สถานธนานุบาล หรือโรงรับจำนำ เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์คึกคัก เตรียมเงินสำรองไว้บริการประชาชนในช่วงเปิดเทอมกว่า 150 ล้านบาท พร้อมปรับลดดอกเบี้ย เงินต้นไม่เกิน 5 พันบาท จากร้อยละ 1 ต่อเดือน เหลือร้อยละ 0.25 บาทต่อเดือน เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย และช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครองในช่วงเปิดภาคเรียน
วันที่ 9 พ.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่สถานธนานุบาล หรือ โรงรับจำนำ เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ โดยในช่วงนี้มีความคึกคักเป็นพิเศษ เนื่องจากอยู่ในช่วงใกล้เปิดเทอม มีผู้ปกครอง และประชาชนทั่วไป ต่างทยอยนำสินทรัพย์มาจำนำอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน เพื่อนำเงินไปจับจ่ายใช้สอย ซื้อชุดนักเรียน และอุปกรณ์การเรียน และมีบางส่วนเข้ามาไถ่ถอนทรัพย์สิน เฉลี่ยวันละหลายสิบราย ทำให้มีเงินสะพัดหมุนเวียนอย่างน้อยวันละ 2-3 ล้านบาท โดยสินทรัพย์ที่ประชาชนนำมาจำนำนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นทองรูปพรรณ นอกจากนี้ยังมีผ้าไหมแพรวา ผ้าฝ้าย หรือผ้าไทย เครื่องใช้ไฟฟ้า ทั้งทีวี เครื่องสูบน้ำ และเครื่องมือช่างอีกด้วย ทำให้ทางสถานธนานุบาลกาฬสินธุ์ ต้องเตรียมเงินไว้บริการประชาชนกว่า 150 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย และช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครองในช่วงเปิดภาคเรียนนี้
นายธันยพัต คนหมั่นนิธิโชติ ผู้จัดการสถานธนานุบาล เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้บรรยากาศที่สถานธนานุบาล หรือ โรงรับจำนำ เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ถือว่ามีความคึกคักเป็นพิเศษ มีประชาชนมาใช้บริการเพิ่มมากขึ้นจากในช่วงปกติ โดยเฉพาะผู้ปกครองที่มีความจำเป็นต้องใช้เงิน เพื่อนำไปซื้อชุดนักเรียน และอุปกรณ์การเรียนให้กับบุตรหลาน เพราะอยู่ในช่วงใกล้เปิดเทอม และมีบางส่วนที่มาไถ่ถอน ทำให้มีเงินหมุนเวียนอย่างน้อยวันละ 2-3 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่ทรัพย์สินที่ประชาชนนำมาจำนำนั้นจะเป็นทองคำ และทองรูปพรรณ รวมทั้งทีวี เครื่องสูบน้ำ เครื่องมือช่าง และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ นอกจากนี้ยังมีผ้าไหม ผ้าไหมแพรวา ผ้าฝ้าย หรือผ้าไทย ที่ทางสถานธนานุบาลรับจำนำ เพื่อช่วยเหลือประชาชนกลุ่มอาชีพต่างๆด้วย
นายธันยพัต กล่าวอีกว่า สำหรับในช่วงเปิดเทอมนี้ ทางสถานธนานุบาล เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ โดยการนำของนายจารุวัฒน์ บุญเพิ่ม นายกเทศมนตรีเมืองกาฬสินธุ์ ได้มีการเตรียมความพร้อม โดยการสำรองเงินและมีทุนทรัพย์สินไว้บริการประชาชนในช่วงนี้กว่า 150 ล้านบาท พร้อมกับปรับลดดอกเบี้ย ตามมาตรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสถานธนานุบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อลดการก่อหนี้นอกระบบ โดยคิดดอกเบี้ยสำหรับผู้ที่นำทรัพย์สินมาจำนำ ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2567 ระยะเวลา 2 เดือน คือเงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 ต่อเดือน และเงินต้นเกินกว่า 5,000 บาทไม่เกิน 100,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อเดือน ทั้งนี้เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยให้มีเงินหมุนเวียนใช้จ่ายในอัตราดอกเบี้ยต่ำในช่วงเปิดภาคเรียน ปีการศึกษา 2567 และเพื่อลดภาระของผู้ปกครองในช่วงนี้อีกด้วย จากนั้นตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2567 ใช้อัตราดอกเบี้ยคือเงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.50 ต่อเดือน และเงินต้นเกินกว่า 5,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อเดือน
นายธันยพัต กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับมาตรการป้องกันเหตุ และรักษาความปลอดภัยนั้น ทางสถานธนานุบาลมีระบบเซฟตี้ทุกด้าน ทั้งการป้องกันเหตุอัคคีภัย หรือการก่อเหตุร้ายต่างๆ ที่สำคัญมีการประสานงานกับตำรวจ และมีระบบเตือนภัยที่มีประสิทธิภาพ จึงมั่นใจในความปลอดภัย และขอให้ลูกค้า ประชาชน มั่นใจ เชื่อใจ ไว้วางใจในการมาใช้บริการ นอกจากนี้ยังมีการประมูลทรัพย์สินที่หลุดจำนำทุกวันเสาร์แรกของเดือนอีกด้วย