รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 แถลงสรุปคดีโจรกรรมอาวุธปืนครั้งใหญ่จากร้านปืนตามยึดอาวุธปืนคืนมาได้ครบทั้ง 37 กระบอกและรวบผู้ต้องหาได้ยกแกงค์ 5 คน เป็นคดีโจรกรรมอาวุธปืนที่มากที่สุดใน จ.สงขลา และเจ้าหน้าที่่สามารถตามปืนคืนมาได้ทัน เพราะหากถูกนำไปขายต่ออาจจะนำไปใช้ก่อเหตุอาชญากรรมได้
วันนี้ ( 7 พ.ค.67 )ที่ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พล.ต.ต.ภรศักดิ์ นวนหนู รอง ผบช.ภาค 9 ,พล.ต.ต.นิตินัย หลังยาหน่าย รอง ผบช.ภาค 9 ,พล.ต.ต.เชาวลิต เลี้ยงสุพงศ์ ผบก.ภ.จว.สงขลา ,พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ ผกก.สภ.หาดใหญ่ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอหาดใหญ่
ร่วมกันแถลงข่าวสรุปคดีแกงค์โจรกรรมอาวุธปืน ที่ขโมยมาจากร้านขายปืนยูเนี่ยนไฟร์อาร์มส์ ตั้งอยู่ถนนเลียบคลองเตย ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเคยเป็นร้านขายปืนขนาดใหญ่ แต่ได้เลิกกิจการไปแล้ว โดยคนร้ายได้ลงมือก่อเหตุต่อเนื่องกันถึง 3 คืนติดๆตั้งแต่วันที่ 4 วันที่ 5 และวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา และเป็นการโจรกรรมอาวุธปืนที่มากที่สุดในพื้นที่ จ.สงขลา
พล.ต.ต.ภรศักดิ์ นวนหนู รอง ผบช.ภาค 9 เปิดเผยว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ยกแกงค์รวม 5 คน ประกอบด้วย นายอัจฉริยะ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี นายสมศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี นายวัชรพร(สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี นายสมชาย(สงวนนามสกุล)อายุ 34 ปี และนายสบประสงค์(สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี
และยึดอาวุธปืนคืนมาได้ทั้งหมดจำนวน 37 กระบอก เป็นอาวุธปืนสั้น 6 กระบอก และอาวุธปืนยาว 31 กระบอก และเป็นปืนขนาด .22 และปืนสั้น ไม่มีอาวุธปืนสงคราม
โดยมี 3 คนที่เข้าไปก่อเหตุโจรกรรมปืนคือ นายอัจฉริยะ นายสมชาย และนายวัชรพล ส่วนอีก 2 คน คือ สมศักดิ์ กับ นายสบประสงค์ เป็นนายหน้านำอาวุธปืนไปขาย
คดีนี้เริ่มจากเมื่อช่วงตี 2 คืนวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา ตำรวจสายตรวจสภ.หาดใหญ่ ได้ร่วมกันจับกุม นายอัจฉริยะ ขณะกำลังขนอาวุธปืนยาวจำนวน 15 กระบอกมากับรถจักรยานยนต์สามล้อพ่วงข้าง พร้อมเครื่องกระสุนอีกหลายชนิด
และถูกตำรวจสายตรวจไปพบและตรวจค้นที่บริเวณที่ดินว่างข้างกำแพง สำนักสงฆ์แก้วสว่าง ถนนคึกฤทธิ์ ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ ส่วนเพื่อนอีก 2 คนหลบหนีไปได้
ตำรวจจึงได้สอบสวนขยายผลและพบว่าขโมยมาจากร้านขายปืนยูเนี่ยนไฟร์อาร์มส์ และไปตรวจที่เกิดเหตุพบร่องรอยการงัดแงะ อาวุธปืนที่ยังขนออกมาไม่หมด ชะแลงคีมที่ใช้งัดแงะรวมทั้งร่องรอยของการงัดตู้เซฟขนาดใหญ่ที่เก็บปืนแต่ยังงัดไม่ออก
ทางชุดสืบสวน สภ.หาดใหญ่ และชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา จึงได้ขยายผลจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุได้ทั้งหมด 5 คน และตามยึดปืนที่นำไปซุกซ่อนไว้ได้คืนครบทั้งหมดจำนวน 37 กระบอก โดยผู้ต้องหาทั้ง 5 คนก็ยอมรับสารภาพโดยบอกว่าเตรียมเอาไปขายกระบอกละ 2-3 หมื่นบาท
พล.ต.ต.ภรศักดิ์ นวนหนู รอง ผบช.ภาค9 กล่าวว่า พฤติกรรมของคนร้ายกลุ่มนี้จะเลือกเป้าหมายบ้านที่ไม่มีคนอยู่อาศัยหรือทิ้งบ้านไว้เป็นเวลานานและเป็นบ้านที่ดูแล้วว่ามีฐานะหรือน่าจะมีทรัพย์สินในบ้านและลงมือเข้าไปลักทรัพย์
คดีนี้โชคดีที่ตำรวจสายตรวจพบก่อนสามารถตามปืนคืนมาได้ทั้งหมดและจับผู้ต้องหาได้ยกแกงค์ เพราะหากปืนถูกขายต่อออกไปเสี่ยงที่อาจจะเอาไปก่อเหตุอาชญากรรมได้
ด้านพ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ ผกก.สภ.หาดใหญ่ กล่าวว่า ในทางคดีหลังจากนี้จะให้ทางฝ่ายปกครองอำเภอหาดใหญ่ตรวจสอบรายละเอียดอาวุธปืนทั้ง37 กระบอก หากเป็นปืนถูกต้องก็จะคืนให้เจ้าของปืนต่อไป
ส่วนผู้ต้องหาทั้ง5คน ถูกแจ้งข้อหา"ร่วมกับพวกที่หลบหนีมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร
และคดีนี้ทางรองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 ได้ยังมอบรางวัลเป็นกำลังใจให้กับตำรวจสายตรวจ สภ.หาดใหญ่ ที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาเอาไว้ได้ขณะกำลังขนปืนและเป็นที่มาของการสอบสวนขยายผลจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้และติดตามอาวุธปืนที่ถูกขโมยไปคืนมาได้ทั้งหมด