เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 5 พ.ค.67 ร้อยตรีประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ไฟไหม้โกดังกระดาษรีไซเคิล บริษัท ปัญจพลไฟเบอร์ คอนเทนเนอร์ จำกัด (สาขาบางปลา) ตั้งอยู่เลขที่ 110/4 ม.4 ต.บ้านเกาะ อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นบริษัทผลิตกล่องกระดาษลูกฟูก และมีเชื้อเพลิงเป็นกระดาษกว่า 20,000 ตัน ได้ลงพื้นที่ควบคุมปฏิบัติการดับไฟ โดยมีนายชาตรี โพธิ์อบ นายก ทต.บางปลา นายวัฒนา พรประเสริฐ ผอ.ทสจ.สมุทรสาคร ผู้ประกอบการโรงงาน ผู้แทนจากสมาคมผู้ตรวจสอบอาคาร และสภาวิศวกร ร่วมติดตามความคืบหน้า และเป็นกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่จากทุกหน่วยงานที่มาร่วมกันดับเพลิงในครั้งนี้ ซึ่งก็มีทั้ง เจ้าหน้าที่พร้อมรถดับเพลิงจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ในจังหวัดสมุทรสาคร กรุงเทพฯ และพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 1 ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงบางขุนนนท์ กองปฏิบัติการดับเพลิงและกู้ภัย 5 เจ้าหน้าที่ อปพร. นอกจากนี้ยังมีกำลังทหารกองทัพบก จากกองพันทหารสื่อสารที่ 102 กรมทหารสื่อสารที่ 1 ค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร และ เจ้าหน้าที่ป่อเต็กตึ๊ง ที่ได้มาช่วยกันเป็นกำลังสนับสนุนปฏิบัติภารกิจ ตามที่ได้รับมอบหมาย
ร้อยตรีประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าการดับเพลิงในช่วงโค้งสุดท้ายนี้ เรียกได้ว่ารุดหน้าไปแล้วราวๆ 90 เปอร์เซ็นต์ เพราะทุกฝ่ายทำตามแผนที่วางไว้ คือ แบ่งกันดับไฟในแต่ละโซน A – D ตอนนี้รอให้รถแบ็คโฮเข้ามาสนับสนุนเพิ่ม เพื่อทางเจ้าหน้าที่จะได้ฉีดน้ำดับไฟได้ง่ายขึ้นและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้คาดว่าภายในค่ำคืนนี้ ทางเจ้าหน้าที่จะสามารถดับแสงเพลิงที่ลุกไหม้อยู่บนกองกระดาษให้มอดลงทั้งหมดได้ จากนั้นก็เป็นแผนในการเฝ้าสังเกตการณ์ต่ออีก 48 ชั่วโมง โดยจะแบ่งเป็น ภายใน 24 ชั่วโมงแรก เป็นการเฝ้าระวังว่า จะยังคงมีจุดความร้อนหลงเหลืออยู่ตรงไหนอีกหรือไม่ หากพบก็จะให้เจ้าหน้าที่พร้อมกับรถแบ็คโฮ เข้าไปขุดคุ้ยฉีดน้ำทันที และอีก 24 ชั่วโมงถัดมา เป็นการเฝ้าระวังว่าจะเกิดการปะทุขึ้นใหม่หรือไม่ ซึ่งเมื่อทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีตามแผนปฏิบัติการ ก็จะส่งมอบพื้นที่คืนให้แก่ทางเทศบาลตำบลบางปลา และทางสถานประกอบการ เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบต่อไป ส่วนเจ้าหน้าที่ๆ ปฏิบัติงานทั้งหมด ก็จะเดินทางกลับไปยังหน่วยงานของตนเอง ขณะที่ความเสียหายที่เกิดขึ้น ณ ตอนนี้ ก็เป็นทางด้านของโครงสร้างอาคารโกดัง และ กระดาษที่เก็บกองไว้ทั้งหมด
นอกจากนี้ ในด้านของผลกระทบที่เกิดจากเหตุไฟไหม้ในครั้งนี้ ด้วยกระดาษที่ถูกไฟเผาไหม้นั้น 1 ใน 3 ของกระดาษทั้งหมด เป็นกระดาษบริสุทธิ์ และที่เหลืออีก 2 ส่วนเป็นกระดาษน้ำตาลเกรดเอ ที่ผ่านการคัดแยกมาแล้ว จึงไม่มีผลกระทบในเรื่องของสารเคมี แต่อย่างไรก็ตามย่อมส่งผลกระทบในเรื่องของฝุ่นละอองที่ปลิวไปตามลม ดังนั้นจึงได้มีการสั่งการให้ทางเทศบาลตำบลบางปลา จัดส่งเจ้าหน้าที่ของเทศบาล สนธิความร่วมมือกับ อสม.ในพื้นที่ ออกสำรวจผลกระทบที่เกิดกับพี่น้องประชาชนที่อยู่ติดกับโรงงาน และรัศมีโดยรอบที่คาดว่าอาจจะได้รับผลกระทบ เพื่อที่จะได้นำข้อมูลทั้งหมดมาพิจารณาเยียวยาช่วยเหลือต่อไป
ทางด้านตัวแทนสถานประกอบการก็บอกว่า ทางด้านของโรงงานก็ต้องขออภัยกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ และพร้อมที่จะดูแลประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบกับเหตุการณ์ครั้งนี้โดยขอให้แจ้งไปที่ทางอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อจะได้ทราบตัวเลขของผู้ที่ได้รับผลกระทบในการดูแลต่อไปสำหรับมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งกับตัวโครงสร้างของอาคารโกดัง และกระดาษที่เก็บกองอยู่ภายในโกดังทั้งหมดซึ่งมีกระดาษบริสุทธิ์ประมาณ 9,000 ตัน และที่เหลือเป็นกระดาษน้ำตาลเกรด A นั้น คิดเป็นมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาทไม่รวมโครงสร้างอาคารและเครื่องจักร
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ในส่วนของการดูแลสุขภาพเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานนั้น ทางด้านของผู้บัญชาการเหตุการณ์ นอกจากจะได้ร่วมมือกับ กรมควบคุมมลพิษ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดสมุทรสาคร เข้ามาตรวจสอบคุณภาพอากาศและน้ำแล้ว ยังได้ประสานความร่วมมือกับทางโรงงานจัดพื้นที่พักผ่อนเพื่อคลายความตรึงเครียดให้แก่ผู้ที่มีความอ่อนล้าในการทำงาน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร เข้ามาตรวจสุขภาพร่างกายให้แก่ทุกคน และ มีการจัดครัวจิตอาสาคอยปรุงอาหารให้เจ้าหน้าที่ได้รับประทานกันตลอด 24 ชั่วโมง