เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้เชี่ยวชาญทางอายุรกรรมและระบบประสาท จุฬาฯ โพสต์ผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว ระบุว่า

วิธีเลี่ยงบาลีว่าไม่เกี่ยวกับผลกระทบของวัคซีน

1-ถ้าพูดถึงลิ่มเลือดอุดตันก็จะพูดถึงอยู่ในระยะระยะเวลา 5ถึง 42 วัน

คำถามคือ

ทราบหรือไม่ว่าทำไมต้อง 5 ทำไมต้อง 42

ทราบหรือไม่ว่า  เริ่มต้นจากตัวเลขที่ 21 และต่อมาคูณด้วยสอง และในทางสากลจะจัดที่ตัวเลข 84 ถึง 90 วัน

ทั้งนี้จะสอดคล้องกับกลไกทางความแปรปรวนทางระบบภูมิคุ้มกัน  หลังจากได้รับการฉีดวัคซีนจะเกิดปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันและต่อมาสร้างการอักเสบและต่อมาทำให้เลือดข้นหนืดและเกิดอุดตันขึ้น

2- หลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงผลกระทบอย่างอื่นภายในระยะเวลาสามเดือนที่อธิบายด้วยกลไกชนิดเดียวกันในทางสมองทางเส้นประสาททางด้านการอักเสบของระบบร่างกายต่างๆ

3- หลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงผลกระทบระยะยาวที่นานกว่าสามเดือน เพราะห่างกันไปมากและถ้าตายไปก็จะปฏิเสธทันทีว่าไม่เกี่ยวและปฏิเสธที่จะทำการชันสูตรอย่างละเอียดถึงการพบ การอักเสบที่เป็นร่องรอยของการเกิดจากวัคซีน ทั้งทั้งที่ผู้ตายสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดีก่อนหน้าที่จะฉีดวัคซีนด้วยซ้ำ

4-ส่วนของวัคซีน mRNA ที่ปรับแต่งโครงสร้างและยังมีสิ่งปะปนอย่างอื่นเข้ามา ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถที่จะสร้างโปรตีนชนิดอื่นๆอีกหลายชนิดเราสามารถเสียบเข้าไปในโครโมโซมหรือดีเอ็นเอของมนุษย์ได้

และมีรายงานของสมองเสื่อม ของมะเร็ง และยังรวมถึงลิ่มเลือดอุดตันต่างๆ และเกิดขึ้นเป็นผลต่อเนื่องระยะยาว หรืออาจจะดูปกติในตอนแรกแต่เกิดขึ้นภายหลังเป็นปีก็มีได้ ซึ่งถ้าไม่ได้ชันสูตรศพเช่นการรายงานจากประเทศเยอรมันหรือสหรัฐที่พบการก่อตัวของโปรตีนผิดปกติและโปรตีนของวัคซีนก็จะหาความเชื่อมโยงไม่ได้

5- ประชาชนมีความจำเป็นที่ต้องทราบวิธีเลี่ยงบาลีชนิดนี้และกล่าวอ้างว่าทำตามข้อแนะนำองค์การอนามัยโลกอย่างเคร่งครัด !!!

ในเมื่อคนไทยตายซับซ้อนขนาดนี้  ยังไม่คิดที่จะยุติการฉีดวัคซีนเหล่านี้หรือ ทั้งๆที่ยอมรับกันแล้วว่าวัคซีนเหล่านี้รวมแอสตร้า (ที่ไม่ได้ใช้แล้ว) ทั้งหมดไม่ได้ผ่านขั้นตอนมาตรฐานความปลอดภัยและประสิทธิภาพที่แท้จริง

และในเมื่อทราบว่าไม่ปลอดภัยตั้งแต่ต้นยังกล่าวอ้างว่าทางประเทศไทยมีผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนทั้งหมด ที่รุนแรงเพียง “ห้าราย” และวัคซีนทั้งหมดปลอดภัยและผ่านขั้นตอนการประเมินประกาศ เดือนกุมภาพันธ์ 2567

แต่ในคำแถลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2567  กล่าวว่าเฉพาะวัคซีนแอสตร้าก็มีเข้าข่ายเฉพาะลิ่มเลือดตันเจ็ดรายและเสียชีวิตสองราย อื่นๆไม่เข้าข่าย

ตกลงเอาเพียงแค่

“แอสตร้า”ตัวเดียวเฉพาะลิ่มเลือดอย่างเดียวก็ 7 รายแล้วและตาย 2 ราย

แล้ว เพียง 5 รายมาจากที่ใด

ไฟเซอร์ ดญ อายุ 12 ฉีดไปลำไส้ เน่า ต้องตัดทิ้งและเสียชีวิต นับด้วย?

ที่หมอดูคนไข้จากชิโนแว็ก ก็มีตาย ชิโนฟาร์มเป็นหัวใจวาย ต้องเปลี่ยนหัวใจ

แอสตร้าก็มีน้ำรั่วในสมอง สมองบวม เส้นเลือดดำตันในสมองและแตกต่อ

ไฟเซอร์ โมเดนา มีผล

กระทบนับไม่ถ้วน และเราก็เห็นและรักษาไฟเซอร์จากหัวใจวาย โมเดนาจาก ลิ่มเลือดอุดตันในปอด และอื่นๆ

ต้องเปิดเผยชื่อกรรมการประเมินผลกระทบของวัคซีน

ต้องเปิดเผย  อย กระทรวงสาธารณสุข สถาบันวัคซีนว่าทำไมนิ่งเฉยกับการตายและพิการของคนไทย

เราคนไทยด้วยกันไม่ใช่หรือครับ

ฟ้องบริษัทวัคซีนและเอาเงินมาให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตและพิการจะเป็นเรื่องประเสริฐที่สุด