ยายวัย 68 ชาวบุรีรัมย์ น้ำตาคลอวอนหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือหลายชาย   ถูกหลอกไปทำงานกัมพูชา  หวั่นตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือขบวนการพนันออนไลน์ผิดกฎหมาย  และได้รับอันตราย   อยากให้ช่วยพาหลานกลับบ้าน   

       

(9 พ.ค.67)  นางทองใส    ศรีจันทร์  อายุ 68 ปี  ชาวตำบลหนองแวง  อ.ละหานทราย  จ.บุรีรัมย์  ได้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือผ่านสื่อ  ให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ นายวงศธร   หรือเต้ อายุ 20 ปี หลานชายของตัวเอง  เพราะเชื่อว่าหลานถูกหลอกไปทำงานที่ประเทศกัมพูชา  แล้วบังคับให้ทำงานที่ไม่ถูกกฎหมาย  เช่น  การพนันออนไลน์ หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์   แล้วถูกกักตัวเอาไว้ไม่สามารถเดินทางกลับมาบ้านได้    โดยให้ลูกสาวติดต่อทางไลน์ล่าสุดบอกอยู่ที่ปอยเปต   แต่ไม่รู้ว่าใครพาไปหรือไปอยู่กับใคร  จึงเกรงว่าหลานจะไม่ปลอดภัย   เพราะที่ผ่านมาหลานไม่เคยเดินทางไปกัมพูชาเลย จึงอยากวิงวอนให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง   ช่วยเหลือพาหลานชายกลับบ้านด้วย   

       

ด้านนางทองใส  ยังพูดทั้งน้ำตาคลอว่า    พ่อกับแม่ของหลานแยกทางกันตั้งแต่เด็ก   ตนก็เลี้ยงหลานมาตลอดรักหลานมาก   พอเขาโตก็ไปทำงานที่กรุงเทพฯ กับเพื่อนในหมู่บ้าน   กระทั่งเมื่อประมาณวันที่ 3 พ.ค.67  ที่ผ่านมา   เพื่อนในหมู่บ้านที่ไปทำงานด้วยกันที่กรุงเทพฯ    บอกว่าหลานของตนกับเพื่อนอีกคนไปทำงานที่กัมพูชาแล้ว   แต่ไม่รู้ว่าไปกับใครหรือไปทำงานอะไร   จึงเป็นห่วงหลานมากกลัวจะถูกหลอกไปทำงานผิดกฎหมาย   เป็นห่วงหลานมากอยากให้ช่วยพาหลานกลับมาบ้าน 

     

  ด้านนางสาวพรรณิภา   สารัมย์   อายุ 42 ปี   อาของนายเต้   บอกว่า   ก่อนหน้านี้หลานไปทำงานเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าที่เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ กับเพื่อนในหมู่บ้าน 3 คน  แต่เมื่อประมาณวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา   หลานโทรศัพท์มาบอกว่ามีคนจะพาไปทำงานด้วยแต่ไม่ได้อยู่ที่กรุงเทพฯแล้ว   ด้วยความเป็นห่วงยายก็พยายามโทรหาหลาน กระทั่งหลานตอบกลับมาว่าตอนนี้อยู่ปอยเปตแล้ว   ตนจึงไลน์ไปสอบถามแต่หลานก็ตอบกลับมาแค่สั้นๆ  เหมือนกับว่ามีใครคอยดูอยู่   ก็ถามอีกว่าแล้วจะกลับบ้านยังไง  เขาก็ตอบแค่ว่าอยากกลับอยู่แล้วก็ไม่ตอบอะไรอีก   ส่วนการเปิดบัญชีตนเองก็ไม่ทราบว่าเป็นยังไง  อาจจะถูกหลอกให้เปิดเป็นบัญชีม้าหรือไม่  อันนี้ก็ยังไม่ทราบ ก็เป็นห่วงหลานกลัวถูกหลอกไปทำงานที่ผิดกฎหมาย แล้วถูกบังคับหรือกักขังไว้อยากจะพูดหรือสื่อสารก็สื่อสารไม่ได้  อยากจะกลับบ้านก็กลับไม่ได้  

   

จึงอยากให้ทางหน่วยงานภาครัฐ  หรือกระทรวงการต่างประเทศช่วยเหลือพาหลานชายกลับบ้านด้วย  กลัวจะได้รับอันตราย