ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ค.67  พ.ต.ต.วิทวัฒน์ แก้วเหลา พนักงานสอบสวนเวรสภ.ศีขรภูมิจ.สุรินทร์ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนเข้าไปลักทรัพย์ของชาวบ้านหนองเหล็กม.5 ต.หนองเหล็กอ.ศีขรภูมิจ.สุรินทร์ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุพบนางถาวร  อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านและยายเบ้า อายุ85ปีซึ่งเป็นแม่อยู่ภายในบ้าน  

โดย นางถาวร  ตนเองอยู่ด้วยกันจำนวน4คนแม่และหลาน2คนยังเล็กในช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้พาหลานออกไปรดผักที่ปลูกเอาไว้ที่บ้านห้วยปล่อยให้ยายเบ้าซึ่งเป็นแม่อยู่ภายในบ้านคนเดียวในระหว่างที่ตนเองจะออกไปรดผักได้มองไปดูเสืิ้อผ้าที่แขวนไว้ในตู้เห็นเสื้อมันตกลงและหมอนก็เหมือนกับมีรอยค้นจึงเอะใจได้ไปเปิดดูตู้เสื้อผ้าก็พบว่าเงินสดจำนวน8,000 บาทได้หายไปและต่างหู1คู่แหวน2วงและทองหนักจำนวน1เส้นประกอบกับเงินของยายก็หายไปจำนวน1พันบาทเหลือไว้จำนวน40บาทไว้ภายในกระเป๋าถูกคนร้ายลักไปหมดไม่รู้จะไปสอบถามใครเพราะไม่รู้ว่าใครเข้ามาภายในบ้านและแม่ก็สายตาไม่ดี

นางถาวร ยังบอกอีกว่าเงินสดจำนวน8,000บาทเป็นเงินที่ตนเองได้ขายควายถึกได้15,000 บาทเพื่อนำมาซ่อมแซมบ้านและที่เหลือ8,000บาทก็เก็บไว้ใช้เวลาจำเป็นส่วนสร้อยและทองต่างหูนั้นสามีซื้อเอาไว้ให้ในขณะที่ไปทำงานต่างประเทศและสามีก็เสียชีวิตไปแล้วหลายปีตนเองจึงได้อยู่กับบ้านเลี้ยงแม่และหลานและใช้เวลาว่างก็ไปปลูกผักไว้ขายส่งตลาดพอได้เงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องและดูแลหลาน2คนที่กำลังกินกำลังนอน

ด้านคุณยายเบ้า  บอกอีกว่าเงินของตนเองจำนวน1พันกว่าบาทเก็บไว้ส่งประกันขโมยมันยังมาขโมยและทิ้งไว้ในกระเป๋า40บาทซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่าเป็นใครเพราะตนเองสายตาไม่ดีจึงวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามหาคนร้ายมาดำเนินคดีและขอเงินให้ยายคืนเพราะยายหมดตัวแล้วไม่รู้จะไปหาเงินที่ไหนรอใช้แต่เงินเบี้ยสูงอายุกว่าจะออกมาได้ก็ตองรออีกนาน