วันที่9พ.ค.2567-นายเดวิด  บุญทวี นักดูดวงไพ่ยิปซี  ได้โพสต์บนเพจเฟสบุ๊ค"David  Boothawee"ว่า  ความเจ็บปวดของผม อาจทำให้ใครต่อใครรู้สึกตลก
แต่มุกตลกของผม จะไม่มีวันทำให้ใครต้องเจ็บปวด

ไม่รู้จะเกี่ยวกับข่าวในกระแสช่วงนี้หรือไม่ แต่จู่ๆ ผมก็อยากเขียนถึง “นักแสดงตลก” คนหนึ่ง ซึ่งถือเป็น “นักแสดง” ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดอันดับหนึ่งตลอดกาลของโลกใบนี้ นั่นก็คือ “ชาลี แชปลิน” 

สมัยรุ่งโรจน์สุดขีดในช่วงทศวรรษ 1930 ชาลีเคยให้สัมภาษณ์ว่า “ความเจ็บปวดของผม อาจทำให้ใครต่อใครรู้สึกตลก แต่มุกตลกของผม จะไม่มีวันทำให้ใครต้องเจ็บปวด” (My pain may be the reason for somebody's laugh. But my laugh must never be the reason for somebody's pain.)
.

ชาลีเกิดมาในครอบครัวยากจน ในย่านสลัมของกรุงลอนดอน ตอนชาลีเล็กๆ พ่อกับแม่หย่าร้างกัน ทำให้ชาลีเติบโตมากับแม่ที่เป็นนักแสดงละครเร่และพี่ชาย 

ชีวิตในวัยเด็กของชาลี นอกจากการได้เล่นกับเพื่อนๆ แล้ว ความสุขของเขาก็คือการได้ดูละครเวทีตามท้องถนน 

ทุกเย็นเขาจะไปเดินเตร่แถวสำนักงานจัดหานักแสดง ซึ่งทำให้ชาลีได้เห็นชีวิตของผู้คนข้างถนนที่ยากจนข้นแค้น ตกงาน ชีวิตยากลำบากแสนสาหัส ซึ่งคนเหล่านี้ต่างก็มีชีวิตไม่ต่างจากชาลี 

เขาจึงมีความฝันว่า วันหนึ่งจะต้องเป็นนักแสดงที่โด่งดังให้ได้ นอกจากเพื่อสร้างความสุขให้คนเหล่านั้นผ่านการแสดงแล้ว เขายังต้องการช่วยเหลือคนยากจนเหล่านี้ให้มีชีวิตที่ดีขึ้น และนี่ก็กลายเป็นปณิธานที่ฝังลึกอยู่ในตัวชาลีจนตลอดชีวิต
.

ข้ามไปช่วงบั้นปลายชีวิต

วันที่ชาลีได้รับรางวัลออสการ์เกียรติยศนั้น ต้องถือเป็นวันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอุตสาหกรรมภาพยนตร์โลก 

แขกเหรื่อที่มาร่วมงานต่างยืนปรบมือ (standing ovation) เพื่อเป็นเกียรติแก่ชาลียาวนานถึง 12 นาที ซึ่งเป็นการยืนปรบมือที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของรางวัลออสการ์จนถึงทุกวันนี้

ผู้สันทัดกรณีต่างมีความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่คือครั้งเดียวที่รางวัลออสการ์ “เล็กกว่า” ผู้ได้รับรางวัล หรือแม้แต่ "ไม่ใช่ชาลีหรอกที่ได้รับรางวัลออสการ์เกียรติยศ แต่ออสการ์กำลังได้รับรางวัลเกียรติยศจากชาลี"
.

ปีสุดท้ายในชีวิตของชาลี ที่พระราชวังบักกิ้งแฮม

ทันทีที่ปลายพระแสงดาบจากพระหัตถ์ขวาของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธ ได้แตะลงที่ไหล่ซ้ายของเขา เด็กชายยากจนจากสลัมกรุงลอนดอน ก็ได้กลายเป็น “เซอร์ ชาร์ลส สเปนเซอร์ แชปลิน” อัศวินแห่งราชสำนัก

นี่คือเกียรติยศสูงสุดของนักแสดงและศิลปินคนหนึ่ง ผู้ซึ่งทั้งชีวิตมีจรรยาวิชาชีพและซื่อสัตย์ต่อผู้ชมของเขามาโดยตลอด

หากย้อนไปดูคำพูดของชาลี แชปลิน ข้างต้นอีกครั้ง ก็คงไม่มีใครสงสัยว่า นี่คือผู้เจริญด้วยปัญญาและวุฒิภาวะอย่างแท้จริง