“ภูมิธรรม” ขอจบดราม่าข้าว 10 ปี พูด 3 วันแล้ว ย้ำข้าวคุณภาพยังดี กินได้ คาดข้าวโกดังสุดท้ายจะเปิดประมูลต้นเดือน มิ.ย. ส่งออกไปแอฟริกาที่มีความต้องการ 1.5 หมื่นตัน 


เมื่อวันที่ 9 พ.ค.2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่มีนักวิชาการออกมาแสดงความเป็นห่วงข้าวหอมมะลิในโครงการรับนำจำข้าว    อาจมีสารปนเปื้อนทำให้เกิดมะเร็งได้   ว่าตนได้พิสูจน์ให้เห็นในขั้นตอนแรก  ว่าสภาพกายภาพข้าวยังอยู่ดี   แม้สีจะเปลี่ยนไปบ้าง   คุณภาพไม่เหมือนข้าวใหม่ และสามารถรับประทานได้    จึงขออย่าดรามาเรื่องดังกล่าว    เพราะเป็นเพียงการสรุปสภาพทางกายภาพของข้าว   และหากใครต้องการจะตรวจสอบ ก็สามารถมาตรวจสอบได้ และในการตรวจพิสูจน์ดังกล่าว ก็มีทั้งสื่อมวลชน ข้าราชการ รวมถึงเซอเวย์เยอร์ที่เป็นผู้ลงทะเบียนตรวจข้าวไปต่างประเทศ   ที่ต่างชาติยอมรับตามมาตรฐาน     รวมถึงผู้ส่งออก และโรงสีต่าง ๆ ที่มั่นใจว่า สามารถทำได้ และพร้อมประมูล    ซึ่งในกระบวนการส่งออก เอกชนมีขั้นตอนในการปรับปรุงข้าว 

เมื่อถามว่าจำเป็นจะต้องให้สาธารณสุข หรือนักวิชาการใด ๆ ตรวจสอบเพิ่มเติมหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม    กล่าวว่า ให้เป็นไปตามกระบวนการ เพราะการวิจารณ์เพียงอย่างเดียวไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ กับข้าวกว่า 150,000 กระสอบ ยืนยันว่า ตนเองไม่ได้ท้าทายใคร  เพียงแต่ต้องการพิสูจน์ที่ตนควรจะทำ เพื่อเตรียมเปิดประมูลให้ได้ราคาในช่วงต้นเดือนมิ.ย.นี้ และหากยังดรามากันไม่จบก็กังวลว่าจะไม่สามารถประมูลได้ 

“ดังนั้นขอให้เชื่อว่า ประเทศที่รับซื้อ หรือผู้ค้า-ผู้ส่งออก เจ้าของโรงสี ไม่นำข้าวเน่าไปขายแน่นอน และหากจะขายต้องมั่นใจไม่เช่นนั้นขายไปแล้วก็จะไม่มีใครมาซื้ออีก และประเทศที่รับซื้อ ก็จะต้องตรวจสอบรับอย่างเต็มที่ จึงขออย่าดรามาไปมากกว่านี้ ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ผมก็เคารพ เพราะผมได้ทำตามขั้นตอนกระบวนการแรกเสร็จสิ้นแล้ว”นายภูมิธรรม กล่าว

เมื่อถามว่าข้าวดังกล่าวจะประมูลเพื่อการส่งออกเพียงอย่างเดียว หรือประมูลเพื่อจำหน่ายบริโภคในประเทศ    นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่งออกอย่างเดียวก็ไม่พอแล้ว โดยเฉพาะในตลาดแอฟริกา 15,000 ตัน จึงจะต้องเป็นการประมูลยกกองทีเดียว ไม่แบ่งขายในประเทศหรือนอกประเทศ 

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า กรณีที่เคยมีผู้ชนะการประมูลข้าวดังกล่าวไปแล้ว แต่ไม่มานำข้าวออกไปว่าเกิดขึ้นจริง 4-5 ครั้งแล้ว เพราะราคาข้าวในครั้งนี้สูงมาก เมื่อประมูลแล้วราคากลับตก หากรับไปก็จะต้องขาดทุน    ดังนั้น จึงเกิดการฟ้องร้องกัน  โดยองค์การคลังสินค้า ยังอยู่ระหว่างการฟ้องร้อง จึงยืนยันว่า ที่ผู้ประมูลทิ้งข้าว   ไม่ใช่เพราะข้าวเน่า    แต่เพราะราคาข้าวในปีดังกล่าวตก  และการประมูลในครั้งนี้ ตนก็จะเขียนกฎเกณฑ์ให้ชัดเจนให้ผู้ที่ให้ราคาสูงสุด 5 อันดับแรก   มีสิทธิชนะการประมูลข้าว เผื่อกรณีที่มีผู้สละสิทธิ์ และสามารถไปตรวจสอบคุณภาพข้าวก่อนได้    ซึ่งข้าวจากโครงการรับจำนำข้าวนี้ ไม่มีค้างข้างสต๊อกในโครงการรับจำนำข้าวแล้ว    และโกดังดังกล่าวที่ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ ก็เป็นเพียง 2 โกดังสุดท้ายที่เหลือ