สำหรับเทศกาลสงกรานต์อันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทยประจำปี 2567 ได้ขยายเวลาเวลาการจัดงานทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1-21 เมษายน หลังจากที่ยูเนสโก (UNESCO) ประกาศให้เทศกาลสงกรานต์เป็น “มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ” โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของประเพณีนี้ในการส่งเสริมความร่วมมือในชุมชน ความผูกพันธ์ครอบครัว และการให้อภัย บนเว็บไซต์ของยูเนสโกระบุว่า การเล่นน้ำวันสงกรานต์หมายถึงการล้างความโชคร้ายออกไป การนำพาความเจริญรุ่งเรืองเข้ามา และเป็นการแสดงความเคารพต่อบรรพบุรุษ ซึ่งเป็นเครื่องหมายของการคงอยู่และมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศไทย ซึ่งถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงศักยภาพของประเพณีไทยอันยั่งยืนและ ‘Soft Power’ ของประเทศไทยที่ได้รับการสนับสนุนบนเวทีโลก

เชียงใหม่

โดยทราเวลโลก้าขานรับการขยายเวลาเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์อย่างเต็มที่ โดยเข้าใจถึงบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเบื้องหลังความเจริญรุ่งเรืองของการท่องเที่ยวในประเทศไทย การเฉลิมฉลองที่ผ่านมาไม่เพียงแต่ทำให้นักท่องเที่ยวมีความตื่นเต้นที่จะได้มาร่วมงาน แต่ยังทำให้ประเทศไทยมีชื่อเสียงในภูมิภาคเอเชียในฐานะจุดหมายปลายทางที่ห้ามพลาด และต้องได้มาสัมผัสประสบการณ์การผจญภัยทางวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งและน่าจดจำ

สำหรับจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย ได้ถูกจัดให้เป็นสถานที่เล่นน้ำสงกรานต์แบบทันสมัย เน้นความสนุกสนานเป็นหลัก บ่งบอกถึงความมีชีวิตชีวาและเสน่ห์ของวัฒนธรรมไทยที่ช่วยส่งเสริมให้ประเทศกลายเป็นจุดหมายปลายทางด้านวัฒนธรรมอันดับต้น ๆ สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก การจัดกิจกรรมต่าง ๆ ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศมารวมตัวกันในช่วงเวลา 21 วันของเทศกาลสงกรานต์เป็นตัวแปรสำคัญทางเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดการจ้างงานในหลายภาคส่วน เช่น อุตสาหกรรมการบริการ การคมนาคม การค้าปลีก และความบันเทิง

หาดใหญ่

โดย กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า เทศกาลสงกรานต์ที่ขยายเวลาออกไปในปีนี้ สร้างรายได้รวม 140,335 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 1-21 เมษายน สูงกว่ายอดการคาดการณ์ก่อนจัดงาน แบ่งออกเป็น ค่าที่พัก 42,069 ล้านบาท ค่าอาหาร เครื่องดื่ม 33,069 ล้านบาท ค่าซื้อสินค้า ของที่ระลึก 26,839 ล้านบาท ค่าเดินทาง 15,505 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายบันเทิง 14,758 ล้านบาท ค่าบริการท่องเที่ยว 5,865 ล้านบาท และอื่นๆ 2,230 ล้านบาท

จากข้อมูลของ ทราเวลโลก้า ยอดการค้นหาเที่ยวบินในประเทศพุ่งสูงขึ้นตั้งแต่วันที่ 8-21 เมษายน กว่า 60% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของเดือนมีนาคม นอกจากนี้ ยังมี 5 อันดับจุดหมายปลายทางภายในประเทศที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในช่วงสงกรานต์ปี 2567 เพื่อประเมินการมีส่วนช่วยในการยกระดับสาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย

ภูเก็ต

ทั้งนี้ อันดับแรก คือ กรุงเทพฯ เป็น ศูนย์กลางการจัดงานสังสรรค์บนถนน และประสบการณ์ทางวัฒนธรรม อันดับที่สอง คือ เชียงใหม่ ขึ้นชื่อเรื่องสีสันของขบวนพาเหรด พิธีกรรมดั้งเดิม และการเฉลิมฉลองแบบท้องถิ่น อันดับที่สาม หาดใหญ่ เป็นการเล่นน้ำยามค่ำคืนในตัวเมืองพร้อมปาร์ตี้โฟมและคอนเสิร์ต อันดับที่สี่ ภูเก็ตคือ การผสมผสานระหว่างความสนุกสนานริมชายหาดและการเฉลิมฉลองทางวัฒนธรรม อันดับที่ห้า อุดรธานี ดื่มด่ำไปกับความสง่างามทางประวัติศาสตร์และพิธีกรรมระดับภูมิภาค

อีกทั้งในปีนี้ เสน่ห์และสีสันของงานสังสรรค์บนถนน ขบวนพาเหรดอันน่าหลงใหล และบรรยากาศอันน่าตื่นเต้นที่แสดงให้เห็นถึงพลังทางวัฒนธรรมอันมั่งคั่งของ Soft Power ไทย ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาร่วมกิจกรรม โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า งาน “Maha Songkran World Water Festival 2024 เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์” มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 780,000 คน สร้างรายได้กว่า 2,880 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 11-15 เมษายน นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับกิจกรรมรื่นเริงต่าง ๆ เช่น ขบวนพาเหรดสุดอลังการ คอนเสิร์ต EDM การแสดงน้ำพุเต้นรำที่สูงที่สุดในประเทศไทย และการแสดงโดรนพร้อมทำนองเพลงกว่า 1,200 ตัว

อุดรธานี

ขณะที่ ทราเวลโลก้าได้ใช้ประโยชน์จากยอดการเข้าถึงและอิทธิพลของแพลตฟอร์มเพื่อส่งเสริมให้เทศกาลสงกรานต์เป็นหัวใจสำคัญของฤดูการท่องเที่ยวประจำปีของประเทศไทย โดยจะทำให้ฝันของนักท่องเที่ยวทั่วโลกเป็นจริง และสร้างแรงบันดาลใจให้เข้าร่วมกิจกรรมของไทยในอนาคตผ่านเนื้อหาที่น่าสนใจ ประสบการณ์ที่ดื่มด่ำ และการส่งเสริมการขายเชิงกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง แพลตฟอร์มเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาร่วมสืบสานประสบการณ์ทางวัฒนธรรมในเทศกาลถัดไปที่กำลังจัดขึ้นทั่วประเทศไทยในปี 2567 และในอนาคต