียงสะท้อนที่ดีจำนวนมาก ต่อทิศทางของรัฐบาลที่ประกาศให้ยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ดิฉันจึงขอเป็นหนึ่งเสียงร่วมกับเพื่อน สส. พรรคเพื่อไทย แสดงความขอบคุณ และส่งความหวังต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการตามข้อสั่งการนายกฯ เศรษฐา คืบหน้าภายใน 90 วัน เพื่อคืนอนาคตที่ดีให้ลูกหลานพี่น้องประชาชนทุกคน” น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าว