วันที่ 8 พ.ค. 2567 นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เดินหน้าขายข้าวในโครงการรับจำนำข้าว จะนำมาสู้กับการรื้อคดีและฟอกขาวใช่หรือไม่ ว่า ต้องไปสอบถามนายภูมิธรรม ในรายละเอียด แต่ส่วนตัวพอรู้เรื่องโครงการรับจำนำข้าวอยู่บ้าง ขออย่าคิดอะไรสลับซับซ้อนมาก เพราะเป็นเพียงการตั้งข้อสงสัยมานานแล้วว่า ข้าว 4-5 ปีเหตุใดจึงเป็นข้าวเน่า เป็นข้าวเสียถึงขั้นจะนำไปขายเป็นอาหารสัตว์หรือเชื้อเพลิง

 

“ได้รับเบาะแสมาพอสมควรแล้ว ว่า บรรดาผู้ที่รับซื้อข้าว เอาไปทำอะไร กำลังอยู่ในรูปคดี เพราะขณะนี้มีคนไปยื่นต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยืนยันว่าผู้ที่ซื้อข้าวไป ไม่ได้เอาไปทำอาหารสัตว์ เพราะเรามีแหล่งข่าว และมีพยานหลักฐานพอสมควรแล้ว ดังนั้นสิ่งที่นายภูมิธรรม เดินทางไปดู เป็นแค่การพิสูจน์เชิงประจักษ์ ว่า ข้าว 10 ปีสามารถทานได้หรือไม่ ไม่ได้มีเรื่องการเมืองแต่อย่างใด” นายพิชิต กล่าว

 

เมื่อถามย้ำว่า การเข้าไปในโครงการรับจำนำข้าวมีแรงจูงใจทางการเมืองหรือไม่ นายพิชิต กล่าวว่า ตนมองนายภูมิธรรม ทำหน้าที่ รมว.พาณิชย์ ดูแลเรื่องข้าว คลังสินค้ามากกว่า ไม่มีเรื่องการเมือง

 

เมื่อถามว่า ในฐานะนักกฎหมายมองคดีของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีมูลเหตุคดีทางการเมืองหรือไม่ นายพิชิต กล่าวว่า ตนขอให้มองแค่ปัญหาที่ไปตรวจข้างในโครงการรับจำนำข้าว จังหวัดสุรินทร์ มากกว่า อย่าไปถึงเรื่องคดีความเลย

 

เมื่อถามย้ำว่า การที่คดีดังกล่าวมาจุดติดในตอนนี้ มีนัยอะไร หรือไม่ นายพิชิต กล่าวว่า อยากให้คิดว่ารัฐบาลเข้ามาบริหารราชการแผ่นดินไม่ถึงปี และเพิ่งได้กระแสมาว่าโกดังนี้เป็นโกดังที่เร่งรีบขาย ในฐานะนักกฎหมาย จะเป็นการทำลายพยานหลักฐานอะไรบางอย่าง พร้อมกล่าวย้ำว่าเรื่องนี้ไม่มีเรื่องการเมือง มีแต่เรื่องของประชาชน ถ้าข้าวดีข้าวขายได้ เงินก็เข้ารับเท่านั้นเอง ไม่มีเรื่องการเมือง