ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.ชัชวาล ชูชัยเจริญ ผกก.๒ บก.ปอศ.,พ.ต.อ.จักรกริช เสรีบุตร  รอง ผบก.ปอศ. และ พ.ต.ท.วันเผด็จ จันยะรมณ์ รอง ผกก.2 บก.ปอศ.เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.หญิง วณิชยา ไชยปรุง สว.กก.2 บก.ปอศ., ร.ต.อ.หญิง ชนิสรา หนองหารพิทักษ์ รอง สว.กก.2 บก.ปอศ., ด.ต.นัทธี ตั้งจิตพินิจกุล , ด.ต.วรวุฒิ ลักขณา, จ.ส.ต.ภัทรพล  สุขรัตน์ และ  ส.ต.อ.ชัยวัฒน์ มหาโพธิ์ ผบ.หมู่ กก.2 บก.ปอศ.ร่วมกันจับกุม นายพีรพันธ์  อายุ 38​ ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ จ. 224/2566 ลงวันที่ 26 เมษยน 2566  ในความผิดฐาน “ฉ้อโกง, ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบคอมพิวเตอร์ซึ่งอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”สถานที่จับกุม ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง
 


พฤติการณ์ สืบเนื่องจากทางตำรวจสอบสวนกลาง​ (CIB) ได้ทำการสืบสวนสอบสวนเพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์ที่มีมากในปัจจุบัน ตามปฏิบัติการ Anti Online scame (AOC) อย่างต่อเนื่อง ซึ่งต่อมาทางตำรวจสอบสวนกลาง​ (CIB) โดย กก.2 บก.ปอศ. ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายพีรพันธ์ ผู้ต้องหา เป็นบุคคลในบัญชีแบล็คลิสที่มีพฤติการณ์รับจ้างเปิดบัญชีม้าให้กับขบวนการหลอกลงทุนในเงินดิจิทัลและเว็บพนัน โดยมีผู้เสียหายจำนวนหนึ่งได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาซึ่งเป็นเจ้าของบัญชี และกลุ่มที่ร่วมกันก่อเหตุ

ต่อมาพนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว และภายหลังสืบทราบว่านายพีรพันธ์ ผู้ต้องหา พักอาศัยอยู่บริเวณ ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบ เมื่อพบผู้ต้องหาจึงได้เข้าแสดงตัวและจับกุมบริเวณดังกล่าว โดยขณะเข้าจับกุมพบผู้ต้องหากำลังทำการซื้อขายหุ้น เนื่องจากทางผู้ต้องหามีความรู้เรื่องการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลและการลงทุนในหุ้นทั้งในและต่างประเทศ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านเป็ด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
 
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเปิดบัญชีม้าเพื่อแลกกับเงินค่าจ้าง 700 – 1,000 บาท ต่อ 1 บัญชี ซึ่งตนได้ขายไปทั้งหมดประมาณ 7 บัญชี ให้กับคนที่รู้จักซึ่งน่าจะเป็นขบวนการหลอกลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลและเว็ปพนัน


 
ทั้งนี้ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ จะยังคงดำเนินการตามมาตรการเชิงรุก ป้องกันปราบปรามและจับกุมผู้กระทำความผิด โดยเน้นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน จากการถูกหลอกลวงฉ้อโกงออนไลน์ รวมถึงป้องกันปราบในคดีที่เกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์และเทคโนโลยีทุกรูปแบบ