นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน และคณะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การรับซื้อทะลายปาล์มน้ำมัน และอัตราการสกัดน้ำมันปาล์ม ของบริษัท เอเชี่ยนน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ หลังพบปัญหาราคาผลปาล์มของเกษตรกรชาวสวนปาล์ม มีราคาตกต่ำ อย่างต่อเนื่อง  และน้องจากนั้นยัง มีนางวิภารัตน์ ภูเก้าล้วน พาณิชย์จังหวัดกระบี่ นายพันศักดิ์ จิตรรัตน์ ประธานสภาเกษตรกร จ.กระบี่ และคณะผู้บริหาร บ.เอเชียนน้ำมันปาล์มฯ ร่วมให้ข้อมูลกับคณะที่เดินทางมา

นายวัฒนศักย์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า หลังทราบว่าราคาผลปาล์มน้ำมัน มีราคาตกต่ำอย่างต่อเนื่อง ได้นำคณะลงติดตามสถานการณ์การรับซื้อทะลายปาล์มน้ำมัน และอัตราการสกัดน้ำมันปาล์ม ของ บริษัทที่รับซื้อผลปาล์มและสกัดน้ำมันปาล์ม ทั้งในพื้นที่ จ.สุราษฏร์ธานี และ จ.กระบี่ ซึ่งมีพื้นที่ปลูกปาล์ม อันดับต้นของประเทศ เบื้องต้นพบว่าปัจจัยที่ทำให้ราคาผลปาล์มตกต่ำ มาจากสภาพอากาศที่แล้งจัด ส่งผลให้เปอร์เซ็นต์น้ำมันที่สกัดได้ มีเปอร์เซ็นต์ต่ำ ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 18 เปอร์เซ็นต์ จึงทำให้โรงสกัดน้ำมันปาล์ม ซื้อผลปาล์มของเกษตรกร ถูกตามไปด้วย อย่างไรก็ตามคาดว่าหลังจากมีฝนตกลงมาในช่วงนี้ มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ก็จะทำให้การสกัดน้ำมันปาล์มเปอร์เซ็นเพิ่มขึ้น ซึ่งก็จะมีผลต่อการรับซื้อผลปาล์มของเกษตรกรสูงตามขึ้นด้วย เนื่องจากการรับซื้อผลปาล์มน้ำมันจะสูงหรือต่ำคิดเฉลี่ยตามค่าเปอร์เซ็นต์ของน้ำมันปาล์มที่สกัดได้ของโรงงานฯ

นายวัฒนศักย์  ยังบอกอีกว่า  สิ่งที่จะทำให้ราคาผลปาล์มดีขึ้นด้วยนั้นส่วนหนึ่งต้องมาจากเกษตรกรต้องตัดผลปาล์มที่มีคุณภาพ โดยที่ บ.เอเชียนน้ำมันปาล์มฯพบว่ามีการรับซื้อผลปาล์มที่มีคุณภาพของเกษตรกร หรือ เอเชี่ยนพลัส โดยจะให้ราคาสูงกว่าปกติและนอกจากนี้ก็จะมีการพูดคุยในเรื่องของการทำปาล์มคุณภาพทั้งระบบตั้งแต่คนตัด ลานเท และโรงสกัดฯเพื่อให้เกษตรกรขายปาล์มได้ในราคาที่สูง ถึงจะมีการพูดคุยในรายละเอียดกันต่อไป สำหรับราคาผลปาล์มในวันนี้นั้น  ลานเท แต่ละพื้นที่ก็จะรับซื้อในราคาที่แตกต่างกัน บางแห่งรับซื้อ ราคา 4.20 บาท บางแห่งซื้อ ราคา 4.50 บาท 

อธิบดีกรมการค้าภายในได้ฝากไปถึงลานเท ถึงการทำปาล์มร่วงผิดธรรมชาติ โดยการบ่ม หรืออะไรก็ตามที่ไม่ได้สุกร่วงตามธรรมชาติ นำมาขาย เป็นการทำร้ายอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน มีความผิดตามกฎหมาย จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทางด้านเกษตรกรชาวสวนปาล์มจังหวัดกระบี่ ได้ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่า  ท่านอธิบดี อย่าโยนความผิดมาให้กับเกษตรกร เมื่อก่อนจริง เกษตรกร ได้มีการตัดปาล์มดิบ ไปขายที่ลานเทอยู่บ้าง แต่ปัจจุบันนี้ ถูกลานเท คัดปาล์มดิบอย่างเข้มงวด ลานเทจะไม่รับซื้ออย่างเด็ดขาด ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี ทำให้ เกษตรกรได้ปรับปรุง ให้ปาล์ม มีคุณภาพขึ้น เรื่อง ปาล์มบ่มให้สุก ยืนยันว่า เกษตรกร ชาวสวนปาล์ม ไม่มีเวลาทำ เพราะเมื่อตัดมาแล้ว ก็จะนำไปขายที่ลานเท ทันทีทันใด เพื่อต้องการไม่ให้ขาดน้ำหนัก

ส่วนเรื่อง ที่ท่านอธิบดีพูดว่า โรงงานเจอปัญหา เปอร์เซ็นต์น้ำมันต่ำ เนื่องจากว่า มีผลปาล์มที่ทำให้สุกปิดธรรมชาติ เรื่องนี้ ท่าทางที่ดีแล้ว ทางอธิบดี ควรที่จะหาความจริงให้ปรากฏ ว่ามันมาจาก ที่ใด ส่วนภัยแล้งที่ผ่านมาส่งผลกระทบที่ทำให้ผลปาล์มด้อยคุณภาพนั้นน้อยมาก  ขณะนี้ราคาผลปาล์มตกต่ำก็เพราะว่าผลผลิตปาล์มจากเกษตรกรออกมาก ลานเทแต่ละแห่งที่นำผลปาล์มไปส่งโรงงานต้องติดคิวกัน เป็นวัน หรือข้ามคืน เมื่อปาล์มมี ปริมาณมาก โรงงาน จึงถือโอกาสกดราคาผลปาล์ม ให้ต่ำลง

ผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า เรื่องการพัฒนาปาล์ม ให้มีคุณภาพ คุยกันมา เป็น 10 ปี ไม่เห็นทำได้สักที ออกแอคชั่นกัน ขณะที่ราคาผลตามตกต่ำ เพียงชั่วขณะ แต่เมื่อปาล์ม ราคาปรับตัวสูงขึ้น ก็เงียบหาย ลืม ลืมโครงการ ดังกล่าวทุกที