นายวิโรจน์ ชายา นายกสมาคมโรงแรม จ.เชียงราย เปิดเผยว่า สถานการณ์การเดินทางไปพักของนักท่องเที่ยวที่ จ.เชียงราย พบว่าช่วงต้นปีราวเดือน ม.ค.-ก.พ.2567 พบว่ามีนักท่องเที่ยวเข้าพักกว่า 70-80% และยังคงคึกคักไปจนถึงกลางเดือน มี.ค. แต่พบว่าหลังจากนั้นจนถึงเดือน เม.ย.ปรากฎว่าอัตราเข้าพักลดลงเหลือเพียงประมาณ 20% เนื่องจากเกิดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็กต่างได้รับผลกระทบส่วนรายใหญ่ๆ มีการส่งเสริมประชุมสัมมนาทำให้สามารถยืนหยัดอยู่ได้
นายวิโรจน์ กล่าวว่า สถานการณ์ที่ย่ำแย่ดังกล่าวมีชึ้นหลังจากผู้ประกอบการพอจะลืมตาอ้าปากเมื่อพ้นวิกฤติโควิด-19 มาได้ปีกว่า แต่ปรากฎว่ากลับมีปัญหาฝุ่นและล่าสุดคือค่าแรงขั้นต่ำวันละ 400 บาท ซึ่งจะมีขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2567 นี้เป็นต้นไป เพราะผู้ประกอบการจะต้องจ่ายค่าประกันสังคมให้กับลูกค้า 5% จากเดิมค่าแรกวันละ 300 บาทก็จะเสียเพียงแค่ประมาณ 100 บาทต่อเดือน แต่หากเพิ่มเป็นวันละ 400 บาทก็จะต้องเสียค่าใจ้จ่ายเพิ่มเป็นเดือนละ 200 บาท ซึ่งหากเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่คงไม่ประทับมากนัก แต่สำหรับรายเล็กแล้วถือว่าได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง
นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า ด้วยเหตุนี้ ทำให้ภาคเอกชนจำเป็นต้องปรับตัวโดยล่าสุดได้มีเอกชนเกี่ยวกับด้านสุขภาพได้หารือกับผู้ประกอบการโรงแรมที่พักต่างๆ ใน จ.เชียงราย ให้หันไปใช้อุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่เป็นการดูแลสุขภาพเพื่อให้เข้ากับโครงการ Wellness City ของ จ.เชียงราย โดยอุปกรณ์ของใข้ทุกอย่างซึ่งผู้ประกอบการจะไปศึกษาดูงานที่ จ.เชียงใหม่ กลางเดือน พ.ค.นี้ เพื่อพิจารณาตัดสินใจต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท ห้องพักต่างๆ ฯลฯ ใน จ.เชียงราย มีประมาณ 400 แห่ง มีห้องพักรวมกันกว่า 20,000 ห้อง และเป็นสมาชิกสมาคมโรงแรม จ.เชียงราย ประมาณ 100 แห่ง มีห้องพักรวมกันประมาณ 4,000 ห้อง ทั้งนี้การท่องเที่ยวจะคึกคักอย่างมากในช่วงฤดูหนาวโดยเฉพาะเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่หรือปีละประมาณ 4 เดือน