ที่ บก.สส.บช.น. วันที่ 7 พ ค.67 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เปิดเผยว่า ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. , พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามจับกุมอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริต รถจักรยานที่จอดไว้ตลาดสำเพ็งสูญหายไป จากการสืบสวนพบว่าคนร้ายมี 2 คนใช้วิธีถีบคอรถ แล้วถอดเปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียนเพื่อหลบเลี่ยงจากถูกจับกุม แต่สุดท้ายไม่รอด
เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2567 พล.ต.ท. ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก สส.ฯ, พ.ต.อ.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุญยมานนท์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ และ พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.สส.3ฯ ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.วรุตม์ คำหล้า สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมด้วย ร.ต.อ.พิชชากร กองสวัสดิ์, ร.ต.อ.พงศธร อารีย์ รอง สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น.ชุดปฏิบัติการที่ 3 จับกุม นายวุฒิชัย เสนสม อายุ 22 ปีที่อยู่บ้านเลขที่ 62 ซ.รังสิต-นครนายก 56 ซอย 1 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.440/2567 ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2567 และนายอกนิษฐ์หรือกาย แก่นจ้าย อายุ 21 ปี ที่อยู่ 335/37 ช.สายไหม 33/1 แขวงสายไหม เขตสายไหม กทม. ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.439/2567 ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือ การพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม" โดยจับกุมผู้ต้องหาที่ 1 ที่ บริเวณข้างโรงแรม ซอยรังสิต - นครนายก 14 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี และ ที่ บริเวณหน้าบ้าน ซ.รังสิต-นครนายก 47 ม.ศรีประจักษ์ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
พล.ต.ต.ธีเดช กล่าวพฤติการณ์ในคดี เมื่อวันที่ 27 มี.ค.2567 นายกาย (นาย อกนิษฐ์) ได้มาหานายวุฒิชัยฯ เพื่อชักชวนขับขี่รถจักรยานยนต์ ไปสำเพ็ง ถนนเยาวราช พื้นที่ สน.จักรวรรดิ ต่อมา ช่วงเวลาประมาณ 5ทุ่ม - เที่ยงคืน ได้เจอรถจักรยานยนต์ Pcx สีเทา-ดำ ของผู้เสียหายจอดอยู่บริเวณตลาดสำเพ็งโดย"ไม่ได้ล็อคคอรถ" จึงได้ทำการลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ดังกล่าว ให้เพื่อนขึ้นคล่อมรถจักรยานยนต์ แล้วนายกายใช้เท้ายันรถเพื่อนำกลับไปบ้านพัก และถอดแผ่นป้ายทะเบียนออก โยนแผ่นป้ายทะเบียนทิ้ง เพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตาม จากนั้นชำแหละ ขายเป็นอะไหล่ขายมือสอง ในเพจ เมื่อขายได้ จึงแบ่งเงินกันประมาณคนละประมาณ 4,000 ถึง 5,000 บาท
จากการตรวจสอบประวัตินายกาย เมื่อปี 2566 เคยก่อเหตุ 2 ครั้ง คือ ลักรถจักรยานยนต์ ในเมืองทองธานี พื้นที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และลักทรัพย์สินภายในบ้านผู้เสียหาย มูลค่าประมาณ 70,000 บาท พื้นที่ สภ.ประตูน้ำจุฬา จ.ปทุมธานี
จากการสอบสวน นายวุฒิชัยได้ให้การว่า วันที่ 27 มี.ค.2567 ว่านายอกนิษฐ์ฯได้เดินทางมาหาตนที่โรงแรมดังกล่าวฯซึ่งเป็นเวลาเลิกงานของตนพอดีจากนั้นจึงได้ชักชวนไปเอารถจักรยานยนต์ เพื่อที่นายอกนิษฐ์จะได้จ่ายหนี้ที่ค้างกับตนไว้จำนวนเงิน 4,000 บาท ที่ตลาดสำเพ็ง ถ.เยาวราช โดยใช้รถจักรยานยนต์ Honda wave ของตนและได้เจอรถจักรยานยนต์ Pcx สีเทา-ดำ จอดไว้บริเวณตลาดสำเพ็ง นายอกนิษฐ์จึงได้บอกตนว่าขึ้นคล่อมรถจักรยานยนต์ดังกล่าวมาที่หมู่บ้านฯของนายอกนิษฐ์โดยใช้เท้ายันรถ ตนจึงทราบว่าเป็นรถที่ถูกลักทรัพย์มาจากนั้นนายอกนิษฐ์ได้ให้ตนถอดแผ่นป้ายทะเบียนออกเพื่อกันตำรวจเห็น แล้วจึงโยนแผ่นป้ายทะเบียนทิ้งหลังจากนั้นจึงได้แยกย้ายกัน และนายวุฒิชัยให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหาตามหมายจับ
นายอกนิษฐ์ ให้การสอดคล้องรับว่าไปขโมยรถจริง และนำรถมาชำแหละอะไหล่ขายมือ2 ในเพจ Facebook กลุ่ม Pcx ซื้อขายของ จากนั้นจึงได้ทำการแบ่งเงินกันกับนายวุฒิชัยเป็นจำนวนคนละประมาณ 5,000 บาท และนายอกนิษฐ์ฯให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหาตามหมายจับ นำตัวผู้ต้องหาส่ง พนักงานสอบสวน สน.จักรวรรดิ ดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ฝากเตือนประชาชนให้คอยระมัดระวังในการจอดรถ จยย. ต้องล็อคคอรถ รวมถึง ใช้โซ่คล้องล้อ หรือ ดิสเบรค ไม่จอดในที่เปลี่ยวลับตาคน จอดในที่ปลอดภัย มีกล้องวงจรปิด เพื่อให้ยากต่อการโจรกรรมของคนร้าย ส่วนผู้ที่ซื้อนิยมซื้ออะไหล่รถมือสองผ่านออนไลน์ ก็ควรตรวจสอบให้ดี ควรระวัง อาจไปรับซื้อของที่ขโมยมา โดนข้อหารับของโจรได้อีกด้วย ดังนั้นควรตรวจสอบประวัติการซื้อขายของบุคคล หรือร้านค้าให้ดีก่อน