วันที่ 7 พ.ค 2567  เวลา 08.15 น.  ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและรมว.คลัง  ได้เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล เป็นคนแรก  โดยได้มาไหว้ศาลพระภูมิ และศาลตายาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล เพื่อความเป็นสิริมงคลในการทำงาน 

โดยนายพิชัย ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เป็นวันแรกของการเข้าทำงาน ซึ่งตนจะทำงานทั้งสองที่คือที่ทำเนียบรัฐบาล และกระทรวงการคลัง โดยเรื่องเร่งด่วนตนทราบอยู่แล้วว่าคืออะไร จะใช้หน้าที่และความรับผิดชอบที่มีในการแก้ปัญหา ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ   

เมื่อถามว่าในสัปดาห์นี้จะมีการประชุมคณะกรรมการดิจิทัล วอลเล็ตหรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่าส่วนนี้คืองานประจำอยู่แล้ว  ก็คงจะมีการพูดคุยกันเพื่อรายงานความคืบหน้าตลอดเวลา  

เมื่อถามว่าการแบ่งงานจะมีการคุยกัน ส่วนแนวทางในการทำงานด้านเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร นายพิชัย กล่าวว่าปัญหาในเรื่องเศรษฐกิจทุกคนทราบเหมือนกัน  ไม่ว่าจะอยู่ในอาชีพใด ทุกคนเห็นปัญหาเหมือนกัน แม้วิธีคิดต่าง มองปัญหาต่างมุม แก้ปัญหาต่างกัน  จึงจะต้องหาข้อยุติเพื่อให้ตกผลึก แล้วพยายามทำให้ทุกคนเข้าใจร่วมกันให้มากที่สุด และนำมาซึ่งแนวปฎิบัติที่ดีที่สุด 


นายพิชัย  ยังกล่าวถึงปัญหาความเห็นต่างระหว่างรัฐบาลกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยว่า เป็นเรื่องปกติ ซึ่งเป็นหน้าที่และความผิดชอบร่วมกันกับแบงค์ชาติ เพื่อผลักดันให้เครื่องจักรสองเครื่องไปด้วยกัน ทั้งนโยบายการเงิน การคลัง ให้สอดคล้องเดินไปด้วยกัน แต่ก่อนที่จะเดินไปได้ต้องทำความเข้าใจและตกผลึกว่าปัญหาที่แท้จริงคืออะไร

"ผมจะต้องเข้าไปพูดคุย เพราะเป็นหน้าที่อยู่แล้ว ส่วนจะยากหรือไม่ในการพูดคุย ปกติตนก็คุยและเชื่อมั่นผู้ว่าฯธปท. คงจะคุยกันด้วยเหตุและผล   ซึ่งในอดีตก็ได้เคยสัมผัสกับผู้ว่าฯ ธปท. มาบ้างในช่วงที่อยู่ในภาคธุรกิจ ซึ่งน่าจะ พูดคุยและใกล้เคียงกัน ได้ด้วยเหตุและผล"รมว.คลัง กล่าว

เมื่อถามว่ามีกระแสการแก้กฎหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของนายกฯ นั้น นายพิชัย กล่าวว่า มาดูอีกทีดีกว่าว่า มันใช่ปัญหาหรือไม่ เช่นเดียวกับกระแสต่อต้านว่าธนาคารแห่งประเทศไทยต้องเป็นอิสระ ก็เป็นธรรมชาติ เราทุกคนย่อมมีความเห็นต่าง แต่ถ้าคุยกันแล้วตกผลึกได้ ความเห็นต่างก็จะค่อยๆ แคบลง นำมาซึ่งข้อสรุปที่ดี  

เมื่อถามว่าในฐานะที่เป็นรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลเศรษฐกิจ  ธนาคารแห่งประเทศไทย ควรจะเป็นอิสระหรือไม่ นายพิชัย  กล่าวว่า ท่านอิสระอยู่แล้วในเรื่องนโยบายการเงิน ความอิสระมีมาตลอด คิดว่า สามารถกำหนดและตัดสินด้วยวิจารณญาณ แต่ทั้งหมดจะต้องเป็นนโยบายที่สนับสนุนภาครัฐ  

นายพิชัยไม่ขอตอบว่าปัญหาความขัดแย้งทางความคิดระหว่างนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกับผู้ว่าฯ ธปท.จะหมดไปหรือไม่ โดยขอหารือก่อน ส่วนจะมีโปรเจคอะไรใหม่ในการช่วยเหลือประชาชน กำลังหา เพื่อทำคู่ขนานไปกับปัญหาเดิมจะต้องทำให้ประชาชนมีส่วนร่วม ถ้าเราสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ เพื่อให้มีแรงช่วยกันขับเคลื่อน จะเป็นวิถีทางที่ดีที่สุด