วันที่ 8 พ.ค.67 ที่ทำเนียบรัฐบาล สิบตำรวจตรี พิจักษณ์ ทองใสเกลี้ยง หรือ "ผู้หมู่เปาเปียว" เข้าพบและมอบพวงมาลัยเพื่อขอบคุณนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่ช่วยติดต่อประสานงาน ในกรณีที่ตนขาดคุณสมบัติ และเอกสารบางอย่าง ในการเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร เหล่าตำรวจ
"สูติบัตรของผม ไม่ปรากฏบิดาโดยกำเนิด จึงไม่มีเอกสารเอาไปยื่นต่อโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ซึ่งต้องเข้ารายงานตัว วันที่ 10 พ.ค. 67 และรายตัวต่อโรงเรียนเตรียมทหาร 12 พ.ค. 67 ซี่งท่านพีระพันธุ์ ได้ให้ความช่วยเหลือ ประสานกับทางโรงเรียนทั้ง 2 แห่ง ให้พิจารณาคุณสมบัติของผมอีกที" สิบตำรวจตรี พิจักษณ์
สิบตำรวจตรีพิจักษณ์ กล่าวต่อว่าขณะนี้ ยุคสมัยเปลี่ยนไป ทางครอบครัวแต่ละคนไม่เหมือนกัน ก็อาจทำให้ขาดเอกสารแบบตน ซึ่งก็จะเป็นการปิดกั้นโอกาสเด็กรุ่นใหม่ ในการเป็นทหาร ตำรวจ ทั้งนี้ตนอยากเป็นตำรวจมาตั้งแต่เด็ก เพราะมีความชอบ และมีญาติเป็นตำรวจด้วย จึงตั้งใจเข้าสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร
ด้านนายพีระพันธุ์ รับพวงมาลัย พร้อม กล่าวอวยพร และให้สัมภาษณ์ว่า น้องได้มาขอความช่วยเหลือหลังจากที่เป็นนักเรียนนายสิบแล้ว ก็ไปสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารได้ แต่ก็มาเกิดปัญหาตามที่เป็นข่าว จึงได้เชิญแม่มาพูดคุย และให้คนไปตรวจสอบพื้นที่ ก็เชื่อว่าพ่อ ของน้องเป็นคนไทยแน่นอน มีตัวตนจริง เพียงแต่ตามตัวไม่เจอ แต่คนที่อยู่ตรงพื้นที่รู้จัก จึงเชื่อว่าเป็นอย่างนั้นจริง และให้หน่วยงานต่างๆไปช่วยดูว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง ก็ต้องขอบคุณอธิบดีกรมราชทัณฑ์ซึ่งเป็นต้นทาง ในการให้ข้อเท็จจริง รวมถึงรักษาการ ผบ.ตร. ที่ดูแลเป็นอย่างดี ส่วนหน่วยงานต่างๆก็ให้ความเป็นธรรมที่ถูกต้อง จึงขอให้น้องประสบความสำเร็จในการทำหน้าที่ ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ดูแลประชาชน ตัวเองเคยผ่านเรื่องเดือดร้อนมาเยอะ วันนี้จะมีโอกาสดูแลคนอื่น ก็ขอให้ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด พร้อมยืนยันว่าจากกรณีนี้ไม่จำเป็นจะต้องมีการแก้กฎหมายหรือกฎระเบียบ เพราะหน่วยต้นสังกัด คือตำรวจ ตรวจสอบหมดแล้ว