ปากกาขนนก / สกุล   บุณยทัต

“ในโลกที่ยากลำบาก..ต่อการได้รับสิ่งหนึ่งสิ่งใดอันมีค่าต่อชีวิตในวันนี้..หากโอกาสของเรา บังเกิดเป็นความง่ายดายต่อการได้รับสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เป็นประโยชน์ในชีวิตได้..ย่อมแสดงถึง วาระแห่งโชคเกินวิสัย..แท้จริงแล้ว  สภาวการณ์เช่นนี้อาจเกิดกับชีวิตได้โดยไม่ทันตั้งตัว...กระทั่งเราอาจถึงกลับไม่เชื่อถือในความจริง..เเละเมื่อเป็นเช่นนั้น..ความเท็จในโลกแห่งชีวิตของเราที่ต้องสัมผัส ก็อาจจะกลายเป็นสิ่งที่ทรงพลังและมีความหมายยิ่งขึ้น..หายนะแห่งการดำรงอยู่อันสุขสงบอาจแปรสภาพสู่ความเป็นโศกนาฏกรรมแห่งยุคสมัยได้..หากเราไม่รู้เท่าทัน..”

นี่เป็นบริบทแห่งหนังสืออันชวนตระหนักคิดเล่มสำคัญที่ควรค่าแก่การเรียนรู้ในจังหวะกลไกแห่งยุคสมัย “Effortless..คนเก่งคิดง่าย ไม่คิดยาก” ผลงานเขียนของ... “Greg McKeown” นักเขียนเชิงจิตวิทยาและพัฒนาตัวเอง ชาวสหรัฐอเมริกา ผู้โด่งดังและเป็นที่รู้จักกันจากหนังสือ “จงทิ้งสิ่งที่ดี เพื่อสิ่งที่ดีที่สุด” ..หนังสือที่สอนถึงการบริหารเวลาชีวิตเพื่อจัดการบริหารเเบบใหม่ โดยทิ้งสิ่งที่ไม่จำเป็นในชีวิตออกไป..แม้มันจะเป็นสิ่งสำคัญก็ตาม..แต่เมื่อมันไม่มีความหมายต่อชีวิตแล้ว.. .ก็ควรจะแสวงหาสิ่งใหม่ที่สำคัญต่อชีวิตยิ่งกว่า..!

“Effortless” คือหนังสือที่ผู้เขียน..มุ่งที่จะให้ผู้อ่านได้คิดเป็น..และเมื่อคิดเป็นแล้ว..ทุกสิ่งในชีวิตก็จะง่ายขึ้นตั้งแต่แรก..โดยเฉพาะกับ..คนที่รู้สึก “BURNOUT” สิ้นสภาพหมดความหวัง..ที่จะได้ตระหนักในตัวตนว่า “จงทำในสิ่งที่ง่าย แล้วชีวิตก็จะประสบกับความสำเร็จได้..โดยไม่จำเป็นต้องทำในสิ่งที่ยากเกินไป..”

“ในเมื่อคิดซับซ้อน..ผลก็คือ การลงมือทำก็จะยาก และต้องลงมือทำมาก ส่งผลให้ต้องทำงานอย่างหนัก แต่ผลลัพธ์ที่ได้น้อยลง ครั้นเมื่อคิดให้ง่าย..การลงมือทำก็จะง่ายดายในทุกขั้นตอน ผลลัพธ์ก็คือ..เราจะเหนื่อยน้อยลง แต่กลับได้รับผลลัพธ์ที่ดีและมากขึ้น” ..นั่นถือเป็นการค้นพบในนสิ่งอันสำคัญยิ่ง

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วตามทรรศนะของ “Greg McKeown” ในฐานะของ..Apple , Google , Facebook และ Twitter..จึงสรุปแบบเน้นย้ำว่า “ไม่จำเป็นที่เราต้องทำงานหนัก...แต่ต้องคิดทำงานอย่างฉลาดเพื่อจะได้เบาแรงลง” เราจำเป็นที่จะต้องรู้จักภาวะที่ง่ายดาย..เพื่อที่จะได้ค้นพบในสิ่งที่ขาด และตระหนักรู้ในสิ่งที่มี..หาทางที่ง่ายกว่า ตระหนักรู้กับสิ่งที่สำคัญในชีวิต และเพิกเฉยต่อสิ่งที่ไม่สำคัญและไม่สามารถสร้างคุณค่าอะไรต่อชีวิตของเรา..

เหตุนี้.. .จึงต้องคิดให้ง่ายอย่าคิดซับซ้อน เพราะ..การคิดที่ยากและซับซ้อนนั้น..ทำให้เราต้องใช้เวลามาก..เป็นการเสียเวลา และได้ผลลัพธ์ออกมาค่อนข้างน้อย ซึ่งตรงข้ามกับความคิดที่ง่ายอย่างสิ้นเชิง...มันเข้าเป้าและสร้างความรื่นรมย์ต่อความหมายของชีวิตมากกว่า ที่สำคัญ “การทำงานที่เหนื่อยน้อยลง และได้ผลลัพธ์ที่เพิ่มขึ้นนั้น” เป็นกำไรของชีวิตที่น่าจดจำ..

ความสำเร็จแห่งชีวิตของเรา..สมควรจะสำเร็จขึ้นได้ ด้วยการค่อยๆทำ ไม่ใช่ฝืนทำ..จัดการกับอุปสรรคนานาให้สำเร็จก่อน ดีกว่าจะมาแก้ไขอุปสรรคในภายหลัง...ด้วยเหตุนี้ เราจึงต้องทำงานกับบุคคลที่ดี มีความฉลาดเชี่ยวชาญ และมีอุปนิสัยที่ดี เพื่อเมื่อต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคใดไปแล้ว..ก็จะแก้ไขปัญหาได้..ทำให้ระบบการทำงานมีความเป็นอัตโนมัติทุกส่วนในตัวตนที่แจ่มชัด..

เช่นเดียวกับว่ามันจำเป็นต้อง..จับจังหวะความสำเร็จในงานให้ได้..โดยเฉพาะกับนัยสำคัญที่ว่า “อย่าทำงานหนักขึ้นเป็นสองเท่า..แต่กลับได้รับผลลัพธ์ ผลตอบแทนเพียงแค่ครึ่งเดียว” ด้วยการคิด ด้วยการกระทำที่ต้องใช้พลังแรงอย่างมหาศาล..มันจึงส่งผลต่อการก่อให้เกิดผลเป็นความเหนื่อยยาก จากความพยายามฝืนความเป็นตัวของตัวเองมากจนเกินไป..

การวางแผนและการคิดที่มากเกินไป จะทำให้อ่อนล้าและหมดไฟได้ เพราะหลักการเเละขั้นตอนอันสลับซับซ้อนที่ยากจะกระทำ..ความสำเร็จที่แท้จริงจึงอยู่ที่ความโปร่งโล่ง ทางความคิด..กระทั่งบังเกิดเป็นเชื้อไฟสู่ความสำเร็จ..

“แบ่งเนื้องานออกเป็นส่วนตอนย่อยๆ  เราจะประจักษ์ในทันทีว่า ความสำเร็จนั้น..อยู่ในขั้นตอนที่ง่ายดายเพียงใด..!”ขั้นตอนแรก...ขึ้นอยู่กับภาวะที่ง่ายดาย...ด้วยการมองในมุมกลับและคิดในประเด็นสำคัญที่ว่า.. “จะเป็นอย่างไรนะ...ถ้าสิ่งนี้ง่ายดาย...ขึ้นอยู่กับภาวะของความ “สนุก”...ให้ถามคำถามว่า..จะเป็นอย่างไร..หากเรื่องๆนั้น..เรื่องที่ค่อนข้างจะเครียดและจริงจังเรื่องนั้น สามารถที่จะเป็น..เรื่องสนุกได้..

“ปลดปล่อย”...วาระโอกาสแห่งการปลดปล่อย...ถือเป็นพลังแห่งการปล่อยวางที่สำคัญยิ่ง..ในขั้นตอนที่สอง ..เน้นย้ำถึงการลงมือทำอย่างง่ายดาย.. ด้วยการกำหนดที่ชัดเจน..และพิเคราะห์ต่อไปว่า..เมื่อทุกสิ่งที่ลงมือทำสำเร็จแล้ว..จะให้ผลตอบสนองเชิงผลลัพธ์เช่นไร?..นั่นจะทำให้การเริ่มต้นในขั้นตอนแรก..จำเป็นที่จะต้องดำเนินการอย่างชัดเจน..

ในขั้นตอนสุดท้าย.สู่การประจักษ์ในผลลัพธ์ที่ง่ายดาย..เราจึงต้องเรียนรู้ และใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ผู้อื่นเรียนรู้ให้ดีที่สุด...ยกระดับและใช้ประโยชน์จากพลังของคนจำนวนมาก..ทำทุกสิ่งให้เป็นอัตโนมัติ..โดยลงมือแค่ครั้งเดียวแล้วไม่ต้องกระทำอีกเลย ..! “Greg McKeown” แบ่งบทตอนในหนังสือของเขาออกเป็น 5 บทตอน..เริ่มจากบทนำ..ที่ชี้ให้เห็นลักษณะอันเป็นจริงว่า..ทุกสิ่งใช่ว่าจะต้องยากเย็น..

ในบทที่ 1..เขาแจกแจงและอธิบายถึงภาวะที่ง่ายดาย  อย่างกระจ่างและเข้าใจ ต่อด้วยบทที่ 2..ด้วยการอธิบายถึงการลงมือทำที่ง่ายดาย บทที่ 3..คือผลลัพธ์แห่งการกระทำที่ปรากฏออกมาอย่างง่ายดาย จนไปถึง..บทสรุป..ที่แสดงให้ตระหนักถึงว่า..สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตนั้น..สำคัญที่สุด “การลงมือทำจะง่ายดายในทุกขั้นตอน..ผลก็คือ เราจะเหนื่อยน้อยลงแต่ได้ผลลัพธ์มากขึ้น..เหตุนี้..เราจะคิดซับซ้อนให้ยุ่งยากไปเพื่ออะไร?..”

ตัวอย่างจากกรณี..นักบาสเกตบอลอาชีพในช่วงเวลาจะชู้ตลูกโทษ จุดชู้ตห่างจากแป้นบาสกว่า 4.5 เมตร..พวกเขาจะทำการเลี้ยงลูกบาสสองถึงสามครั้ง ก่อนจะย่อเข่า บิดข้อศอกให้อยู่ในมุมที่พอเหมาะ จากนั้นจึง “ยก สะบัด ลอย” ก่อนปล่อยลูกบาสลอยลอดห่วง...มันดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆ และถือเป็นเรื่องปกติของนักบาสฯอาชีพที่สามารถชู้ตลูกโทษลงได้มากกว่า98 ครั้งจาก 100 ครั้ง..แน่นอนว่า..ผลลัพธ์ที่เหลือเชื่อนี้..มาจากการขยันฝึกซ้อม..การทำซ้ำๆกันครั้งแล้วครั้งเล่า..นี่เป็นสภาซะที่ “Greg McKeown” ได้ยกมาเป็นสำนึกคิดเพื่อชี้ให้เห็นถึง...ภาวะของ “ความง่ายดาย” (Effortless)..ที่เกิดมาจาก 3 ขั้้นตอน นับแต่ “ภาวะจิตใจที่ง่ายดาย” (Effortless State) “การลงมือที่ง่ายดาย” (Effortless Action) และ.. “ผลลัพธ์ที่ง่ายดาย” (Effortless Result)

ในมิติสรุป..การลงมือทำอย่างง่ายดาย..ต้องเริ่มต้นจากการตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้ และเริ่มต้นทำ.. “คนเก่งมักถูกปลูกฝังว่า..ยิ่งพยายามมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้ผลลัพธ์ที่ดีมากขึ้นเท่านั้น..แต่พอไปถึงจุดหนึ่ง..ความทุ่มเทพยายามมากขึ้น..จะไม่ทำให้เราพัฒนา..แต่กลับจะทำให้เราแย่ลง..นั่นคือความจริง!”

นอกจากนั้น..การทำงานในจังหวะที่เหมาะสม ไม่เกินขอบเขตและศักยภาพของตนมากจนเกินไป ย่อมนำไปสู่ผลลัพธ์ของงานที่มีประสิทธิภาพและคุณภาพได้เช่นกัน..สำหรับผลลัพธ์ที่ง่ายดาย..ย่อมสามารถเกิดขึ้นได้จากการเรียนรู้ ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่คนอื่นรู้ดีที่สุด..โดยนำเทคโนโลยีมาช่วย..พร้อมด้วยการทำงานด้วยความเชื่อใจ..ทำงานเป็นทีม และ ทำเป็นอัตโนมัติ..โดยลดขั้นตอน ไม่ให้ซับซ้อน..นี่คือหนังสือที่อธิบายและพรรณนาถึงตัวอย่างการใช้ชีวิตให้ “ง่ายดาย”

ด้วยการสืบค้นความหมาย ของปรากฏการณ์ของโลก และเหตุแห่งการกระทำของมนุษย์อย่างลึกซึ้ง ผ่านความง่ายดาย ..โดยข้ามผ่านขั้นตอนอันยุ่งยาก..เนื่องเพราะความสลับซับซ้อนและเงื่อนไขอันผูกมัดของการกระทำ...จะทำให้ผลสัมฤทธิ์ในเชิงปฏิบัติไม่เคลื่อนขยาย เป็นอุปสรรคต่อความสำเร็จ.. .และอาจจะทำให้โครงสร้างแห่งความหวังของกระทำนั้นๆ..ล่มสลายลงในที่สุด นี่คือ..หนังสือแห่งการใคร่ครวญของยุคสมัย ต่อการมีชีวิตอยู่ ณ โลกของวันนี้..ว่าเราควรมีความหวัง และควรปฏิบัติต่อชีวิตเช่นไร?..ในวิถีแห่งสัจจะ..อันซับซ้อนนี้..

“พรรณรวี อกนิษฐาอภิชาต” ถอดความและแปลความหนังสือเล่มนี้ออกมา ได้อย่างเข้าใจและสื่อใจความออกมาได้อย่างเห็นแจ้ง..เมื่อคิดเป็นทุกอย่างจะง่ายตั้งแต่เริ่มต้น ..บังเกิดสติแห่งการรู้เท่าทันโลกที่วุ่นวาย..นั่นถือเป็นข้อคิดหลัก..ต่อการดำเนินชีวิตในทุกด้าน.. “ทำงานให้ง่ายเข้าไว้..จงอย่าคิดอะไรให้ซับซ้อน...แล้วคุณจะประสบความสำเร็จในทุกเรื่อง”