กองบัญชาตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก, พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก., พล.ต.ต. คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป.ปรท. รอง ผบก.ทล.,พ.ต.อ.ชาคริต มงคลศรี รอง ผบก.ทล.,พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล.,
พ.ต.ท.นโรตม์ ยุวบูรณ์ รอง ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.กฤตย์ ธีรเวศย์สุวรรณ รอง ผกก.2 บก.ทล. ,พ.ต.ท.พิทยา ธนาวุฒิ สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.
 
​เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.(ชุมพร) นำโดย ร.ต.อ.ชาตรี  บุญอยู่ รอง สว. (ป.) ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.,ร.ต.อ.วิมล แก้วชู รอง สว.(ป) ส.ทล.4กก.2 บก.ทล., ร.ต.ท.สมบัติ ปัตเมฆ รอง สว.(ป) ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล., ด.ต.สายชล ตั้งวงศ์ ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.,ด.ต.พัทธนันท์ แดงกระจ่าง ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล., ด.ต.กิตติชัย ช่วยเกิด ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล., ด.ต.ธนพนธ์ เกิดเขาทะลุ ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล., ด.ต.ชาญชัย มูลลักษณ์ ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล., ส.ต.อ.สราวุธ กรรณสุรางค์ ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.   


ร่วมกันจับกุม 1. นายสุเนตร์ อายุ 44 ปี 2. นายดิศวัฒน์ ฯ อายุ 23 ปี ในความผิดฐาน “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยมีไว้เพื่อจำหน่าย เพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยไม่ได้รับอนุญาต” ของกลาง ยาบ้า รวมทั้งหมดประมาณ 5,020,000 เม็ด
 
สถานที่จับกุม ผู้ถูกจับกุมที่ 1บริเวณริมถนนทางหลวงสายเอเชีย 41 กม. 41 ( ขาล่องใต้ ) ต.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร ผู้ถูกจับกุมที่ 2 บริเวณริมถนนสายรอง สาย 4134 ( ขาล่องใต้ ) ต.บ้านควน อ.หลังสวน  จ.ชุมพร
 
พฤติการณ์ พ.ต.ท.พิทยา ธนาวุฒิ สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล. ได้รับการประสานจาก เจ้าหน้าที่ชุดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ให้ช่วยสกัดจับรถบรรทุกน้ำมัน หมายเลขทะเบียน นครปฐม  ซึ่งเชื่อว่าเป็นรถที่ลักลอบขนส่งยาเสพติดจากพื้นที่เขตภาคเหนือเพื่อนำส่งไปยังเขตพื้นที่ภาคใต้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง จึงเฝ้าติดตามในเขตพื้นที่รับผิดชอบ


ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้พบรถบรรทุกน้ำมันตามที่ได้รับแจ้ง ที่บริเวณ ริมถนนเอเชีย ทล.41 กม.41 (ขาล่องใต้) ต.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร จึงได้เรียกรถบรรทุกคันดังกล่าวให้จอดชิดขอบทางซ้าย เมื่อรถคันดังกล่าวจอดเรียบร้อย ชุดจับกุมจึงเข้าตรวจสอบพบว่ามี นายสุเนตร์ ฯ แสดงตัวเป็นผู้ขับขี่ พร้อมทำการตรวจสอบภายในรถ เบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่ภายในตัวถังน้ำมันที่บรรทุกมา ไม่สามารถค้นได้   เนื่องจากมีการบรรทุกกากน้ำตาลมาด้วยจำนวนมาก ชุดจับกุมจึงได้นำรถบรรทุกคันดังกล่าว ไปตรวจสอบโดยการเข้าเครื่องเอ็กซเรย์ ที่ ด่าน บช.ปส.ท่าแซะ จ.ชุมพร อย่างละเอียด ผลเอ็กซเรย์ปรากฏว่ารถคันดังกล่าวมีการซุกซ่อนวัตถุซึ่งเป็นก้อนสี่เหลี่ยมวางทับซ้อนกันอยู่จำนวนมากที่บริเวณตัวถังน้ำมันส่วนหน้า  ซึ่งได้มีการดัดแปลงมาโดยเฉพาะสำหรับบรรจุสิ่งของเพื่อปิดบังอำพรางไม่ให้เจ้าหน้าที่หรือบุคคลทั่วไปมองเห็น  หากมองลอดลงไปจากปากถังน้ำมันทางด้านบน

ชุดจับกุม จึงได้ระบายกากน้ำตาลภายในถังน้ำมันออกและลงไปภายในถังบรรจุน้ำมันที่ทำการดัดแปลงดังกล่าว ก่อนจะพบวัตถุก้อนสี่เหลี่ยมบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีดำ เมื่อทำการดึงวัตถุที่แอบซุกซ่อนไว้ภายในถังออกมา พบว่ามีก้อนสี่เหลี่ยมบรรจุอยุ่ในถุงพลาสติกสีดำ จำนวน 50 ถุง เมื่อนำออกมา พบว่าภายในถุงดำบรรจุยาบ้า ประมาณถุงละ 100,000 เม็ด รวมทั้งหมดประมาณ 5,020,000 เม็ด
ขณะที่ นายสุเนตร์ฯ ผู้ขับรถคันดังกล่าว รับสารภาพว่าได้ลักลอบขนยาเสพติดมาแล้ว 2 ครั้ง โดยได้รับค่าจ้างครั้งละ 300,000 บาท โดยเดินทางไปรับยาเสพติดมาจากจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อจะนำไปส่ง ยังจังหวัดนครศรีธรรมราช ในการเดินทางแต่ละครั้งจะมีรถนำทางและคอยบอกเส้นทางผ่านแอปพลิเคชันไลน์ส่วนตัว ว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่หรือตั้งด่านอยู่หรือไม่ ก่อนจะยินยอมตอบคำถามเจ้าหน้าที่บอกถึงทะเบียนรถนำ ชุดจับกุมจึงได้ตรวจสอบในระบบข้อมูล พบว่ารถคันดังกล่าวกำลังวิ่งมุ่งหน้าลงใต้ ผ่านพื้นที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพร เพื่อจะเดินทางต่อไปยัง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นพื้นที่บ้านเกิดของคนขับรถนำ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงประสานข้อมูลระหว่างกัน
กระทั่งสามารถตรวจพบรถคันดังกล่าววิ่งอยู่บนถนนเส้นรอง สาย 4134 บริเวณ ต.บ้านควน อ.หลังสวน จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งสัญญาณให้รถคันดังกล่าวจอด แต่เมื่อรถคันดังกล่าวพบว่ามีเจ้าหน้าที่ไล่ติดตาม กลับเร่งเครื่องหลบหนีการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งไล่ติดตามไปจนทัน  แต่พบว่ารถคันดังกล่าวได้ชะลอความเร็วของรถและปล่อยให้รถพุ่งตกลงข้างทาง  ขณะที่คนขับได้เปิดประตูรถวิ่งหลบหนีทันที เจ้าหน้าที่จึงได้จอดรถและรีบวิ่งติดตามไป ก่อนจะจับกุมตัวได้ 1 นาย ทราบชื่อ คือนายดิศวัฒน์ ขณะที่อีก 1 นาย ได้อาศัยความมืดและเส้นทางที่เป็นป่ารกทึบหลบหนีไปได้


เบื้องต้นได้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 2 รายทราบ ก่อนส่งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.ทำการควบคุมตัวผู้ต้องหา พร้อมเตรียมขยายผลให้ครบทั้งขบวนการต่อไป