กองทัพคาเรนนี ยืนยัน ฮ.เมียนมาตกจริง

วันที่ 7 พ.ค.67 แหล่งข่าวผู้นำระดับสูงกองกำลังกะเหรี่ยงคาเรนนี KA เปิดเผยว่า เฮลิคอปเตอร์ของทหารเมียนมาที่ถูกยิงตก เป็น เฮลิคอปเตอร์ รุ่น MI 2 เป็นเฮลิคอปเตอร์จู่โจม ขณะที่กำลังบินมารับทหารเมียนมาที่ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบที่ค่ายผาซอง อ.ผาซอง จ.ลอยก่อว์ โดยในการปฏิบัติการนำ ฮ.มารับผู้บาดเจ็บจากการสู้รบของทหารเมียนมา จำนวน 2 ลำ โดยอีก 1 ลำ บรรทุกอาวุธกระสุนมาเสริมให้กับ กองพันทหารราบ 135 ค่ายผาซอง และได้มีการส่งเครื่องบินอีก 1 ลำมาคอยคุ้มกัน ได้แก่เครื่องบินโจมตีแบบ K-8 ทันทีที่เฮลิคอปเตอร์ลำแรกถูกยิง นักบินได้พยายามประคองเครื่องบินกลับไปที่ตั้ง กองบัญชาการควบคุมทางยุทธวิธีเมืองบอลาแคะ แต่ได้ตกเสียก่อนที่จะถึงค่ายบอลาแคะ โดย เฮลิคอปเตอร์อีก 1 ลำบินตามไป และ เครื่องบิน K-8 บินคุ้มกัน ทันทีที่เครื่องบินคันดังกล่าวตกสู่พื้นที่ ทหารเมียนมาที่อยู่ใกล้เคียงได้นำกำลังไปคุ้มกัน รปภ.พื้นที่เกิดเหตุและช่วยเหลือคนเจ็บ โดย มีผู้บาดเจ็บ 2 นาย และเสียชีวิต 5 นาย

ก่อนหน้านั้นทางฝ่ายกองกำลังผสม คาเรนนี ประกอบด้วย KA , KNDF , KNSO ( ดาวขาว )  , PDF และ KNPLF ( ดาวแดง ) ได้รับข้อมูลข่าวกรองทางทหารมาว่า ทหารเมียนมาจะส่งเฮลิคอปเตอร์ มาส่งเสบียงอาหาร อาวุธและกระสุน และมารับทหารที่บาดเจ็บจากการสู้รบของ กองพันทหารราบที่ 134 และ 135 ค่ายผาซอง ทางกองกำลังผสม จึงได้มีการวางแผน นำกำลังส่วนใหญ่ไปซุ่มทางด้านทิศตะวันตกของสนามจอดเฮลิคอปเตอร์ของทหารเมียนมา ส่วนกองกำลัง KNPLF ได้นำรถบรรทุกดัดแปลงติดปืนกลต่อสู้อากาศยาน ( ปก.93 ) ขนาด .50 คาลิเบอร์ไปดักซุ่มด้านทิศตะวันออก จุดที่เฮลิคอปเตอร์จะบินผ่านเพื่อลงยังลานจอด เมื่อ ฮ.คันดังกล่าวบินผ่านมาในระดับต่ำจึงถูกยิงเข้าที่ห้องเครื่อง และพยายามบินหนีกลับแต่ก็ตกก่อนถึงค่ายบก.ยุทธศาสตร์บอลาแคะ

สำหรับค่ายผาซอง เป็นค่ายทหารเมียนมาประจำเมืองผาซอง เป็นค่ายที่มีแนวป้องกันแข็งแกร่ง ยากที่จะบุกเข้ายึดได้โดยง่าย เนื่องจากแนวรอบค่ายดังกล่าว ทหารเมียนมาได้มีการวางกับระเบิดนานาชนิดไว้อย่างหนาแน่นและทำให้กำลังพลของกองกำลังผสม สูญเสียไปเป็นจำนวนมากเมื่อบุกเข้าไป ทางฝ่ายกองกำลังผสมทำได้แค่ทำการปิดล้อมและซุ่มยิงโจมตีด้วยสไนเปอร์ โดยมีการก่อกวนค่ายทหารเมียนมาค่ายผาซองมาต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 2 เดือนแล้ว