เมื่อเวลา 16.40 น. วันที่ 3 พ.ค.67 พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบรถยนต์เบนซ์ อี300 สีดำ ทะเบียน 8 กส xxxx กรุงเทพมหานคร ของผู้ต้องหาที่ใช้ในการก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจตามยึดมาเป็นของกลาง เพื่อค้นหาลายนิ้วมือของกลุ่มผู้ต้องหา และตัวผู้เสียหาย เป็นพยานหลักฐานในสำนวนการสอบสวน 

จากนั้นเวลา 17.00 น.  พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 พ.ต.อ.ภษิต กะเตื้องงาน ผกก.สน.ดินแดง พร้อมด้วยชุดสืบสวน กก.สส.บช.น. , กก.สส.บก.น.1 และ สืบสวน สน.ดินแดง ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าของคดีร่วมกัน 

ภายหลัง การประชุมนาน 15 นาที พล.ต.ต.นพศิลป์เปิดเผยว่า ผู้เสียหายชาวจีนเดินทางเข้าเมืองไทยเมื่อวันที่ 19 เมษายน ไปพักที่พัทยาถึงวันที่ 20 เมษายน จากนั้นวันที่ 21 เมษายน เดินทางเข้ามาที่กรุงเทพฯ โดยเข้ามาพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในซอยประชาสงเคราะห์ 2 พื้นที่ สน.ดินแดงโดยฝ่ายผู้เสียหายมีเพื่อนมาร่วมพักด้วยรวม 5 คน โดยก่อนเกิดเหตุได้มารวมตัวกันที่ห้องพักของผู้เสียหาย เพื่อที่จะแลกเงินสดในการใช้จ่าย ทางกลุ่มเพื่อนได้ติดต่อประสานงานให้คนที่รู้จักกันเป็นสาวชาวลาวมาพบที่ห้องพัก ช่วงเวลา 20.00 น. วันที่ 25 เม.ย. จากนั้นไม่เกิน 8 นาที ได้มีกลุ่มคนร้ายรวมตัวกันแล้วไปที่โรงแรมดังกล่าวที่ผู้เสียหายพักอยู่และพยายามขึ้นไปบนห้องของผู้เสียหาย แต่ทางโรงแรมไม่ให้ขึ้น ละทำทีเข้าพักโรงแรมเพื่อเปิดห้องพัก 

รองผบช.น.กล่าวว่า กระทั่งกลุ่มผู้ต้องหาขึ้นมาที่ห้องพักของผู้เสียหายได้ 3 คน แอบอ้างตัวว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงบัตรตำรวจให้ผู้เสียหายดู โดยบอกว่าผู้เสียหายทั้ง 5 คน ทำความผิดเกี่ยวกับเครื่องรูดการ์ด ฝ่ายผู้เสียหายตกใจ และถูกชาย 3 คนบังคับขู่เข็ญลงมาด้านล่าง จากกล้องวงจรปิดพบว่า มีรถยนต์ที่ใช้ในการกระทำผิด 4 คัน ในการนำตัวผู้เสียหายทั้ง 5 คน ออกจากโรงแรมขับไปตามถนนวิภาวดีรังสิต

พล.ต.ต.นพศิลป์กล่าวว่า ขณะผู้เสียหายถูกนำตัวขึ้นรถโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว นำตัวมาข้างสนามฟุตบอลบุญยะจินดา  โดยบอกว่าเป็นผู้กระทำความผิดต้องจ่ายเงินให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะนั้นผู้เสียหายขอดูบัตรข้าราชการตำรวจ เพราะสงสัยว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่ กลุ่มคนร้ายให้ดูแป๊บเดียวแล้วก็เก็บเข้ากระเป๋า ตอนนั้นผู้เสียหายยังคงไม่ยินยอม ทำให้กลุ่มคนร้ายพาไปที่แฟลต บก.คฝ. หนึ่งในกลุ่มคนร้ายได้ออกไปจากรถขึ้นไปบนแฟลต เอากุญแจมือลงมาบังคับขู่เข็ญ ผู้เสียหายยังไม่หลงเชื่อ จากนั้นจึงพาไปจุดสุดท้าย ที่สนามยิงปืน บช.ศ.โดยอ้างว่า จะพาไปคุยกับบอส เมื่อพบกับบอสได้เรียกร้องเงินก้อนแรก 5 ล้านบาท ก่อนเจรจาลดเหลือ 3 ล้านบาท ผู้เสียหายจึงติดต่อเพื่อนชาวจีนที่อยู่ในประเทศกัมพูชา โอนเงินดิจิทัลให้แก่บัญชีของกลุ่มผู้ต้องหาจำนวน 65,000 USDT พร้อมกับเอาเงินสดในตัวของผู้เสียหายไปอีก 90,000 บาท จากนั้นได้ถึงได้รับการปล่อยตัว 

รองผบช.น.กล่าวว่า ทั้งนี้กลุ่มผู้เสียหายยังรู้สึกระแวงว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่ จึงยังไม่มีการแจ้งความ กระทั่งในกลุ่มเพื่อนเริ่มติดต่อคนไทยให้รับมอบอำนาจในการแจ้งความ กระทั่งวันที่ 29 เมษายน ผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความที่ สน.ดินแดง ทางพนักงานสอบสวนได้สืบหาข้อเท็จจริงพบว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง ต่อมาวันที่ 1 พฤษภาคม เวลา 20.30 น. ตัวผู้เสียหายได้เข้ามาให้การกับพนักงานสอบสวนและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการชี้จุดตั้งแต่โรงแรมจนถึงสนามยิงปืน บช.ศ. ขณะที่เพื่อนชาวจีนอีก 4 คนได้เดินทางกลับไปก่อนแล้ว ชุดสืบสวนได้ทำการไล่กล้องวงจรปิดอย่างครบถ้วน จึงทำการออกหมายจับ 3 รายที่พิสูจน์ตัวตนได้ ขณะนี้จับกุมได้แล้ว 1 รายเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เป็นอดีตตำรวจ สน.คันนายาว ลาออกไปเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2566 มีประวัติ ถูกจับกุมข้อหา พยายามลักทรัพย์ คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล 

พล.ต.ต.นพศิลป์กล่าวว่า อดีต ด.ต.รายนี้เป็นหัวหน้าแก๊งทั้งหมด โดยในกลุ่มผู้ต้องหามีทั้งหมด 11 คน วันนี้ได้ทำการขยายผลขอหมายจับกุมเพิ่มอีก 2 ราย รวมเป็น 5 ราย ใน 2 รายดังกล่าวเป็นข้าราชการตำรวจที่ยังอยู่ในราชการสังกัด บช.น. ขณะนี้จับกุมไว้ได้แล้ว 1 นาย อยู่ระหว่างการสอบสวนที่ บก.สส. บช.น. โดยตำรวจคนดังกล่าวยอมรับว่าเป็นหนึ่งในขบวนการอุ้มรีดทรัพย์ ส่วนตำรวจที่เหลืออีก 1 ราย ยังอยู่ในราชการได้มอบหมายให้ กก.สส.บก.น. 1 ติดตามตัวจับกุมต่อไป ขณะนี้พยายามเร่งรัดรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับผู้ต้องหาที่เหลือทั้งหมดต่อไป

ในการตอบข้อซักถามของสื่อมวลชน พล.ต.ต.นพศิลป์กล่าวว่า ขณะนี้กำลังสืบสวนขยายผลว่า ผู้ต้องหาทราบได้อย่างไรว่า มีกลุ่มผู้เสียหายอยู่บนห้อง หลังใช้เวลาติดต่อชาวลาวเพียง 8 นาที อาจมีคนในที่เกี่ยวข้องหรือไม่ รวมถึงการให้ข้อมูลให้แก่กลุ่มผู้ต้องหาว่า รู้ได้อย่างไรว่า กลุ่มคนจีนมีเงินดิจิทัล อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 6 คน ยังอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบว่า เป็นบุคคลใดและมีข้าราชการตำรวจร่วมด้วยหรือไม่ 

พล.ต.ต.นพศิลป์กล่าวว่า นักธุรกิจชาวจีนมีแต่บัตรเครดิตมา แต่ไม่มีเครื่องรูดบัตร จึงได้ติดต่อชาวลาวมาเพื่อจะขอรูดบัตรเพื่อแลกเงินสดไปใช้จ่าย ตำรวจมีข้อสงสัยว่า ชาวลาวเกี่ยวข้องกับคดีด้วยหรือไม่ ในส่วนของตัวผู้เสียหายทั้ง 5 คนยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบของ ตม.ว่าเข้ามาในเมืองไทยเมื่อไหร่ อย่างไร มาทำธุรกิจอะไร 

รองผบช.น.กล่าวว่า ทั้งนี้จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดยังมีประเด็นข้อสงสัยของตำรวจชุดสืบสวนว่า ผู้เสียหายทั้ง 5 คนถูกนำตัวไปทั้ง 5 คนหรือไม่ เพราะพบในกล้องวงจรปิดเพียง 4 คน เป็นจุดที่ชุดสืบสวนยังจะต้องคลี่คลายว่าผู้เสียหายทั้ง 5 ถูกเอาตัวไปทั้งหมดกี่คน สำหรับกระเป๋าเงินดิจิตอล วอเลตต์ กลุ่มคนร้ายคาดว่า ตำรวจไม่สามารถตรวจสอบหรือยึดเงินคืนได้ ทั้งนี้ตำรวจได้ประสานกับผู้ให้บริการซื้อขายเงินดิจิตอล เพื่อที่จะทำการอายัดเงินให้ได้ทันทีหลังเกิดเหตุ ทั้งนี้จากเส้นทางการเงินของตำรวจพบว่า มีเส้นทางการเงินในการโอนเข้าบัญชีเป็นทอด ๆ ต่อเนื่องกัน ในส่วนหนึ่งโอนมาให้ ด.ต.หัวหน้าแก๊งจำนวน 700,000 บาท ส่วนที่เหลือจะทำการตรวจสอบและขอหลักฐานกับทางธนาคารต่อไป สำหรับตำรวจที่อยู่ในราชการ ร่วมกระทำความผิด เสนอให้ผู้บังคับบัญชาทำการสอบสวนวินัยและให้ออกจากราชการไว้ก่อน