จากกรณีเมื่อวันที่ 7 พ.ค. 67 ที่ สภ.บางใหญ่ ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี  นางสุพัตรา หรือยายสุข  อายุ 75 ปี อาชีพแม่ค้าขายข้าวไข่เจียว เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บางใหญ่ หลังจากเมื่อเวลา 13.00 น. ขณะขายข้าวไข่เจียวอยู่ที่ร้าน บริเวณอาคารบางใหญ่ซิตี้  ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ถูกชายไม่ทราบชื่อ 2 คน ขับรถกระบะไม่ทราบยี่ห้อ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามาจอดที่หน้าร้านก่อนจะเดินเข้ามาทวงเงินที่หน้าร้าน และใช้โทรศัพท์มือถือตบเข้าที่หน้าอย่างแรง 1 ครั้ง จนฟกช้ำ และกระชากเสื้อจนล้มลง พร้อมท้าให้ไปแจ้งความที่โรงพักและพยายามจะดึงตัวยายสุขขึ้นรถ แต่ยายสุขขัดขืนไม่ยอมขึ้นรถไปกับชายคนดังกล่าวเพราะกลัวว่าจะถูกพาไปทำร้ายที่อื่น ก่อนชายคนดังกล่าวจะพังข้าวของที่ร้านจนเละเทะ และถ่มน้ำลายใส่ พร้อมข่มขู่ว่าถ้าเปิดร้านอีกก็จะเข้ามาพังร้านอีก
 
 ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (8พ.ย.67) เวลา 17.00 น. ที่ สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.ภ.1 พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รองผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.คมกฤษณ์ คำบุศย์ ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.ท.ธนเดช ทีนาคะ รองผกก.ป.สภ.บางใหญ่รรท.ผกก.สภ.บางใหญ่  พร้อมด้วยนางสาวญาณิพัชญ์ ศรีโคตร นายอำเภอหญิงบางใหญ่ได้ ร่วมกันแถลงข่าวหลังควบคุมตัวนายกมลแพทย์(สงวนนามสกุล) อายุ 35 และนายจำนงค์ (สงวนนามสกุล)อายุ 24  เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา  ร่วมกันทำร้ายร่างกาย , ร่วมกันประกอบธุรกิจให้สินเชื่อบุคคลภายใต้กำกับในทางการค้าปกติโดยไม่ได้รับอนุญาต , เรียกดอกเบี้ยเกินอัตรากำหนด พร้อมของกลาง คือ รถกระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า รีโว่สีขาว 

พล.ต.ท.จิรสันต์ กล่าวว่า ในกรณีดังกล่าวเป็นการยืมเงินกันตั้งแต่ปี 2566 แล้ว โดยเป็นการเรียกดอกลอย จำนวนเงิน 100 บาท จากคนที่ชื่อก้อง ซึ่งวันนี้ทางตำรวจยังไม่ได้ตัวนายก้องที่ทางคุณยายบอกว่าได้กู้เงินมา อยู่ระหว่างติดตามตัว  ซึ่งในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าหน้าที่ตำรวจตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรีสถานีตำรวจภูธรบางใหญ่ร่วมกับฝ่ายปกครอง สามารถที่จะติดตามติดตามจับกุมแก๊งเงินกู้ได้ 2 คน ตามตัวที่อยู่ในคลิปดังกล่าว  ได้ภายในหนึ่งวัน จากการสอบสวนผู้ต้องหาทราบว่า เจ้าของเงินกู้จริงๆ คือนายกลมแพทย์  ตำรวจจึงทำการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองรายให้การสารภาพว่าเป็นคนนำเงินมาปล่อยกู้ยืมเงินจริงและเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรากำหนดจริง ส่วนเรื่องทำร้ายร่างกายทางผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ยังให้การภาคเสธ  และได้ถมน้ำลายจริงแต่ไม่โดนหน้าผู้เสีย  อย่างไรก็ตามจะต้องทำการสอบสวนรายละเอียดเพิ่มเติมในประเด็นนี้ ทั้งนี้ทางด้านนายกมลแพทย์ก็ยังให้การว่า ตนได้มีเงินสำหรับปล่อยเงินกู้จำนวน 30,000 บาท โดยปล่อยให้ 3 ราย เท่านั้น ซึ่งทางผู้ต้องหาได้ตามเอาเงินมาทั้งหมดแล้ว เหลือแต่เพียงคุณป้าที่เป็นรายที่ 3  ซึ่งพยานหลักฐานในขณะนี้ยังไม่สามารถพาดพิงถึงทางผู้ต้องหาได้ว่ามีการตระเวนปล่อยเงินกู้ในพื้นที่  เบื้องต้นตำรวจ ได้แจ้งข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกาย , ร่วมกันประกอบธุรกิจให้สินเชื่อบุคคลภายใต้กำกับในทางการค้าปกติโดยไม่ได้รับอนุญาต , เรียกดอกเบี้ยเกินอัตรากำหนด  ทั้งนี้ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบสวนขยายผล เพื่อดำเนินคดี  กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือเครือข่ายการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบอย่างเด็ดขาด ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีต่อไป

นายชุ้น ณัฐเดชกังสุกุล ปลัดจังหวัดนนทบุรี เปิดเผยว่า  ท้องต้นทางด้านอำเภอได้รับมอบหมายจากทางผู้ว่าราชการจังหสัดนนทบุรี ให้เข้ามาดูและตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ทราบข้อมูลว่า คุณป้าเคยเดินทางเข้ามาอำเภอซึ่งเดินทางมาก่อนที่ทางรัฐบาลจะมีมาตรการที่ช่วยเหลือแก้ไขหนี้นอกระบบ ซึ่งเข้ามาพบปลัดที่ศูนย์ดำรงธรรม ทางท่านปฃัดได้มีการเชิญเจ้านี้มาแล้วแต่ก็ไม่มา วันนี้ทางตนได้เข้าไปพูดคุยไกล่เกลี่ยกับทางผู้ต้องหาสรุปได้ว่าผู้ต้องหาทั้งสองรายยกหนี้ให้กับคุณป้า อย่างไรก็ตามแม้ว่าศูนย์ดำรงธรรมจะปิดเรื่องรับร้องเรียนหนี้นอกระบบแล้ว แต่ประชาชนก็ยังสามารถเข้ามาทำเรื่องร้องเรียนได้